ไม่ใช่นะครับที่มักกล่าวว่า “สมถะเหมือนการหลบภัย วิปัสสนาเหมือนการผจญภัย”

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 26 พฤษภาคม 2009.

  1. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    น่าจะเปลี่ยนจากหลบเป็นเหลาให้แหลม ฝนให้คมแล้วใช้ไปทิ่มแทงผจญกับข้าศึกคือกิเลสนะครับ
     
  2. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    คุณ Tboon เคยดูละครเรื่องนี้ไหมคะ ดูจาก CD น่ะ

    แจ๋วใจร้าย กับ คุณชายเทวดา




    เพิ่งดูจบพอดี
    ขอบคุณสำหรับข้อมูล Save เก็บแล้วค่ะ อนุโมทนา
     
  3. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ตอนนี้รู้สึกอย่างไรครับ ^-^
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    จิตรวมใหญ่ที่พี่ธรรมภูตได้นี่ เข้าได้บ่อยไหมครับ
    ใช่อัปปนาสมาธิ ที่สงบแนวแน่จนไร้การปรุงแต่ง หรือสิ้นจากนิวรณ์หรือเปล่าครับ ^-^
     
  5. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านเอก นิ เล่า สามฯลฯครับ ถ้าท่านไม่รู้จริง
    ก็อย่าพยายามเอาครูบาอาจารย์มารับรองความถูกต้องให้เลยครับ

    รู้มั้ยครับว่าหลวงปู่ดูลย์ ท่านมีหนังสือชื่อ “จิตเป็นหนึ่ง”ในครั้งแรก
    จนกระทั่งถูกเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาโดยพละการเป็นชื่อ “หลวงปู่ฝากไว้”

    การดูจิตก็เกิดขึ้นจากหนังสือจิตเป็นหนึ่งนี้เองที่เป็นเหตุให้เกิดคำว่า “ดูจิต”
    แต่กลับมีการนำเอาไปใช้แบบผิดๆ เพื่อรับรองความถูกต้องของตนเองเท่านั้น

    ท่านต้องกลับไปอ่านบทความในช่วงแรกที่บอกว่า เทศน์ให้ท่านอาจารย์ฟัง
    โดยเฉพาะนั้นว่า ก่อนการดูจิตของหลวงปู่ดูลย์นั้น ท่านพูดถึงอะไรบ้าง

    กรุณาอย่าข้ามขั้นตอนที่หลวงปู่เข้าปลีกวิเวกในป่า
    เพื่อปฏิบัติภาวนากรรมฐานเจริญสติปัญญาให้จิตมีกำลังเป็นหนึ่ง

    หลวงปู่ดูลย์ ท่านอยู่ปลีกวิเวกนานถึง๑๙ปีนั้นเพื่ออะไร
    ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญเพื่อจิตเป็นหนึ่ง
    หลวงปู่ดูลย์จะต้อง ปลีกวิเวกในป่าและ
    เคี่ยวกรำลูกศิษย์ให้ปฏิบัตินั่งสมาธิไปเพื่ออะไรครับ

    อย่าเลือกสิ่งที่ต้องการเพียงเพราะ รู้มาอย่างนั้นและถูกจริต
    แล้วทิ้งส่วนที่สำคัญอันเป็นพื้นฐานของการดูจิตเป็นหนึ่ง
    เปรียบเสมือนหมอ ที่มีพื้นฐาน anatomy ไม่ดีพอ
    แค่กระดูกมือมีกี่ชิ้น ยังไม่รู้เลย หรือรู้ไม่หมด
    ยังริอ่านจะไปเปิดคลินิกรักษา รับผิดชอบคนไข้ไหวเหรอ

    ;aa24
     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านจินฯ
    ผมขอตอบท่านอื่นที่ค้างอยู่ก่อน แล้วจะมาตอบท่านนะครับ

    ;aa24
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ท่านทีฯครับ ที่ท่านพูดว่าตัวสติ คือตัวที่ไป "รู้" ว่าจิตของเราเกิด...จิตเกิด เราก็รู้จักดับ

    การดับ การควบคุม นั่นแหละ...เขาเรียก การควบคุมจิตในระดับหนึ่ง<O:p</O:p
    <O:p
    *เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบที่ชัดเจนนะครับ<O:p</O:p
    คำว่า “สติ” สติตั้งอยู่ที่ไหนครับ?<O:p</O:p
    จิตใช่ธาตุรู้มั้ยครับ<O:p</O:p
    <O:p
    แยกจิตออกจากขันธ์๕พอเข้าใจได้ เพราะจิตไม่ใช่ทั้งรูปและนาม<O:p</O:p
    แต่ที่พูดว่า แยกตัววิญญาณ ที่จะเข้ามารวมกับความคิด แยกยังไงครับ

    ;aa24<O:p</O:p
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ท่านเคฯครับ ผมก็ไม่ได้คาดหวังจากท่านด้วยเช่นกัน
    เพียงท่านได้รับประโยชน์จากการอ่านที่สนทนากัน<O:p</O:p
    แค่นี้ผู้ที่สนทนาด้วยก็ได้รับ อานิสงส์ไปแล้วครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ที่ท่านพูดว่า การฝึกมีสติ รู้ อยู่ที่ รู้ รู้ที่ตัวเอง” <O:p</O:p
    ที่ว่ารู้อยู่ที่รู้นั้น รู้อยู่ที่ไหนครับ?<O:p</O:p
    การรู้ตัวเองนั้น ถ้าหมายถึงการรู้ตัวทั่วพร้อมพอเข้าใจ<O:p</O:p
    ก็ยังเป็นการรู้อยู่ที่เรื่อง(ตัวเอง)อยู่ดีครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านครับ ที่พูดว่า “การรู้ตัวเองว่ามียินดี ยินร้าย รู้ตัวว่าคิด รู้ตัวว่าเผลอสติ คือการฝึกตน
    เข้าสู่ความเป็นกลางต่อการปรุงแต่ง”<O:p</O:p
    <O:p
    ผมงงครับกับคำว่า “การเข้าสู่ความเป็นการกลางต่อการปรุงแต่งนั้น”<O:p</O:p
    ใช่เป็นการที่เราไม่เข้าไปสู่อารมณ์ทั้งหลายมั๊ยครับ?<O:p</O:p
    <O:p
    แต่ที่พูดๆมานั้น ยังมีการเข้าไปรับรู้อารมณ์อยู่ตลอดเวลานิครับ?

    ;aa24<O:p
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    สติ ตั้งอยู่ที่รู้ รู้อยู่ที่ไหน สติอยู่ที่นั่น
     
  10. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านเคฯครับ เรื่องความชอบความเชื่อนั้น
    ห้ามกันไม่ได้ เมื่อท่านไม่คิดที่จะแยกความจริงแท้
    ออกจากความชอบและความเชื่อ ที่ยึดถืออยู่

    ท่านไม่ใช่เข้าใจคำพูดผมผิดหรอกครับ
    แต่เป็นเพราะไม่เคยรู้มาก่อน เนื่องจากไม่เคยอบรมฝึกฝนมาเลยครับ

    ผมถึงได้บอกไปก่อนหน้านั้นแล้ว แม้แต่กับท่านนานาว่า
    เคยมีพื้นฐานในการปฏิบัติภาวนากรรมฐานมาดีพอหรือยัง
    ถ้ายังผมจะพูดไปยังไงท่านก็ไม่มีทางจินตนาการไปถึงหรอกครับ
    กับท่านที่มีพื้นฐานมาดี อย่างท่านขันธ์ ท่านวิสุทโธแล้ว เข้าใจได้ทันที

    ผมรู้สึกชอบมาก กับคำเปรียบของนักดูจิตติดความคิดเอามากๆเลยครับ
    เปรียบได้ตรงกับความจริงเป็นที่สุด
    "จิตผู้รู้ ดุจฟองไข่ เมื่อเติบโต เต็มที่ จะเจาะเปลือกออกมาเอง"

    เห็นหรือยังครับกับการดูจิตเฉยๆ อย่าไปแทรกแซง เค้าเจริญเติบโตของเค้าเอง
    เพราะเริ่มเบื่อกับความกระด้างคุ้นชินที่ต้องอยู่ในเปลือกไข่มานาน
    เมื่อได้โอกาสที่จะออกจากเปลือกไข่(ความคุ้นชินที่เคยอยู่)
    นึกว่าจะรอดตาย ที่มีโอกาสออกมา
    แต่หารู้ไม่ว่าออกมาก็มารอความตาย ในกาลข้างหน้า

    ท่านเคฯครับ ก็เพราะท่านอ่านเฉพาะที่ต้องการเท่านั้น
    โดยไม่อ่านบริบทก่อนหน้านั้นเลย ที่ผมได้บอกไว้แล้วว่า
    “เดิมนั้น จิตที่เวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะ
    ล้วนถูกอวิชชาและอุปกิเลสทั้งหลายห่อหุ้มอย่างแน่นหนา
    จนมองไม่ความประภัสสรผ่องใสของตนที่มีอยู่เดิม
    ไปยึดเอาสิ่งห่อหุ้มทั้งหลายเหล่านั้นรวมเข้าว่าเป็นตนด้วย”

    ท่านลองอ่านตามแบบช้าๆ พิจารณาด้วยใจเป็นธรรมนะครับ
    เมื่อเราสามารถผ่านเข้าไปสัมผัสจิตในจิตเป็นภายใน(สติปัฏฐานสูตร)
    ทำให้รู้ได้ว่าจิตเดิมนั้นจิตประภัสสรผ่องใส เปรียบเสมือนว่า
    เรารู้ว่า มีเพชรน้ำเอกซ้อนซ่อนตัวอยู่ ณ. ภายในหินก้อนนี้(กายที่จิตยึดถืออยู่)

    มีท่านใดบ้างที่เมื่อรู้อยู่เห็นอยู่อย่างนี้แล้ว
    จะไม่เพียรพยายามที่ขจัดหินที่ห่อหุ้มเพชรน้ำเอกนี้ออกไป

    ;aa24
     
  11. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    อาศัยวิญญาณสร้างสติ เอาสติพิจารณา วิญญาณ สังขาร เวทนา สัญญา และรูป^-^
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านนานาฯครับ เรากำลังพูดคนละเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่าครับ
    เริ่มจากการพูดถึงปฏิบัติกรรมฐาน
    ฐานที่ตั้งอันสมควรแก่การทำงานทางจิต
    ถ้าปฏิบัติตามเสด็จพระบรมครูแล้ว
    ย่อมได้รอยเดียว รสเดียวกันแน่นอนครับ

    การฝึกฝนกรรมฐานนั้นเป็นการฝึกฝนอบรมทางจิตเท่านั้น
    หรือท่านอบรมฝึกฝนกรรมฐานเพื่อให้กายดูเท่ขึ้นเท่านั้น ผมไม่เคยพบเห็น

    ถ้าพูดถึงหน้าที่การงานนั้น ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าของท่านกับผมแตกต่างกัน
    ท่านรู้เรื่องสัตว์ ผมรู้เรื่องคน แต่ทั้งหมดนี้เป็นการงานทางโลก

    ส่วนการงานทางจิตแล้ว ย่อมต้องเหมือนกันครับ
    ที่เราต้องมีฐานที่ตั้งอันควรแก่การงานของจิตเพราะว่า

    เพื่อจิตมีที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว สงบตั้งมั่นได้อย่างรวดเร็ว(เหมือนกันทุกคน)
    เมื่อมีอารมณ์มากระทบครับ ต่างกันแต่ว่าฐานใครฐานเค้า(ของตน)
    ผู้ที่ฝึกฝนอบรมสติกรรมฐานมานั้น ย่อมต้องมีเหมือนกันทุกคนครับ

    ;aa24
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ผมยังขอย้ำนะครับว่า ตั้งมั่นชอบนะครับ เพราะอริยมรรค๘นั้น
    มีคำว่าสัมมาสมาธิ แสดงว่า ตั้งจิตมั่นชอบครับ

    ท่านเล่นออกไปทางน้ำตกพลิ้วเลย
    การตั้งมั่นนั้น แม้ฟังแล้วดูดีมีสกุลน่าเข้าใกล้

    ท่านลองปักหลักตั้งมั่นลงในดินเลนดูสิครับว่า ตั้งมั่นชอบมั้ย
    คำว่าถือมั่น ก็ไม่ใช่จะเลวร้ายอย่างที่ท่านคิดเองเออเอง

    ถ้ามีคนที่ถือมั่นในโลกุตตระธรรมเป็นมาตรฐานหละ ถูกหรือไม่
    เคยได้ยินมั้ยครับว่า อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา

    ในเมื่อพระพุทธองค์กล่าวไว้แล้วว่า
    “การปฏิบัติสัมมาสมาธิ เป็นครุกรรมฝ่ายกุศล”
    เมื่อกระทำบ่อยๆเนืองๆอยู่ ย่อมเป็นการสร้างวาสนาบารมีครับ

    ;aa24
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านนานาฯครับ ที่ท่านพูดข้างบนนี้แน่ใจนะครับ<O:p</O:p
    ว่าจะไม่ถูกเจ้าตูบที่ท่านรักษาอยู่ หัวเราะโฮ้งๆๆเอา<O:p</O:p
    <O:p
    ท่านพูดได้อย่างไรครับ ว่า “อย่าได้หวังไปสงบในการนั่งสมาธิเพียงอย่างเดียว <O:p
    เราต้องทำให้จิตเราพร้อมอยู่ตลอดเวลา<O:p
    ท่านไม่รู้จริงๆ หรือคิดแกล้งไอ้ตูบมันเล่น<O:p
    เพราะคิดว่าไอ้ตูบมันฟังไม่รู้เรื่อง <O:p
    แต่เผอิญผมไม่ใช่ไอ้ตูบและไอ้ตูบไม่ใช่ผม<O:p
    ความงงย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดาครับ <O:p
    <O:p
    มีพระพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า<O:p
    “เรานั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิ(สงบ) บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว <O:p
    อ่อนควรแก่การงาน(พร้อมอยู่ตลอดเวลา)”<O:p
    <O:p
    ท่านพูดว่า “ตอนนั้นนั่งกรรมฐานแค่ต่อยอด แค่นั้น <O:p
    เพราะปัญญาทำให้เกิดสมถะ สมถะทำให้เกิดปัญญา <O:p
    เพื่อเข้ากระบวนการวิปัสสนากรรมฐานแล้่วไปวิปัสนาฌาน<O:p
    ท่านรู้สึกมั้ยครับว่าที่ท่านพูดขัดกันชอบกล <O:p
    “ปัญญาทำให้เกิดสมถะ สมถะทำให้เกิดปัญญา”<O:p
    <O:p
    ท่านจะยังจะต่อยอดตรงไหนครับ <O:p
    เมื่อเกิดปัญญาก็เป็นวิปัสสนาอยู่แล้ว<O:p
    <O:p
    การจะเป็นวิปัสสนาญาณได้นั้น<O:p
    ต้องพิจารณาเป็นภายในบ้าง เป็นภายนอกบ้าง <O:p
    เป็นทั้งภายในและภายนอกบ้างเท่านั้น<O:p
    เป็นอันเสร็จกิจ จึงจะเกิดวิปัสสนาญาณ

    ;aa24<O:p
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ แม้แต่เจ้าตูบ เรายังต้องคอยดูเรื่องเหล่านี้ให้มันไม่ใช่หรือครับ

    ;aa24
     
  16. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    โห ..ทำไมของเรา ท่านภูตแยกออกมาเป็นข้อ ๆ เลยล่ะ
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านนานาฯครับ ท่านพูดเองก็ยังขัดกันเองชอบกลอยู่นะครับ<O:p</O:p
    ท่านบอกเอง หากเรารู้เรา เราก็ย่อมรู้ผู้อื่นด้วยเหมือนกัน”<O:p</O:p
    <O:p
    ในเมื่อเรารู้เรา เราก็ย่อมรู้ผู้อื่น เมื่อรู้ผู้อื่น ย่อมตัดสินใจให้เขาได้ใช่มั้ย<O:p
    <O:p
    ท่านสำรวจ กาย วาจา ใจ ด้วยอะไรครับ<O:p
    รักษาให้ปกติได้อย่างไร

    ;aa24<O:p
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    อย่าคิดลึกสิ แค่รู้ก็พอแล้ว จะไปถามทำไมว่าใครรู้...เดี๋ยวก็โดนจิตหลอกจิตหรอก.
     
  20. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านพี่ภูตไปกินอะไรมาผิดสำแดงหรือเปล่า ทำไมเฉียบคมขึ้นผิดหูผิดตา...
     

แชร์หน้านี้

Loading...