เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    หมายเลขกระทู้ #7802 = 7+8+0+2 = 17 ..dencee

    <table style="width: 507px; height: 83px;" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 17 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 16 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </center> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%">Little Duck*</td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2009
  2. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ;aa36
    คุณ ลูกเป็ดน้อย

    -------------------------------------------------------------------
    [​IMG] Mini Statistics
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="100%"><DL class="smallfont list_no_decoration profilefield_list"><DT class=shade></DT></DL>

    [​IMG]

    </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>Show All Statistics


    [​IMG] Friends

    Showing 6 of 17 Friend(s)
    ----------------------------------------------------------------------------

    [​IMG]
     
  3. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    คุณจินต์ที่รัก..ไวด์ฮาร์ทขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ ที่ช่วยกรุณาตีความหมายฝันให้ได้ทราบสัญลักษณ์นั้นแทนถึงสิ่งใดบ้าง ไวด์ฮาร์ทก็ได้เอาแต่ฝันเพราะรู้น้อยมากและไม่ถนัดด้วยค่ะ ขออาศัยความรู้จากเพื่อน ๆ ในกระทู้นี้เป็นที่เรียนรู้และหาประสบการณ์การแปลความฝันในอีกส่วนหนึ่งด้วยนะคะ ขอขอบคุณอีกครั้งเป็นอย่างยิ่งค่ะ<O:p</O:p
     
  4. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    สองวันมานี่ แปลกดี เกิดความสงสัยขึ้นมาบ้าง ว่าเรามีเลขรหัสประจำตัวกับเขาหรือเปล่า แล้วเขาเอาเลขประจำตัวมาจากไหน วันนี้มาสะดุดกับราคาเฟอร์นิเจอร์ของคุณwideheart 252 อิอิ
     
  5. bOy12O

    bOy12O สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    อยากถามอะไรนิดหน่อยครับ คงนอกเรื่องไปหน่อย
    คือ หนังสือชุดนี้มีเป็นหนังสือจริงๆไหมครับ -*- ถ้ามีสำนักพิมพ์อะไรครับ
     
  6. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ฝันว่า.. เพื่อนร่วมงานชื่อพี่แดง(เคยทำงานด้วยกันในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแถวเพลินจิตตึกภาณุนีสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2519 ประมาณเกือบเก้าเดือนบริษัทก็ปิดกิจการไป) วางปากกาลงแล้วดันตัวห่างจากโต๊ะทำงานลุกจากเก้าอี้ที่เธอนั่ง ความรู้สึกบอกฉันว่าเธอเบื่อกับตัวเลขบัญชีที่ทำมานาน ได้จังหวะจึงเข้านั่งเสียบแทนที่พี่เขาก็ไม่ว่าอะไรแต่กลับมองท่าทีที่ฉันวางมาดนักบัญชีใหม่วางมือบนสำเนาบิลสีเหลือที่แยกออกจากใบจริงแล้วเลื่อนมันมาตรงหน้าพิจารณาดูบิลรายการในสำเนาใบนี้แทบมองไม่เห็นอะไรเลย ฉันพูดโดยไม่เงยหน้ามองพี่เขา สำเนาบิลนี่จะส่งไปให้ฝ่ายจัดเก็บเมื่อมันมองไม่ออกอย่างนี้ แล้วฝ่ายนั้นจะเก็บเรียงได้อย่างไรล่ะ พูดเสร็จแล้วก็หันไปหยิบสำเนาคาร์บอนสีดำทางขาวมือบนโต๊ะนี้ โห..แต่ในใจสำเนาคาร์บอนพลุนแล้วพรุนอีกไม่มีเนื้อที่ว่างเรียบให้เห็นที่จะเอามาสอดทับเขียนได้อีกถูกใช้อยู่แผ่นเดียวแล้วงี้มันก็ปวดตาตายเลย เหมือนพี่นักบัญชีเดาความคิดและอาการฉันออก เถิบเข้ามาใกล้ก้มตัวหัวติดกันแล้วใช้ปากกาแท่งเดิมเขียนทับลงบิลสำเนาแล้วพูดว่าสำเนาใบนี้มีเลขกำกับไว้สี่ตัว....ถ้ามีบิลใบไหนมาอีกทีโต๊ะตัวเลขมันก็จะไร่เรียงกันเรื่อย ๆ มาอย่างนี้เข้าใจไหม ฉันเงียบไม่พูดไม่ตอบ คิดอยู่เองสำเนาคาร์บอนใบเดียวอุตส่าห์ตัดออกเป็นสี่เหลี่ยมเล็กปะติ๋ววางอยู่ข้าง ๆ นี้ยังไม่ยอมเอามาใช้ขี้เหนียวสุดยอด แต่ก็มีเสียงตามมาว่าพี่ตั้งให้เธอเป็นสมุห์บัญชีใหญ่ตั้งแต่นี้ เท่านั้นแหละฉันเลิกว่าพี่เขาเลย แหะ./ภาพฝันต่อมา..เดี๋ยวมีเวลาจะมาเล่าให้ฟัง<O:p</O:p
    <O:p

    ช่วงนี้ขอหยุดเล่าฝันสักสี่ช้าห้าวันไปเที่ยวต่างจังหวัดวันพรุ่งนี้อ่ะค่ะ กลับจากเที่ยวแล้วจะมาโพสต์ให้ฟังกันใหม่นะคะ เพื่อน ๆ ที่รัก
     
  7. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    ยินดีต้อนรับคุณ bOy12O สู่ห้องวิทย์ฯค่ะ เดี๋ยวรอเพื่อน ๆ มาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับหนังสือที่คุณถามนะคะ
     
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    คิดถึงเหมือนกันค่ะ ...[​IMG]

    อืมม์...คุณจินต์ไปแต่งนิยายกันต่อ ไหมคะ??
    หรือใครว่างนึกสนุกก็ไปลองขีดๆเขียนๆ กัน

    อันนี้ เป็นเอกสาร ออนไลน์ที่ คุณ Zipper เคยรวบรวมไว้ให้
    เพื่อให้พวกเราเข้าไปแต่งนิยายเรื่องนี้กัน
    เอามาให้อ่านเล่น ระลึกความหลังกันไปพลางๆ ระหว่างรอ พี่นักเขียน ดีกว่า

    คลิกๆ --->> เหนือโลกเหนือจินตนาการ
     
  9. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ;36
    ยินดีต้อนรับ คุณbOy12O เข้าสู่ห้องวิทย์ฯ ค่ะ

    คำถาม ไม่นอกเรื่องเลยค่ะ ตรงประเด็นที่สุดแล้ว
    หนังสือชุดนี้ มี ทั้งหมด 10 เล่มค่ะ มีจริงๆค่ะ จับต้องได้ อ่านได้
    (เดรดอ่านจนยับเยินไปหมดแล้ว...[​IMG])

    แต่ไม่มีวางขายแล้ว...ตอนนี้ ทางที่จะศึกษาหนังสือชุดนี้ได้ สะดวกที่สุด
    ให้เข้าไปที่นี่ค่ะ..index


    ขอให้มีความสุขกับการอ่าน นะคะ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00918.JPG
      DSC00918.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.6 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2009
  10. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    ในความฝัน. ละแวกแถวบ้านฉันกำลังเหม่อนั่งอยู่บนม้านั่งยาวมีพนักพิงหลัง ครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยุ่อย่างเงียบ ๆ คนเดียว ผสมกับความรู้สึกเหมือนมีคนกำลังจ้องมองอยู่จึงหันไปทางขวาเห็นครอบครัวของเพื่อนบ้านกันเองยืนกันอยู่หลายคนห่างจากฉันระยะไม่ไกลเกิน ฉันยิ้มให้แต่พวกเขากลับเฉยเมยแล้วดันตัวเด็กหญิงตัวน้อยเดินยังไม่ค่อยแข็งแรงฉันนึกว่าเขาส่งมาให้เล่นเป็นเพื่อนเล่นด้วยกัน เดินมายกมือเหมือนล้อเล่น เข้ามาอีกจนชิดส่งตาแป๋วน่ารักฉันเอามือลูบผมไฟของเด็กสองครั้ง เคียงคอล้อเล่นอย่างนึกสงสารแต่ชั่วเดี๋ยวเดียวเด็กใช้มือฟาดลงที่ตักฉัน แล้วเดินกลับไปหากลุ่มครอบครัวนั้น ฉันไม่ถือสาเด็ก ๆ ก็คือเด็ก เกิดอะไรขึ้นกับพวกนั้นยิ่งกลับเป็นเดือดเป็นแค้นฉันทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย คราวนี้ให้เด็กถือมือกรึงยาวที่น้ำหนักเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ตัวโต ๆ ถือ แต่เด็กน้อยกลับจับอย่างชำนาญเหมือนไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักของไม้ปลายมนโคนใหญ่ตรงเข้ามาจะทิ่มแทงฉัน ๆ เอี้ยวตัวหลบทันปัดไม้นั้นห่างออก ยืนลุกขึ้นตั้งตัวถอยห่างม้านั่ง ตั้งท่ารับดึงไม้มันออกจากมือน้อย ๆ นั้น หนึ่งในครอบครัวคนหนึ่งเป็นผู้หญิงเข้ามาแย่งไม้ไปได้จะทิ่มเข้าที่ลูกตาคราวนี้อารมณ์ฉันปุดขึ้นมาอย่างเหลืออดแค่ยืนนิ่งไม้เสือกเข้ามาจับปลายไม้ได้หักซะย่อยยับ คนจากที่ไหนก็มามุงดู รวมพวกญาติ ๆ ฝ่ายฉันกับครอบครัวนั้นเลยกลายเป็นศตรูกันโดยปริยาย นังนั่นพูดโกรธแกทำร้ายเด็ก ฉันตอกกลับว่ามึงหาเรื่องกู มึงดูซิใคร ๆ ก็เห็นเป็นพยานว่ากูทำเด็กหรือเปล่า มึงไปเลยนะกูไม่อยากมีเรื่อง มันพูดสวนเออแล้วจะได้เห็นดีกันกูจะไปแจ้งความเอามึงเข้าคุกให้ได้ ฉันด่าไม่ยั้งไล่หลังพวกมัน เชิญพวกมึงไปเลย เอากะแม่..งมึงสิ อีสั..ตว์ภาพต่อจากฉันกลับจากทำงานจะเดินเข้าบ้านแต่บ้านฉันกับบ้านพวกมันอยู่ล็อคแถวเดียวกันของมันอยู่หลังแรกอีกสองหลังเป็นบ้านเพื่อนคนอื่นแล้วจึงเป็นบ้านของฉัน ๆ ไม่อยากเดินตัดผ่านหน้าบ้านมันตรง ๆ โค้งอ้อมออกมาแล้วก็เข้าบ้านสลัดร้องเท้าส้นสูงกระเด็นอย่างไม่สนใจ คนในบ้านไปไหนกันหมดส่งเสียงหลานคนโต เงียบไม่มีใครอยู่ ฉันก็เลยเดินออกจากหลังบ้านไปที่ถนนใกล้ ๆ บ้านจะหาหลานคงอยู่แถวนี้แต่กลับเจออีนางนั่นยืนดักรอฉันอยู่อย่างใจเย็น ยืนไม่ยืนเปล่าฉันเห็นมีดดายยาวเฟือยขาววับที่มันถืออยู่ ด้วยสัญชาติญาณมองต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างทางฉันรีบวิ่งปีนขึ้นไปเหมือนเหาะอยู่บนยอดต้นไม้สูงเท่าเสาไฟฟ้าเกือบสามต้น ฉันตะโกนเรียกคนช่วยได้เสียงเดียว อยู่ ๆ เสลดดันพันคอเสียงแหบตะโกนไม่มีเสียง อีเพชรฆาตตะโกนขึ้นมา มึงอย่าเรียกใครเข้ามาช่วยเลยไม่มีทาง แล้วกูรู้ด้วยมึงกลับจากทำงานเวลาไหน ใครอยู่หรือไม่อยู่ตอนไหนกูรู้หมด ฉันไม่โต้กลับคอยระวังดูว่านังบ้าเลือดมันจะปีขึ้นมาฆ่าฉันนี่สิ มองหาใครเหมือนเป็นใจให้มัน มันขึ้นมาแล้ว ฉันก้มดูตลอดไม่วางตา มันไม่ได้ปีนขึ้นแต่มันใช้วิชาตัวเบาวนรอบต้นไม้ใหญ่ที่มีแต่กิ่งใหญ่ยาวบ้าง เล็กบ้างซึ่งหามีใบไม้สักใบไม่ คล่องแคล่วว่องไวเหมือนฟิลม์หนังร่างทั้งร่างไม่สัมผัสแตะลำต้นใหญ่เลย วนขึ้น ๆ มาเกือบค่อนช่วงของต้นไม้ ฉันคิดมือเปล่ากับมีดดาบฉันต้องตายแน่ ๆ ไม่มีทางอื่นไปได้เริ่มรู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมาทันใดแต่ชั่วเดียวพอ ๆ กับสติมาทันบอกกับตัวเองว่าไหน ๆ จะตายก็ขอตายให้สมศักดิ์ศรีเถอะวะ และบังเกิดความคิดมับคว้ากิ่งใหญ่สุดดึงด้วยกำลังแห่งจิตหลุดออกมา ได้จังหวะยกทุ่มพุ่งลงไปใส่หัวคนบ้าเลือดร่วงผลอยตกลงไปพร้อมกับสติสัมปะชัญญะรู้สึกควงเหมือนสว่านตื่นขึ้นจากภวังค์./ ตื่นขึ้นมาดูเวลาตีห้ายี่สิบห้านาทีเป๊ะ จับหัวใจยังเต้นอยู่เลย กลัวเหมือนกันหรือนี่ อิอิ..<O:p</O:p
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ;welcome3
    ยินดีต้อนรับคุณบอยครับ
    ถ้าสนใจก็ค่อยๆอ่านไปครับ หนังสือชุดนี้มีความรู้และไขคำตอบในหลายๆเรื่องที่เราเคยสงสัยมานานครับ
    โดยเฉพาะ "ธรรมชาติของชาติภพ" เป็นเล่มปูพื้นฐานในการอ่านต่ออีก 9 เล่มครับ

    นอกจากในเวปพี่นักเขียนแล้วก็มีให้ดาวน์โหลดไปอ่านเหมือนกัน..
    (เชิญคลิก link ข้างล่างและมีความสุขในการอ่านครับ)


    ขยายความธรรมชาติของชาติภพ

    จิตวิญญาณประสานกาย

    ความฝันกับวิถีของจิตวิญญาณ

    ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ

    อิสระแห่งความปรารถนา


    รับฟังเป็นเสียงก็มีครับ (audio book)
    AudioBook

    เพราะจิตวิญญาณของเธอสัญญา
    กับจิตวิญญาณของฉันไว้ว่า
    เมื่อเธอเลือกมาถือกำเนิด
    เป็นร่างกายเนื้อหนังและจดจ่อกับ
    สภาวะทางกายภาพจนกระทั่ง
    จิตวิญญาณของเธอลืมเลือน
    พลังอำนาจของต้นกำเนิดไป
    ฉันจะกลับมาช่วยรื้อพื้น
    ความทรงจำให้เธอ
    ณ วินาทีนี้ ..........ที่เธอ
    ถือหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือของเธอ
    ฉันได้ทำตามสัญญาของฉัน
    และเธอได้ทำตามสัญญาของเธอแล้ว

    www.novaanalai.com


    เธอจะศึกษาเล่มใดก่อนหลังก็ย่อมได้ ยกเว้นเล่มที่มีภาคต้นและภาคปลายเป็นลำดับ เพราะข้อมูลความรู้ทั้งหมดประกอบกันขึ้นเป็นกุญแจ ที่จะเปิดประตูสู่ธรรมชาติของโลกแห่งความเป็นจริงของ จิตวิญญาณซึ่งเป็นแก่นแท้ของเธอทั้งหลาย ผู้ที่ศึกษาและเข้าใจในสาระเหล่านี้ย่อมมีความปรารถนาที่จะถ่ายทอดให้ผู้อื่นเสมอ

    bubu
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2009
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ***[สารบัญหนังสือทั้ง 10 เล่มครับ]***

    โนวา อนาลัย ขยายความ
    ธรรมชาติของชาติภพ

    ๑ โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ
    ๒ แสวงหาผู้รู้-ผู้ตอบคำถาม
    ๓ เธอคืออะไร
    ๔ ธรรมชาติการรับรู้ของจิตวิญญาณ
    ๕ จิตวิญญาณต่างร่างแต่รวมมิติ ในอดีต-อนาคตชาติ
    ๖ จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบันชาติ
    ๗ จิตวิญญาณ(เสมือน)ร่วมร่างแต่ต่างมิติ ในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตชาติ
    ๘ อะไรมาเป็นเธอ : การถ่ายทอดจิตวิญญาณ สู่ความเป็นตัวตนในแต่ละชาติภพ
    ๙ ธรรมชาติของภูมิภพ
    ๑๐ การเป็นอิสระจากขีดจำกัดของโลกมนุษย์
    ๑๑ อำนาจแห่งปัจจุบัน
    บทฝึกที่ ๑ การใช้อำนาจแห่งปัจจุบันเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต
    ๑๒ บทละครของชาติภพ
    บทฝึกที่ ๒ สัมผัสกับโลกภายในแห่งละครของชาติภพ
    ๑๓ ความสัมพันธ์ของชาติภพ
    ๑๔ ความสามารถอันลึกลับของจิตวิญญาณ


    ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ

    ๑ บทนำสู่ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
    ๒ สติสัมปชัญญะของนักฝัน
    ๓ เครื่องพรางของโลกและจักรวาลทางกายภาพ
    ๔ ประสาทสัมผัสภายใน
    ๕ ความฝัน-การจดจำความฝัน
    ๖ ความฝันกับสุขภาพ
    ๗ ความฝันกับการรู้เห็นอนาคต
    ๘ ตัวตนในความฝัน กับ ตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้
    ๙ ความฝันกับมิติของจิตวิญญาณ
    ๑๐ การเปลี่ยนวิถีของจิตวิญญาณด้วยภวังค์และการฝัน


    จิตวิญญาณประสานกาย

    ๑ บทนำสู่จิตวิญญาณประสานกาย
    ๒ ความรู้สึกนึกคิด-ทัศนคติและความเชื่อกับสุขภาพ
    ๓ ความสมบูรณ์พูนสุข กับ สุขภาพ
    ๔ การท้าทายและการปฏิปักษ์ต่อความตาย-กับสุขภาพ
    ๕ คนไข้ตรอมใจ คนไข้ไร้หัวใจ กับวิทยาการทางการแพทย์
    ๖ คำวินิจฉัย-กับสุขภาพ
    แบบฝึกหัดชำระจิตใจให้ปลอดโปร่ง
    ๗ การสะกดจิตตนเองด้วยความเชื่อซึ่งก่อให้เกิดโรค
    แบบฝึกหัดสะกดจิตตนเองอย่างเป็นธรรมชาติ
    แบบฝึกหัดสะกดจิตตนเองเพื่อเปลี่ยนความเชื่อ
    ๘ การรักษาโรคด้วยการสะกดจิตตามธรรมชาติ
    ๙ ภาวะของการเป็นโรค กับภาวะของการปลอดโรค
    ๑๐ ความสัมพันธ์ของภาวะในวัยเด็กกับสุขภาพ และเงื่อนงำ สำหรับพ่อ-แม่และผู้ปกครอง
    ๑๑ ชาติภพกับสุขภาพ
    ๑๒ การดำเนินชีวิตด้วยวัตถุประสงค์ที่ขัดแย้งหลายชาติภพ-หลายมิติ
    ๑๓ การเฉยเมยต่อคำวินิจฉัย และวิธีการรักษาโรคของแพทย์
    ๑๔ การเริ่มต้นใหม่หมด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตต่อไป
    แบบฝึกหัดประสานความเชื่อของจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก
    แบบฝึกหัดรักษาโรคด้วยจินตภาพ
    แบบฝึกหัดสื่อสารกับจิตไร้สำนึกส่วนที่ควบคุมสุขภาพ
    ๑๕ โรคร้ายและความตายซึ่งเกี่ยวพันธ์กับอิทธิพลของชาติภพหน้า
    ๑๖ สารจากเทพ-เทวดาผ่านคนทรง กับความขัดแย้งของความเชื่อ
    ๑๗ การเป็นอิสระจากโลกทางกายภาพ
    ๑๘ การสร้างสรรค์ร่างกาย
    ๑๙ พลังอำนาจของความเชื่อ กับ ร่างกายเนื้อหนัง
    ๒๐ ร่างกายเนื้อหนัง คือ ผลรวมของภาวะจิต
    ๒๑ สุขภาพกับความคิดในแง่บวกและลบ
    ๒๒ สุขภาพกาย-สุขภาพใจ กับการสร้างสรรค์
    ๒๓ ความสมบูรณ์พูนสุข กับ ประสบการณ์ชีวิต


    ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ

    ๑ บทนำสู่ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ
    ๒ ก่อนกำเนิดจักรวาล
    ๓ จุดเริ่มต้นของจักรวาล
    ๔ เผ่าพันธุ์ของสติสัมปชัญญะที่ตื่นขึ้นจากความฝัน
    ๕ ในฝันโบราณกาล
    ๖ การสูญเสียตัวตนในความฝันและ การได้กำไรจากจิตวิญญาณ
    ๗ ของขวัญและหนี้จากพันธุกรรมและชาติภพ
    ๘ โลกของจินตนาการกับโลกของเหตุผล
    ๙ เหตุการณ์หลัก-ภายใน กับเหตุการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง-ภายนอก
    ๑๐ หลักการแห่งความพึงพอใจ
    ๑๑ ปาฏิหาริย์ การอนุรักษ์ กับการเกิดอย่างฉับพลัน
    ๑๒ เมฆฝัน


    อิสระแห่งความปรารถนา

    ๑ ความปรารถนาที่ถูกลืม
    ๒ สัญญาระหว่างจิตวิญญาณ
    ๓ โลกส่วนตัว-แห่งความเป็นจริง-ของเธอ
    ๔ ภาพชีวิตของโลกส่วนตัว
    ๕ ความเชื่อส่วนบุคคล กับโลกแห่งความเป็นจริง
    ๖ กระแสจิตกับความเชื่อ
    ๗ ความเชื่อ กับ จินตนาการและอารมณ์
    ๘ ผลลัพธ์ของความเชื่อส่วนบุคคลและส่วนรวมที่มีต่อประสบการณ์ชีวิต
    ๙ การทำลายล้างอันสร้างสรรค์
    ๑๐ ความฝัน-ความเป็นไปได้ กับประสบการณ์ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง
    ๑๑ ความรัก กับ การยอมรับและการปฏิเสธ
    ๑๒ ความเชื่อกับชีวิตใหม่


    ชีวิตนอกเหนือชาติภพ

    ๑ ชีวิตนอกเหนือชาติภพ
    ๒ ตัวตนของเธอ กับ โลกบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้
    ๓ จุดตัดของเส้นทางแห่งความเป็นไปได้
    ๔ ความเป็นอมตะของจิตวิญญาณกับ เส้นทางแห่งความเป็นไปได้
    ๕ ชาติภพกับ เส้นทางแห่งความเป็นไปได้
    ๖ พันธุกรรม กับ การรู้การล่วงหน้า
    ๗ กำเนิดจิตวิญญาณของมนุษย์และความทรงจำ
    ๘ การขยายตัวของสติสัมปชัญญะ
    บทฝึกฝนที่ ๑ สัมผัสกับความเป็นไปได้อื่นๆ
    ๙ วิวัฒนาการของมนุษย์
    ๑๐ ตำนานกับพัฒนาการของตัวตนภายนอก
    ๑๑ พันธุกรรมกับความลำเอียงของชาติภพ
    ๑๒ เทวดา-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับการพัฒนาจิตวิญญาณ
    ๑๓ จิตวิญญาณของสรรพสิ่งทั้งหลาย
    ๑๔ ความฝันซ้อน-หลากมิติ
    ๑๕ ความบังเอิญ
    ๑๖ ชีวิตหลังความตาย กับ ความเป็นไปได้
    บทฝึกฝันที่ ๒ เผชิญกับเหตุการณ์หลากมิติ
    บทฝึกฝนที่ ๓ เผชิญกับความเป็นไปได้อื่นๆ
    บทฝึกฝนที่ ๔ เผชิญกับตัวตนต่างชาติภพ
    บทฝึกฝนที่ ๖ ปีนป่ายต้นไม้แห่งกาลเวลา
    ๑๗ เทพ-เทวดา-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับ มนุษย์
    ๑๘ อิสระแห่งความปรารถนา กับ การเป็นมนุษย์
    บทที่ฝึกฝนที่ ๗ ก้าวไปสู่โลกแห่งความเป็นไปได้โลกอื่น
    ๑๙ โลกแห่งความฝันกับ วัตถุประสงค์ของความฝัน
    ๒๐ ภาพถ่ายอันมีชีวิตในความฝัน
    ๒๑ ศิลปินผู้ฝันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
    ๒๒ นักฟิสิกส์สาขาจิตวิญญาณ
    บทฝึกฝนที่ ๘ การมีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสติสัมปชัญญะ
    ๒๓ นักวิทยาศาสตร์สาขาจิตวิญญาณ
    ๒๔ แพทย์ผู้สมบูรณ์แบบ
    ๒๕ บทส่งท้าย


    อมตะแห่งจิตวิญญาณ (ภาคต้น)

    ๑ บทนำสู่ อมตะแห่งจิตวิญญาณ
    ๒ มิติและหน้าที่ในปัจจุบัน-ของฉัน มิติและหน้าที่ในอนาคต-ของเธอ
    ๓ สภาพแวดล้อมในปัจจุบันของฉัน สภาพแวดล้อมในอนาคตของเธอ
    ๔ จุดประสานมิติ กับ การก่อเกิดวัตถุธาตุด้วยจิตวิญญาณ
    ๕ จิตวิญญาณกับ ธรรมชาติของการรู้เห็น
    ๖ ความเป็นไปได้ของจิตวิญญาณ
    ๗ ความฝัน-ความตาย กับ สติสัมปชัญญะ
    ๘ ประสบการณ์ในการตาย
    ๙ ภาวะของความตาย-ระหว่างการมีชีวิตอยู่
    ๑๐ กลไกของชีวิตระหว่างชาติภพ


    อมตะแห่งจิตวิญญาณ (ภาคปลาย)

    ๑๑ ชาติภพกับเพศ
    การทดลอง รู้เห็นรูปกายภายใน
    ๑๒ จุดเริ่มต้น-จุดจบ กับโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    ๑๓ อารยธรรมของจิตวิญญาณ
    ๑๔ โลกแห่งความเป็นจริง บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้
    ๑๕ ธรรมชาติของความดี-ความชั่ว
    ๑๖ การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่ระดับต่างๆ
    ๑๗ จดจ่อกับโลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่น-มิติอื่น ด้วยสติพร้อม
    ๑๘ บุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนหลากมิติ


    โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ (ภาคต้น)

    ๑ บทนำ สู่ โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    ๒ สติสัมปชัญญะในระดับเซลล์กับ การแปรเปลี่ยนพันธุกรรม
    ๓ สำรวจโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    บทฝึกฝนที่ ๑ การกระทำอันเป็นไปได้
    ๔ ระบบรหัสของสติสัมปชัญญะ
    บทฝึกฝนที่ ๑ ขยายการรู้เห็นของสติสัมปชัญญะ
    ๕ ท่องเที่ยว-รู้เห็น ด้วยสติสัมปชัญญะอันฉับไว-กว้างไกล
    ๖ การเผชิญกับภูตผี-ปิศาจหรืออสูรกาย ในขณะที่จิตวิญญาณจากร่าง
    ๗ การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปสู่โลกอื่นมิติอื่น
    ๘ พื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริง
    ๙ การใช้อิสระแห่งความปรารถนาในโลกแห่งความเป็นจริง
    ๑๐ ภาพและเสียง ของโลกแห่งความเป็นจริงภายใน
    ๑๑ ความสำคัญของปัญญา มุมมองส่วนบุคคล และ สติสัมปชัญญะระดับต่างๆ
    ๑๒ การเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติโดยทางตรงและทางอ้อม
    บทฝึกฝนที่ ๓ การปรับระบบชีวภาพและชีวจิต
    บทฝึกฝนที่ ๔ การปรับคลื่นเพื่อรับสัญญาณ
    ๑๓ การติดต่อสื่อสารกับคนตาย
    ๑๔ แสวงหาสิ่งใด-ในโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    บทฝึกฝนที่ ๕ ก้าวไปสู่โลกกว้างต่างมิติ
    บทฝึกฝนที่ ๖ บันทึกภาพเหตุการณ์ในความฝัน
    ๑๕ ประวัติศาสตร์ของภาวะจิต กับ ฝันร้าย
    ๑๖ ตื่นขึ้น-ในความฝัน
    บทฝึกฝนที่ ๗ ควบคุมเส้นทางในโลกกว้างต่างมิติ
    บทฝึกฝนที่ ๘ กำหนดประสบการณ์ในโลกกว้าง
    ๑๗ เธอ กับ จิตวิญญาณ ต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์


    โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ (ภาคปลาย)

    ๑๘ มุมมอง กับ ภาษาของโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    บทฝึกฝนที่ ๙ ภาษาใหม่ของโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    ๑๙ จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ กับ เผ่าพันธุ์ของมนุษย์
    ๒๐ แบบพิมพ์เขียวของภาวะจิต
    ๒๑ เกาะน้อยอันโดดเดี่ยว
    ๒๒ ชาติภพ กับ กาลเวลา
    ๒๓ การรู้การณ์ล่วงหน้ากับ การเจริญวัย
    ๒๔ ดวงดาวกับ จิตวิญญาณ
    ๒๕ จิตวิญญาณของทารกในครรภ์มารดา
    ๒๖ บรรพบุรุษกับชาติภพที่อยู่ในโครโมโซม
    ๒๗ สัมพันธภาพกับจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์
    ๒๘ ภาวะของโลกและชีวิต
    ๒๙ เผ่าพันธุ์ของสติสัมปชัญญะ ญาติมิตรทางจิตวิญญาณ
    ๓๐ วงมโหรีของสติสัมปชัญญะ
    ๓๑ ตัวตนอันจำกัด และ ตัวตนอันปราศจากขีดจำกัด
    ๓๒ การก้าวหน้าไปสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้อื่นๆ
    ๓๓ โลกกับเส้นทางแห่งความเป็นไปได้
    ๓๔ ตัวเธอคือโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
    ๓๕ บทส่งท้าย

    :z8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2009
  13. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ดาลิ้งค์ของจินต์ ความฝันของไวด์ฮาร์ดซึ้งกินใจจินต์อีกแล้ว แดงเธอคง
    เบื่อหน่ายกับสิ่งที่เธอเป็นและทำมานานแสนนานแล้ว เพราะมันเป็นวงจรที่ซ้ำซาก และยังคงวนเวียนอยู่อย่างเดิม (คิดดูสิ ก๊อปปี้พรุนแล้วพรุนอีก อิ อิ) เธออาจจะพักยาว หรือทำให้มันจบวงจรด้วยตัวเธอเอง นั่นไม่มีใครรู้นอกจาก แดง เองเท่านั้น เมื่อมีใครอาสามาทำหน้าที่แทน แดง ย่อมดีใจ เพราะจะมีคนมารับหน้าที่นี้ต่อจากเธอไป ในระดับจิตวิญญาณภาระบางอย่างถูกปลดเปลื้อง ดีใจกับ แดงจังเลย
     
  14. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จินตวดีได้มีโอกาสไปร่วมฝึกสมาธิกับอาจารย์คณานันท์ที่สวนลุมพินี จำได้ว่าครั้งแรกที่ได้พบคุณคณานันท์เป็นการไปฝึกที่วัดป่าเขาล้อม แต่เนื่องจากติดภารกิจจึงพลาดการฝึกไป แต่ได้ไปฟังสังโยชน์สิบแทน ใครจะไปรู้ว่า แค่สังโยชน์สิบได้เปลี่ยนชีวิตเรามากมายไปตั้งแต่วันนั้น

    แค่ฟังครั้งแรกที่วัดป่าเขาล้อม (ขอบอกไม่เคยฟังมาก่อนในชีวิต) เราใช้สติพิจารณาตามตลอด พอถึงข้อสิบ (ไปอ่านเองว่าระบุว่าอย่างไร) เราเริ่มน้ำตาร่วง ก็คิดว่ามันเป็นเพราะอะไรกัน พอเมื่ออาทิตย์เมื่อวาน ตอนปฏิบัติสมาธิตอนแรกที่สอนให้ใช้จิตนิ่งเรายังไม่รู้สึกอะไร แต่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างมาปรากฏสกัดกั้นเอาไว้ไม่ให้เห็นอะไร พอช่วงสองอยู่ ๆ เราก็กระเถิบไปนั่งข้างหน้าเลย ปรากฏว่าช่วงนั้นคุณคณานันท์ได้ยกเอาสังโยชน์สิบมาพูดอีก เราได้พยายามใช้จิตนิ่งที่คุณคณานันท์สอนในการฟังน้อมเข้ามาสู่ใจ และใช้สติพิจารณาตามตลอด จิตเห็นดีงามด้วยทุกข้อตามที่ได้รับฟัง จิตข้างในรู้สึกเย็น คิดตาม (แปลกครั้งที่สองนี้ดีกว่าครั้งแรก เพราะครั้งแรกที่สวนลุมแผ่เมตตาไม่ค่อยออก แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าแผ่ได้ตลอดเวลา จิตเย็นขึ้น และสัมผัสได้ถึงกระแสเมตตาของเพื่อนรอบ ๆ ข้าง) พอมาถึงข้อสิบ พอจิตได้ฟังพินิจพิเคราะห์ตามแล้ว น้ำตาเริ่มหลั่งออกมาจากตาทั้งสองข้างทั้งที่ยังนั่งสมาธิอยู่ ก็พยายามกำหนดตลอด ที่จักระที่ 6 กลางหน้าผากปรากฏเป็นเหมือนการระเบิดของอะไรบางอย่างเป็นแสงสีน้ำเงินวิบวับกระจายไปทั่ว จึงลึมตามขึ้น เมื่อหลับตาอีกครั้งก็เห็นอีก แต่แผ่กว้างจนกลายเป็นลักษณะจอภาพไป มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงในจิตเราแล้ว

    เราก็เรียนมาเยอะ มิติ จักรวาล ความฝัน ศึกษามาหมด แต่มันก็ยังเลยไปหมดเช่นเดียวกัน เพราะภายใต้มิติ จักรวาล สารพัดพลังนั้น ล้วนแต่ไม่มีจุดสิ้นสุด เพราะยังคงวงเวียนอยู่ภายใต้วัฏฏะสงสารอันไม่มีที่สิ้นสุดนั้น จิตเราที่ศึกษามาเยอะน้อมรับทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเดียวคือ นิพพาน เพราะจิตเรายังยึดติดอยู่กับการเวียนว่ายตายเกิด จิตข้างในมันยังอยากเดินทางต่อไปด้วยความหลงผิดว่านั่นคือบรมสุข ดังนั้นเมื่อเราฟังถึงสังโยชน์ข้อที่สิบ เมื่อจิตข้างในเริ่มคล้อยตามและเห็นด้วย น้ำตาจึงต้องหลั่งออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในความคิดอันเคยหลงผิดมาก่อนนั้น ในชีวิตเราเคยฟังธรรมมะมาก็เยอะจากหลายท่าน แต่ก็ล้วนเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา ไม่เคยคิดอยากจะฟัง แต่พอมาฟังสังโยชน์สิบกลับทำให้มองเห็นภาพได้หลายหลากชัดเจนขึ้น เคยได้รับรู้มาว่า สมัยก่อนพระพุทธเจ้าเทศน์โปรดสรรพสัตว์ทำให้หลายท่านได้ดวงตาเห็นธรรม เราก็เคยสงสัยอยู่ครามครันว่าแค่ฟังมันจะทำได้อย่างไร คิดว่ามีหลายท่านก็ต้องคิดเหมือนเรา แต่มาวันนี้เราเข้าใจแล้ว แม้ว่าความเข้าใจของเราจะเป็นเพียงแสงสว่างอันน้อยนิดอยู่ แต่ก็ยังดีที่ยังมีแสงเทียนส่องอยู่ในอุโมงค์อันมืดมนนั้น

    ขณะที่เราเดินทางกลับเราได้เห็นจิตที่รวมตัวที่กลางหน้าผากส่งสีสันต์สดใส บรรเจิดอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน น้องสุคุตะถะได้บอกเราอย่าไปดูมาก เห็นแล้วผ่าน แต่เราก็ยังดีใจเพราะมันเป็นนิมิตหมายอันดีของตัวเราเอง ตอนเช้ามีข้อความเข้ามาในโสตเราว่า "พระทำให้สว่าง" ขอน้อมรับเข้ามาไว้ในจิตของเรา

    กรรมของจินตวดีบางอย่างกำลังจะหมดสิ้นลง และภารกิจบางอย่างกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอันจำเป็นต้องอาศัยรากฐานแห่งดวงจิตอันประภัสสรอย่างเดียวเท่านั้น

    เริ่มติดใจแล้วเห็นทีคงต้องไปซ้ำอีกหลายหน เพราะมารในใจยังคงมีอยู่เพราะในฝันเขาได้แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่า "อย่าเผลอ เห็นขาเขาหักอย่างนี้ เผลอเขาจะกลับมาอีกเช่นกัน"

    ขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน และทุกสาย (ทุกสี) ที่ช่วยกันอบรมสั่งสอนเรา เพราะถ้าขาดท่านใดท่านหนึ่ง วันนี้เราคงไม่เห็นภาพชัดเจนขึ้นเหมือนในวันนี้
     
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ด้วยรักจากจินตวดี

    เราอาจจะเข้ามาน้อยลงเนื่องจากต้องเร่งรีบพัฒนาจิตตัวเอง แต่เราขอเน้นว่า ความรู้คือความรู้ที่บริสุทธิ์ แต่มนุษย์มีทั้งด้านมืดและ ด้านสว่างในตัวเอง เมื่อท่านได้รับความรู้ใด ๆ มาแล้ว ความรู้คือความรู้ที่แท้จริงและเป็นความจริง แต่จิตที่ใช้ในการตีความขึ้นอยู่กับมนุษย์เองเท่านั้น ว่าจิตท่านใช้ส่วนใดในการตีความ จิตที่เป็นบวกและเต็มไปด้วยความรักย่อมทำให้ได้กำไรจากความรู้นั้น

    รักมาก ๆ อีกหน จากจินตวดี
     
  16. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    หลังจากที่วันนี้ผมได้ลองฝึก เวลาแห่งจิต และ การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยการเข้าภวังค์ ก็เลยจะลองโพสดูเผื่อเป็นกรณีศึกษากันสำหรับบางคนที่สนใจนะครับ

    พอดีช่วงนี้หลังจากที่ได้ฝึกบทฝึกฝนเรื่องการสัมผัสกับอารมณ์อันลุ่มลึกในอิสระแห่งความปรารถนามาหลายวัน ซึ่งก็ได้ผลค่อนข้างมากและได้เข้าถึงอะไรบางอย่าง(ไม่ธรรมดาจริงๆ) วันนี้ผมก็มาฝึกความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ ผมก็เริ่มต้นด้วยการจินตนาการว่าจะใช้ประโยชน์จากความฝันและการเปลี่ยนวิถีจดจ่ออย่างดีที่สุด จากนั้นก็อ่านความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
    เมื่อวานมีอยู่สองอย่างที่สะกิดใจผมคือเรื่องเวลาแห่งจิต และก็การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยการเข้าภวังค์อาจารย์ท่านแนะนำว่าการเปลี่ยนวิธีนี้อาจจะทำได้ง่ายด้วยช่วงที่เรารู้สึกว่าง่วงนิดๆ จากนั้นเมื่อถึงเวลาใกล้จะหลับเมื่อเวลาตีสี่ผมก็เริ่มเลย คือผมจะฝึกการใช้เวลาแห่งจิตและการเปลี่ยนวิถีจดจ่อด้วยการเข้าภวังค์

    1.เรื่องเวลาแห่งจิตอาจารย์แนะนำประมาณว่าเวลาภายในนั้นจะประกอบด้วยเวลาจำนวนมหาศาล เช่นถ้าเราอยากนั่งพักห้านาที ถ้าเราใช้เวลาแห่งจิตได้ดีเราจะสามารถพักได้เสมือนกับเราพักห้าสิบนาที นอกจากนั้นเวลาแห่งจิตยังช่วยให้เราจำสิ่งที่เราเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไม่ว่าจากความฝันและจากภวังค์ได้ยาวนานขึ้น

    2.การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยการเข้าภวังค์ท่านอาจารย์บอกประมาณว่าทำได้เมื่อเรานั่งอยู่ในความสงบหรือมีความรู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอ และอาจจะทำได้ดีช่วงที่เราง่วงนิดๆแต่รู้สึกดี

    ก่อนจะหลับผมจึงหลับตา จินตนาการว่าการเข้าภวังค์นั้นจะยาวนานและมีเวลาที่อยู่ในจิตนานและสามารถจดจ่อความรู้สึกและภาพต่างๆได้ ผลปรากฏว่าได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง ผมทำตามหนังสือคือให้จินตนาการว่าตัวเองถอดรูปกายของเราออกมาแต่รูปกายนั้นหมายถึงความรู้สึก อาจารย์บอกว่าให้จินตนาการว่าตัวเราที่เป็นความรู้สึกออกจากร่างกายเนื้อหนังของเรา ซึ่งผมก็ปฏิบัติตามนั้น ตอนแรกๆรู้สึกเหมือนว่าความรู้สึกเราอยู่ในห้องของตัวเองและทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ผมมองเห็นคำพูดหลายๆอย่างและก็เปลี่ยนวิถีการจดจ่อ ผมจินตนาการว่าขอไปดูโลกที่ดูไฮเทคโนโลยีและพัฒนามากกว่าที่ผมอยู่สมัยนี้ในอดีตปัจจุบันอนาคตเส้นทางไหนสักเส้นนึง

    แล้วผมก็ไปเห็นเมืองๆนึงเมื่องนั้นดูอลังการ เป็นเมืองที่อยู่บนน้ำทะเล ทุกๆคนมีชีวิตอยู่บนตึกระฟ้าซึ่งมีท่อบางอย่างส่งให้เราทั้งหมดไปสร้างบ้านเรือนด้านบนผืนทะเล เวลาเราเดินเราจะมองด้านล่างไปเห็นผืนทะเลเสมอๆ เท่าที่เห็นก็มีเทคโนโลยีอะไรหลายๆอย่างที่พัฒนาไม่เหมือนปัจจุบันของเรา ดูเจริญกว่า มีห้องหลายๆห้องซึ่งห้องๆนั้นรู้สึกว่าเป็นห้องรักษาคนไข้หรือรักษาอาการประจำตัวอะไรของเราหรือห้องเก็บประวัติทุกอย่างของเราสักอย่างแหละ ซึ่งเราจะต้องไปที่ห้องนั้นทุกเดือนและเราผู้เดียวเท่านั้นที่เข้าห้องประจำตัวเราได้ คนอื่นเข้าไม่ได้ จากนั้นก็มีห้องอาบน้ำแม่ที่เพิ่งออกลูก ให้แม่ของลูกเข้าไปแช่น้ำในห้องนั้นจะทำให้น้ำนมหลั่งออกมาได้มีคุณภาพมากขึ้น และก็ยังมีท่อส่งไปใต้ทะเล ซึ่งมีผับใต้ทะเล มีร้านหนังสือใต้ทะเล มีห้องฝึกสมาธิที่อยู่ใต้ทะเลซะด้วย ผู้คนในโลกนี้ใช้ชีวิตด้านบนของผืนทะเลและยังมีทางที่ลงไปใต้ทะเลซะอีก ซึ่งห้องใต้ทะเลต่างๆเหล่านั้นเมื่อมองลอดกระจกไปก็จะเห็นเป็นปลาว่ายน้ำอยู่ และก็มีสัตว์ทะเลอื่นๆชื่นประการังอยู่ด้วย ถือว่าการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อได้ผล

    สรุปนะครับ การใช้เวลาแห่งจิตจะทำให้เราจดจำความฝัน,เปลี่ยนวิถีการจดจ่อจากภัวงค์และจำบทสนทนาต่างๆและรู้สึกว่าเราฝันนานขึ้นได้มากขึ้น ท่านอาจารย์กล่าวว่าเมื่อเปลี่ยนวิถีการจดจ่ออย่าคิดว่าเวลาจากโลกภายนอกมีเพียงเท่านั้น มิฉะนั้นเวลาทางกายภาพจะเป็นเสมือนที่คุมขัง และอีกเรื่องนึงคือถ้าจะเปลี่ยนวิถีจดจ่อจากภวังค์ช่วงที่ง่วงนอนในระดับหนึ่งก็น่าฝึกฝนเป็นอย่างมาก ช่วงนี้เวลาว่างๆถ้าง่วงนิดๆผมจะฝึกการเข้าภวังค์บ่อยๆ และเรื่องเวลาแห่งจิตก็ช่วยให้เรารู้สึกถึงความรู้สึกภายในต่างๆได้ชัดเจนขึ้น
    เช่น สมมุติว่าผมเดินอยู่แล้วจู่ๆก็มีภาพขึ้นในหัว หรือมีสัญญาณเสียงในหัว หลังจากที่ฝึกเวลาแห่งจิตเราจะรู้สึกเลยว่าภาพ+เสียงที่จู่ๆที่ขึ้นในหัวจะชัดขึ้นและเหมือนเรามองมันได้นานขึ้น ผมคิดว่าถ้าฝึกเวลาจิตได้เก่งอีกหน่อยน่าจะมองเห็นเหมือนภาพ+เสียงวิ่งอยู่ในหัวและมองเห็นมันได้นานขึ้นแม้ว่าจะเดินๆอยู่ก็ตาม
    จริงๆแล้วมีอีกหลายๆเทคนิคนะครับที่ทำให้เราใช้ประโยชน์จากความฝันได้ดี ยังไงก็ฝากอ่านความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณอีกเล่มนึงกันบ่อยๆนะครับ เพราะเนื้อหาและเทคนิคในการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อเยอะมาก ทั้งๆที่เล่มเล็กๆเอง
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    แบบนี้ ยังไม่เคยลอง แฮะ!! แต่น่าสนใจดีค่ะ
    ของข้าพเจ้า เวลาจะตั้งจิตขอฝันเรื่องอะไร ก็จะใช้วิธีทำสมาธิ deleat ข้อมูลค้างๆ ออกก่อน
    เพื่อป้องกันเรื่องความเชื่อที่ ฝังแน่น พยายามเคลียร์สถานีรับให้ แจ่มๆหน่อย
    ในช่วงการเข้าภวังค์ที่ The Key บอก น่าจะเป็นช่วง จิตรวมตัวเป็นสมาธิ(เค้าว่านะ ตัวเอง)

    ตอนนั้นจะขอตั้งคำถาม แล้วทิ้งเลย ถามทีเดียว แล้วเข้ามาจดจ่อกับภาวะสมาธิต่อ
    ถ้ายังต้องการอยู่ในสมาธิ จะเกิดเรื่องราว ที่เรามักเรียกกันว่านิมิตรเกิดขึ้น
    แต่เดรดไม่ค่อยค่ะ ไม่ค่อยมีนิมิตร น้อยมากถึงมากที่สุด

    ส่วนใหญ่จะอยู่ในสมาธิ แล้ววูบๆ วาบๆ ลอยไปมาเหมือนเข้าไปอยู่ในห้วงอวกาศ
    ลอยอยู่อย่างนั้น จนพอใจแล้วถอนออกมา เพื่อนอนและเพื่อฝัน มันก็มานะ คำตอบนะ

    แรกๆ คิดว่า เราทำไม่ได้ คิดว่าไม่ใช่ แต่พอลองตีความจากอารมณ์และความรู้สึก
    โอ้ว์...มายก๊อดrabbit_scary เราทิ้งข้อมูลต่างๆไป มโหฬารเลยทีเดียว
    การรู้เห็นอดีต หรืออนาคตผู้อื่น หรือตัวเราเอง ตอนนี้สำหรับเดรดไม่ได้สำคัญอะไรเลย

    เพราะอะไรรู้ไหมค่ะ เพราะมันเปลี่ยนตามความเชื่อของเราตลอด
    เมื่อใดความเชื่อเราเปลี่ยน ความฝันก็จะเปลี่ยนตาม อารมณ์ความรู้สึกที่มา ก็เปลี่ยนตาม
    ในฝัน ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เพราะเราสร้างโลกจากความเชื่อของเราเอง
    ลองสังเกตุดูซิค่ะ ตอนนี้คุณเชื่ออะไรอยู่บ้างละ ในฝันมาแน่ๆ และจะกลายเป็นความจริงด้วย

    แล้วเราก็บอกกับตัวเองว่า เราฝันแม่น เราเห็นอนาคต
    แต่จริงๆแล้ว เราสร้างมันขึ้นมาเองต่างหากค่ะ มันเปลี่ยนตลอดค่ะ จริงๆ
    เพราะความที่มันเปลี่ยนเราจึงสับสนกับคำตอบที่มา จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจาก ภาวะจิตแท้ๆของเรา
    (ความเห็นส่วนตัว และสิ่งที่ได้ จากการตรากตรำ และฝึกฝัน ฉบับข้าพเจ้าเอง...[​IMG])
     
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เอ่อ...ติดลม น้ำลายเริ่มแตกฟอง ขออีกหน่อย แหะ แหะ

    กรณีความฝัน ปกติจะเป็นคนที่ฝันอะไรไม่ซับซ้อนเท่าไหร่
    ไม่ค่อยต้องตีความกัน 8-9 ตลบ
    หรือต้องมานั่งตีลังกาคิด แบบ ไปเก็ทเอา 7 วันข้างหน้า
    เดรดก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ส่วนใหญ่จะมาตรงๆ ทื่อๆ

    อยากฝันแบบวิลิศมาหราแบบชาวบ้านเค้าเหมือนกันนะ แต่ไม่เคยเร้ย
    เป็นไปได้ไหมว่า เดรดซื่อบื่อ ไม่ค่อยมีความเชื่อที่เป็นกรอบ มีแบบมีแผนแบบคนอื่นเขา
    สัญญลักษณ์เราเลยน้อย มากันแบบแทบจะไม่ต้องแปลเลย

    คนอื่นมีความเห็นอย่างไรบ้างค่ะ สงสัยจริงๆนะเนี่ย....love_
     
  19. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    อืมครับ จริงๆในหนังสือของอาจารย์ก็มีหลายเทคนิคมากๆเลยนะครับที่น่าลอง ที่ผมจะฝึกจากความฝันมีดังนี้นะครับ
    1. แก้ไขอนาคตจากในฝัน และเปลี่ยนอดีต เพื่อที่ตื่นมาจะทำอะไรได้ง่ายขึ้น และสามารถจินตนาการไปในทางที่ดีได้ทุกครั้งที่ตื่นนอนมา
    2. ท่องเที่ยวในฝัน ไปในโลกต่างๆที่มีเมืองสวยๆ และท่องไปยังเครื่องพรางอื่นๆ(ถ้าทำได้ดีๆน่าจะสนุกกว่าการเที่ยวทางกายภาพด้วยซ้ำ)
    3. ทำให้ลางสังหรณ์ยามตื่นชัดขึ้น เห็นภาพเสียงความรู้สึกยามตื่นขณะทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันได้อย่างชัดเจน
    4. นั่งพักในช่วงเวลาสั้นๆแต่สามารถนั่งได้นานเหมือนพักเป็นชั่วโมง
    5. นอนน้อยลงแต่นอนเต็มอิ่ม
    6. เอาข้อมูลที่อยู่ในฝันมาเขียนนิยาย
    7. สามารถตื่นมาและจำข้อมูลดีๆจากในฝันได้ทีละมากๆ
    8. ค้นหาชีวิตที่ดีในด้านต่างๆของชีวิตจากในฝัน
    9. เอาวิชาอาคม คาถาดีๆที่เคยสูญหายกลับมาใช้
    10. ค้นหาอารมณ์ที่เข้ากันกับการสั่นสะเทือนที่ผมหวังให้มันเกิดขึ้นในโลกความจริง
    ก็ประมาณนั้นแหละครับ แต่จะได้มากน้อยขนาดไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป อิๆ ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความสนใจของแต่ละท่านด้วย การควบคุมความฝันของท่านก็จะทำให้ยามตื่นของท่านมีคุณภาพและใช้ชีวิตได้คุ้มที่สุดยามตื่นนะครับ ใครมีเทคนิคอะไรแนะนำกันบ้างก็ดีนะครับ
     
  20. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    งั้นขอออกความเห็นละกันนะครับ คุณ kindred ลองอ่านเทคนิคของท่านอาจารย์โนวาอนาลัยในหนังสืออ่ะครับ จะเห็นว่ามีหลายเทคนิคและมีหลายวิธีที่น่าฝึกน่าสนใจมาก แล้วจะรู้เองว่าควรฝึกแบบไหนถึงจะดี ถึงจะสนุก ถึงจะชอบ ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความสนใจของแต่ละคนด้วยครับ โดยส่วนตัวที่บ้านมีเจ็ดเล่มอ่านเล่มละ3-7รอบ แถมยังมีเปิดอ่านประปรายอีก นี่ยังรู้สึกว่ายังอ่านรายละเอียดได้ไม่หมดเลยครับ สงสัยคงต้องอ่านตลอดชีวิตนั่นแหละครับ อิๆ
    อยากอ่านอีกสามเล่มที่เหลือยังไม่ได้อ่าน จิตวิญญาณประสานกายกับอมะตะแห่งจิตวิญญาณทั้งสองภาค แต่ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้อ่านเพราะที่หอไม่มีเน็ต ก็คิดว่าคงมีโอกาสได้อ่านเมื่อไหร่ก็คงได้อ่านเมื่อนั้นแหละ อิๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...