เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณที่กรุณาบอกค่ะคุณ zipper ไวด์ฮาร์ทตีฝันไม่เป็นนะค่ะ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าหมายถึงอะไร แต่ยังไงขอให้เป็นฝันดีมีชัยนะคะ
     
  2. imjoice

    imjoice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +125

    ดีใจจิงๆ ที่เมล์ของเรา ให้ประโยชน์กับเพื่อนๆ ในกระทู้นี้ ยินดีที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกกระทู้นี้ค่ะ
     
  3. imjoice

    imjoice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +125
    ขอถามคำถามกับเพื่อนๆ ในกระทู้นี้หน่อยนะคะ พอดีเป็นสมาชิกใหม่ มีความสงสัยบางอย่าง ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ ว่า อาจารย์โนวา อนาลัย บอกเรามา มีอะไร ที่เทียบเคียง กับ พระพุทธศาสนา ได้บ้าง ในเรื่อง กรรม ขอขอบคุณทุกคนที่ตอบให้จอยนะคะ
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ยินดีครับน้องจอย
    สนใจเรื่องไหนก็ถามมาเลย
    เพื่อนๆพี่ๆที่นี่เค้าจะได้ทบทวนเนื้อหาไปพร้อมๆกัน
    ในเรื่องกรรมนี้คุณเดรดกับคุณเซลล์ เคยรวบรวมเอาไว้ด้วยกันจากกระทู้นี้ล่ะครับ
    ลองติดตามอ่านจาก link นี้นะครับ

    ความเชื่อ กับ กรรม
    http://palungjit.org/1133546-post4254.html

    นิยาม บุญ บารมี สมาธิ
    http://palungjit.org/showpost.php?p=1502954&postcount=6109

    การเปลี่ยนวิถีการจดจ่อ-พุทธ
    http://palungjit.org/showpost.php?p=1526831&postcount=6202

    ข้อมูลในหนังสือ เปรียบเทียบกับศาสนา
    http://palungjit.org/showpost.php?p=1568038&postcount=6332


    หรือถ้ามีเวลาก็ไปค้นอ่านจากที่นี่เพิ่มเติมได้อีกมาก
    เคยช่วยกันแยกเนื้อหาให้เป็นหมวดหมู่ไว้ครับ >>>

    >>>> PaLungJit.com - Nova pkbook

    ;aa44
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2009
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    บาป-กรรม บุญ(กุศล)-บารมี

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เซลล์ [​IMG]
    เรื่องขั้นตอนพี่นักเขียนอธิบายได้ชัดเจนเลยครับ เรื่อง การเป็นผู้สังเกตการณ์ และกระทำไปพร้อมๆกัน
    เห็นด้วยนะครับ เรื่องการแยกระดับสมาธิ เป็นจุดอ้างอิง เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
    จากการสังเกตุดู การฝึกสติ เห็นจิตในจิต เช่น เห็นจิตมี อารมณ์ ความคิด จินตนาการที่เป็นไป และมีอีกจิตเป็นผู้สังเกตุการณ์เพื่อทำความเข้าใจกับอารมณ์ ความคิด จินตนาการที่เป็นผู้กระทำ
    ตอนนี้จิตผู้สังเกตุการณ์ เป็นผู้มองดูจิตที่กำลังกระทำอยู่
    จิตผู้สังเกตุการณ์เมื่อเห็นอีกจิตกำลังกระทำอยู่ ได้เกิดความรู้ ความเข้าใจขึ้น โดยไม่มีการวิตก วิจารณ์ เห็นถึงกระบวนการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
    จิตผู้สังเกตุกาณ์ คือ จิตผู้รู้

    (หากอธิบายผิดหลักของศาสนา เพราะไม่ชำนาญความรู้ทางศาสนา ต้องขออภัยด้วยนะครับ เพราะผมสังเกตุจากการมองดู และความเข้าใจครับ )

    น่าสนใจครับคุณ mead โดยส่วนตัวผมก็ไม่รู้ว่า บุญ-บารมี คืออะไร
    แต่เมื่อเราทำบุญ ช่วยเหลือคนอื่น แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่หากทำด้วยความตั้งใจจริง ปราถนาดีจริงๆ ก็รู้สึกอิ่มเอิบ
    บุญ เหมือนเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจให้แช่มชื่นเบิกบาน ให้จิตใจเราเหนี่ยวนำ และเดินในเส้นทางที่แช่มชื่นเบิกบาน เป็นเส้นทางแห่งความรักเช่นกัน
    เมื่อเกิดบุญ ก็เป็นตัวเอื้อให้เกิดปัญญา
    การนั่งสมาธิ การฝึกสติ ทำให้เราเห็นอารมณ์ ความคิด ความเชื่อได้อย่างชัดเจน และวางลงได้
    สิ่งที่ได้จากการเห็นความเป็นเช่นนั้นเอง คือ เห็นด้วยปัญญา
    เมื่อเห็นแล้วเข้าใจสิ่งใด เกิดความรู้สึกแช่มชื่นเบิกบาน สิ่งนั้นเรียกว่า บุญ
    ปัญญา กับบุญ เอื้อถึงกัน เช่นเดียวกับบุญ ก็เอื้อกับปัญญา
    ทั้งสองอย่างจึงไม่แยกจากกัน แต่เป็นตัวเติมเต็มซึ่งกันและกัน
    (จากความเข้าใจอีกครับ ต้องขออภัยด้วยนะครับ หากผิดหลักการทางศาสนา)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ท่านอาจารย์อนาลัยได้ให้คำจำกัดความเกี่ยวกับ บาป หรือ กรรมไว้ว่า

    บาป หรือ กรรม(ไม่ดี) คือ ความเชื่อในทางที่ผิด ที่ทำให้บุคคลใช้ความคิดและการกระทำไปในทิศทางที่ไม่สร้างสรรค์ ซึ่งดึงดูด เหนี่ยวนำ และก่อให้เกิดประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและผู้อื่น

    ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า ทุกชาติภพดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน บุคคลผู้ก่อกรรมหรือการกระทำในแง่ลบจากชาติภพหนึ่ง จึงไม่ได้รับโทษทัณฑ์ในชาติภพต่อไป ตามเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นเส้นตรง หากแต่ว่าการก่อกรรมหรือความคิดและการกระทำในแง่ลบในชาติภพหนึ่งๆ ส่งผลกระทบต่อชาติภพอื่นๆ อย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน โดยไม่ต้องใช้เวลา

    บุคคลใดไม่ได้ศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อปลี่ยนความเชื่อในทางที่ผิด ให้กลายเป็นความรู้ ความเชื่อนั้นๆจะติดบุคลิกภาพไปหลายชาติภพ หรือกล่าวในนัยอันปราศจากกาลเวลาได้ว่า ความเชื่อในทางที่ผิดนั้นๆจะปรากฏในหลายชาติภพร้อมกันหมด ยังผลให้จิตวิญญาณพร้อมด้วยบุคคลภาพ ที่ถือกำเนิดเป็นหลายบุคคลตัวตน หลายชาติภพ หลายเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ เผชิญกับประสบการณ์ในแง่ลบ จากทิศทางต่างๆ แง่มุมต่างๆ เพื่อเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความเชื่อที่ผิดนั้น ให้กลายเป็นความรู้ได้ในที่สุด

    การคิด และกระทำอันเกิดจากความเชื่อในทางที่ผิด ย่อมไม่เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและผู้อื่น และก่อให้เกิดความรู้สึกผิดอันเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นบุคคลตัวตน เรียนรู้ที่จะละเว้นที่จะไม่คิดผิด กระทำผิด ซ้ำแบบเดิมอีก

    ________________________________________________________________
    ในนัยทางพุทธศาสนา กรรม(ไม่ดี) มีรากเหง้ามาจาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง
    ในนัยของท่านอาจารย์อนาลัย กรรม(ไม่ดี) มีรากเหง้ามาจาก อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ

    บุญ เป็นภาวะที่ตรงกันข้ามกับ บาป หรือ กรรม
    บุญ เป็นคนละคำ และต่างความหมายกับคำว่า บารมี


    บุญ เป็นคำเดียวกัน และมีความหมายคล้องจองกับคำว่า กุศล (Kusala) (จาก Buddhist Dictionary ของ ท่าน Nyahatiloka) ซึ่งหมายถึง กรรมดี หรือผลลัพธ์ที่เกิดจากความคิดและความเชื่อในทางที่ดี ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการคิดและกระทำดีด้วยความเชื่อในทางที่ดี ซึ่งเป็นไปอย่างผิวเผิน ท่าน Nyanatiloka ได้อธิบายขยายความไว้ว่า บุญ หรือ กุศล หมายถึงการคิดและกระทำดีด้วยความเชื่อในทางที่ดีเป็นนิจนิสัย-พร้อมด้วยทักษะ (skillful) ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเป็นความคิด และการกระทำด้วยสติพร้อมอย่างแท้จริง และเป็นไปเสมอๆเป็นนิจนิสัย

    ในนัยของท่านอาจารย์อนาลัย จึงกล่าวได้ว่า บุญ คือ ความเชื่อในทางที่ถูกต้อง ที่ทำให้บุคคลใช้ความคิดและการกระทำไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ ซึ่งดึงดูด เหนี่ยวนำ และก่อให้เกิดประสบการณ์ชีวิต ที่เอื้ออำนวยให้เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและผู้อื่น

    ในนัยทางพุทธศาสนา กรรมดี มีรากเหง้ามาจาก การปราศจากความโลภ ปราศจากความโกรธ ปราศจากความหลง ซึ่งเป็นไปได้ด้วยปัญญาและการมีความรู้-ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ปราศจากความลุ่มหลง (อโมหะ)

    ในนัยของท่านอาจารย์อนาลัย กรรมดี มีรากเหง้ามาจาก อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวก หรือเป็นไปตามความรู้

    ในนัยทางพุทธศาสนา: ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บาป หรือ กรรม และ
    ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บุญ หรือ กุศล ได้แก่ :
    1. เจตนา อันเป็นต้นกำเนิดของความคิด และการกระทำ
    2. มูลเหตุ อันเป็นมาตรวัดความแตกต่างระหว่าง กุศล กับ อกุศล
    มูลเหตุอันเป็นมาตรวัดภาวะจิตอันเป็น กุศล และ อกุศล ได้แก่ภาวะจิตอันเบิกบาน อิ่มเอิบเต็มไปด้วยปิติ และความรัก ความเมตตา กับ ภาวะจิตอันหม่นหมอง โกรธ เกลียด อิจฉา ริษยา

    ในนัยของท่านอาจารย์อนาลัย: ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บาป หรือ กรรม และ
    ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บุญ หรือ กุศล ได้แก่ :
    1. เจตนา
    2. ความมุ่งมั่น
    3. ความปรารถนา
    ซึ่งหากคล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ ก็ย่อมเหนี่่ยวนำ ดึงดูดและก่อให้เกิดประสบการณ์ในแง่ลบ
    ซึ่งหากคล้อยตามความเชื่อในแง่บวก ก็ย่อมเหนี่่ยวนำ ดึงดูดและก่อให้เกิดประสบการณ์ในแง่บวก

    ________________________________________________________________

    บารมี เป็นคำที่เรามักกล่าวควบว่า บุญ-บารมี
    เนื่องจากทั้งบุญและบารมี เป็นภาวะที่ล้วนเป็นไปในแง่บวก แต่ก็เป็นคนละคำกัน และคนละภาวะกัน

    บุญ เป็น ภาวะอันเป็นนามธรรม
    บารมี เป็น ภาวะอันเป็นรูปธรรม

    บารมี (Paramita) หมายถึง คุณสมบัติอันเป็นเลิศ อันได้แก่ :
    1. Perfection in Giving - เป็นเลิศ ในการให้ (dana-parami - ทานบารมี)
    2. Perfection in Morality - เป็นเลิศ ในการประพฤติดี (sila-parami - ศีลบารมี)
    3. Perfection in Renunciation - เป็นเลิศ ในการปฏิเสธซึ่ง ยศ และ อภิสิทธิ์ (nekkhamma-parami - เนกขัมมบารมี)
    4. Perfection in Wisdom - เป็นเลิศ ในการใช้ปัญญา (panna-parami - ปัญญาบารมี)
    5. Perfection in Energy - เป็นเลิศ ในการใช้พลังแห่งความพากเพียร (viriya-parami - วิริยะบารมี)
    6. Perfection in Patience - เป็นเลิศ ในการอดทน (khannti-parami - ขันติบารมี)
    7. Perfection in Truthfulness - เป็นเลิศ ในการรักษาสัจจะ หรือรักษาสัญญา (sacca-parami - สัจจะบารมี)
    8. Perfection in Resolution - เป็นเลิศ ในการแก้ปัญหาและตัดสินใจอย่างแน่วแน่ (adhitthana-parami - อธิษฐานบารมี)
    9. Perfection in Loving-kindness - เป็นเลิศ ในการรักและเมตตา (metta-parami - เมตตาบารมี)
    10. Perfection in Equanimity - เป็นเลิศ ในการควบคุมอารมณ์ได้อย่างสม่ำเสมอ (upekkha-parami - อุเบกขาบารมี)

    ________________________________________________________________

    การทำสมาธิ หรือ การฝึกสมาธิ เป็นการฝึกฝนเพื่ออบรมจิต ให้รู้จักพิจารณาอารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองอย่างมีสติ แทนที่จะปล่อยให้อารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเป็นไป โดยคล้อยตามความเชื่ออย่างขาดสติ ขาดการคิดด้วยมูลเหตุที่ดี ขาดเจตนาที่ดี ขาดความมุ่งมั่นในทิศทางที่เป็นคุณ และ ขาดความปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่น

    ดังนั้น การกล่าวว่า การทำสมาธิ เป็นการสะสมบุญ
    ก็มีความเป็นจริง เพราะจิตที่ได้รับการอบรมฝึกฝน-อย่างสม่ำเสมอ
    ย่อมจะใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ไปในทิศทางที่เป็นไปตามความเชื่อในแง่บวก หรือตามความรู้จนเป็นนิจนิสัย เป็นทักษะประจำสติสัมปชัญญะของผู้ฝึกฝน ทำให้ผู้ฝึกฝนหยุดยั้งที่จะมีความโลภ ความโกรธ ความหลง ได้ไม่มากก็น้อย และหยุดยั้งการใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด โดยปราศจากการสำรวจความเชื่อของตนเอง

    บุญ เป็นภาวะจิต เป็นภาวะอันเป็นนามธรรม เป็นจินตภาพ
    ผู้ที่มีบุญ จึงหมายถึงผู้ที่มีภาวะจิตอันแจ่มใส เบิกบาน สุขใจ เพราะตระหนักได้ถึงต้นเหตุของ
    ความหม่นหมองของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดทั้งหลาย อันมีต้นเหตุมาจากภายใน คือจาก ภาวะจิตของตนเอง เมื่อรู้ต้นเหตุของความหม่นหมอง ก็กำจัดต้นเหตุนั้นๆได้ง่าย เพราะเป็นส่ิงที่สามารถควบคุมและแก้ไขได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องไปพยายามควบคุมหรือแก้ไขสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวตน ซึ่งตนเองไม่อาจควบคุมหรือแก้ไขได้

    ผู้ที่ฝึกสมาธิจนสามารถใช้ อารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้อย่างมีสติ ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผู้มีบุญ ผู้ที่ "รู้สึก"ว่าตนเองมีบุญ ก็คือ ผู้ที่มีภาวะจิตที่แจ่มใส เบิกบานอยู่เสมอ หากจะมีปัญหา หรืออุปสรรคใดๆ และหากจะทุกข์-ก็ทุกข์ได้ไม่นาน เพราะสามารถแก้ทุกข์ได้ด้วยการแก้ไขความเชื่อของตนเอง ซึ่งยังผลให้สามารถพลิกผันอารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้

    ผู้อื่นสามารถรู้เห็นหรือสัมผัสกับภาวะอันเป็นบุญในบุคคลได้ด้วย - ความรู้สึกเช่นกัน
    เช่น รู้สึกร่าเริง แจ่มใส เบิกบาน สบายใจ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดบุคคลที่มีบุญ หรือติดต่อสื่อสารด้วย

    การทำบุญ อาจเป็นได้ทั้ง การคิดและการกระทำ
    การคิด : เช่น การสวดมนต์ การภาวนา การคิดในแง่บวก การมองโลกในแง่ดี การมีเจตนา มีความมุ่งมั่น และความปรารถนาในทางที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น การให้ความรัก ความเมตตา ต่อมนุษย์ สัตว์ พืช สิ่งแวดล้อม
    การกระทำ : เช่น การให้การช่วยเหลือเกื้อกูลมนุษย์ สัตว์ พืช สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

    การทำบุญจึงไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมทางศาสนาแต่เพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมถึงการมีความคิด และการกระทำต่อคนรัก คนใกล้ตัว ต่อผู้อื่น ต่อพืช ต่อสัตว์ ต่อสิ่งแวดล้อม ต่อสังคม ต่อองค์กรต่างๆ ต่อประเทศชาติ ที่ก่อให้เกิดความรู้สึิกร่าเริง แจ่มใส เบิกบาน สบายใจ เพราะบุญที่แท้จริง ไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา แต่บุญที่แท้จริงจึงอยู่ที่ผลลัพธ์อันเกิดจากภาวะจิต หรือ ความรู้สึกของบุคคลโดยตรง

    ------------------

    แต่คำกล่าวที่ว่า การทำสมาธิ เป็นการสร้างบารมีนั้น
    พี่นักเขียนมีความเห็นว่า การสร้างบารมีแต่ละข้อ เป็นไปได้ด้วยการกระทำทั้งสิ้น
    บารมี เป็นพฤติกรรม เป็นภาวะอันเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้โดยปราศจากการกระทำ

    การนั่งสมาธิ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ซึ่งทำให้เราเกิดความคิดในแง่ดี แต่ก็ยังไปไม่ถึงการกระทำที่ดี ดังนั้นการสร้างบารมีด้วยการฝึกสมาธิ ก็เท่ากับว่าเป็นความคิด แต่เพียงอย่างเดียว จึงไม่อาจบรรลุผลได้จนกว่าจะลงมือกระทำ หรือปฏิบัติตามความคิดนั้นๆ

    บารมีเป็นการกระทำที่ไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา การสร้างบารมีเป็นการกระทำอันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ทุกชาติภาษา และทุกศาสนาในโลก ผู้ปรารถนาความรัก ความเอื้ออาทร และการสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยปราศจากการเหลื่อมล้ำเบียดเบียนด้วยกันทั้งสิ้น บารมีที่แท้จริงจึงอยู่ที่ผลลัพธ์อันเกิดจากพฤติกรรม หรือ การกระทำของบุคคลโดยตรง (rose)
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  6. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ไม่ได้เข้ามาแป่ปเดียว กระทู้วิ่งฉิว เป็นภาพยนตร์ fast&furious เลย อิอิ (ยืมคำพูดหัวหน้าห้องมาใช้หน่อย) :z8

    อนุโมทนาทุกข้อความนะครับ ตามอ่านแทบไม่ทัน มีตัวตนต่างร่าง เป็นกวี และนักฝันเยอะแยะไปหมด เดี๋ยวต้องขอดาวน์โหลดมาใช้บ้างซะแล้วครับ

    ยินดีต้อนรับ คุณ imjoice คุณ jack และคุณเทพบุตรชาวดินครับ fishh_

    การจดจำความฝันได้อย่างคมชัด เป็นประโยชน์มากๆเลยครับคุณ wideheart
    ส่วนเรื่องการตีความ ต้องใช้อารมณ์ความรู้สึก เป็นตัวถอดความ

    พี่นักเขียนจึงสอนเสมอว่า ให้เราตั้งคำถาม ในสิ่งที่ต้องการรู้ ก่อนที่จะหลับไป เหมือนเป็นการปรับทิศทางหางเสือ ให้ไปพบเจอข้อมูลความรู้ที่เราต้องการ
    (กำลังฝึกฝนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเช่นกันครับ)

    ข้อมูลที่ออกมาเป็นรูปแบบสัญลักษณ์ในฝัน บางครั้งอาจจะไม่ตรงใจตัวตนภายนอก และไม่ใช่อย่างที่คาดหวังอยากให้เป็นนัก แต่ก็เป็นข้อมูลเพียวๆที่จะตอบโจทย์เราได้ครับ

    ฝันโดยส่วนมาก เมื่อเราจดจำมาได้แล้ว และยังตีความไม่ออก ก็จะเก็บเอาไว้ก่อนครับ แล้วก็ต้องเจอบุคคล หรือเหตุการณ์ ที่มาช่วยคลี่คลายให้จนได้ครับ

    วันก่อนฝันว่า ไปเดินอยู่ที่สนามหลวง มีจัดบู๊ธมากมาย เดินดูโน่นดูนี่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพื่อนเดินผ่านบู๊ธนึง และบอกว่า ลองแวะเข้าไปหน่อย รู้สึกเค้าจะมีพิธีกรรมที่ช่วยให้ชะตาชีวิตดีขึ้น

    แต่เพื่อนที่ไปด้วย จะมีบุคลิกภาพที่แตกต่างออกไปจากที่เคยรู้จัก

    เมื่อเดินเข้าไป อาจารย์ที่นั่งประจำบู๊ธ ก็วิ่งมาต้อนรับ ตอนนี้ที่บู๊ธ ไม่มีคนอยู่เลย
    หน้าตาเป็นช่างไฟที่เคยมาเดินไฟที่บ้าน ส่วนบุคลิกภาพจะเป็นอาจารย์ที่เคยรู้จักซ้อนกันอยู่

    เพื่อนบอกว่า จะให้ทำพิธีให้เขี้ยวงอกออกมา
    อาจารย์หยิบเอาแผนผังฟันออกมากางให้ดู และก็บอกว่า คนเราต้องมีเขี้ยวอยู่ 20 เขี้ยว ถึงจะดี เดี๋ยวทำให้มันงอกออกมา

    ผมก็ถามไปว่า มันหลุดไปแล้ว 1 เขี้ยว จะทำได้มั๊ย
    เค้าบอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวทำให้อีก 19 เขี้ยวที่เหลือ งอกออกมาให้หมด

    แล้วเค้าก็ให้นั่งขัดสมาธิหันหลังให้ และก็เดินพลังแบบหนังจีนกำลังภายใน ปรับเปลี่ยนพลังงานข้างใน

    ตื่นมาก็งงๆ ว่าฝันจะบอกอะไร
    ก็เก็บเอาไว้ก่อน

    อีกวันนึง คนรู้จักเล่าให้ฟังว่า ช่างไฟ ตอนนี้ไม่ได้เดินไฟให้โรงงานที่ทำสัญญากันไว้แล้ว เพราะทะเลาะกัน ก็เลยว่าง ถ้าอยากให้มาช่วยเดินไฟ หรือทำอะไรก็เรียกมาได้เลย

    ฝันวันก่อนก็เลยผุดขึ้นมาให้เข้าใจว่า เราไปสวมความรู้สึกของคนรู้จักคนนี้ เพราะว่าเค้าจะชอบไปเดินแถวสนามหลวง และท่าพระจันทร์

    ส่วนช่างไฟ นั่งอยู่ในบู๊ธที่ว่างเปล่า และเข้ามาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี หมายถึง รู้สึกสนิทสนมคุ้นเคย และตอนนี้ว่างอยู่ ไม่มีงานเข้ามา

    แต่เขี้ยวงอก และผู้หญิงอีกคน ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน เดี๋ยวก็คงมีเหตุการณ์ หรือเจอใครที่จะมาบอกครับ
    ในฝันเราต่างสวมความรู้สึกกันได้หมด เพราะมีแต่เรา ไม่มีกาลเวลา อย่างที่พี่นักเขียนพร่ำสอนเสมอครับ;aa52
     
  7. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    งานแต่ง..พิสดาร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อคืนนอนเกือบตีสองค่ะฝันว่า..เพื่อนของเพื่อนฉันเชิญได้เชิญเพื่อนของฉันสองคนไปงานแต่ง เราทั้งสามสนิทกันมาก เพื่อนมาบอกให้ฉันไปกับพวกเธอด้วย ฉันตกลงแล้วฉันก็ชวนแม่พี่สาวน้องคนเล็กแถมไปด้วย ช่วงที่คนทั้งห้าช่วยกันแต่งตัว ฉันก็เลือกเสื้อผ้าที่ถูกใจและก็ดูพวกเขาไปขณะเดียวกัน พี่สาวทำผมเกล้าสวยให้แม่ แล้วพวกเพื่อนรวมทั้งแม่และน้องสาวแต่งตัวเสร็จ ส่วนฉันยังอีล้าอีหลังชักช้า เมื่อฉันหาเสื้อผ้าใส่ได้แล้วและบอกพี่สาวว่าทำผมเอาให้สวยเหมือนแม่นะ พูดกับพี่สาวตั้งหลายครั้งพี่ก็ไม่ยอมทำให้ ฉันงอนจะไม่ไปงานแล้ว เพื่อนอีกสองคนเข้ามาจูงแขนปลอบให้หงายงอน พอหงายงอนแล้วฉันบอกว่ารอหน่อย ฉันต้องสวมเครื่องประดับก่อน ก็ไปหยิบเครื่องประดับเป็นสายสร้อยคอตัวจี้เป็นรูปไข่มุกรูปวงรีขนาดเท่าครึ่งข้อของนิ้วโป้งประดับด้วยเพชรล้อมรอบไข่มุกนั้นเอาสวมหัวไม่ทันไรสร้อยมันขาด โอ๊ย!อะไรนี่ฉันบ่นตัวเองอยากขาดก็ขาดไป ต่างหูมุกที่จะใส่ให้เข้ากันก็ไม่ได้ใช้แล้ว อารมณ์เริ่มหงุดหงิดอีก แต่ก็เกรงพวกนั้นจะรอนาน รีบหยิบที่ติดเสื้อธรรมดาราคาถูกเป็นรูปหัวใจสีน้ำเงินมาติดที่เสื้อที่สวมใส่ ฉันนึกในใจทำไมตัวเองถึงฉุกละหุกแบบนี้ทำอะไรก็เสียไปหมด เดินไปรวมกลุ่มพร้อมกันไปได้แล้ว เมื่อมาถึงที่ที่เป็นแม่น้ำฉันต้องงงกับทุกคนที่จะต้องไถลตัวลอดลงผ่านช่องเล็กนิดเดียวที่มีไม้ขนาด ความกว้างเท่าไม้กระดานบ้านกั้นไว้ให้มีช่องว่างเหลืออยู่แค่นิวเดียวระหว่างไม้กั้นกับลูกตุ้มกลมใหญ่ที่หมุนอยู่แล้วมีน้ำไหลบนลูกตุ้มอยู่ตลอดเวลา(เหมือนเรากั้นเชือกไว้หัวกับปลายห่างจากพื้นดินขึ้นมาหน่อยเดียวแล้วเอาตัวรอดใต้เชือกลักษณะอย่างเดียวกัน นึกวาดภาพว่าลูกตุ้มกลมใหญ่กำลังหมุนเป็นพื้นแล้วไม้กระดานยาวกว่าลูกตุ้มออกไปแค่ข้างละคืบมือเดียวเป็นเชือก และช่วงตรงกลางไม้กระดานกับลูกตุ้มห่างกันแค่ไม่เกินสองนิ้ว ขออธิบายแบบนี้ละกัน) ฉันเป็นคนรองสุดท้ายคือคนที่หก(เลขหกอีกแล้วอีกแล้ว อิ อิ)แต่ก่อนที่จะทำแบบนั้นฉันได้เห็นคนรองจากฉันคือน้องสาวคนเล็ก แม่พี่สาวกับเพื่อนสองคนฉยืนคอยอยู่ข้างล่างคล้ายโป๊ะอยู่บนแม่น้ำเพื่อคอยรับคนที่ไถลลงไปไม่ให้ตกลงน้ำ น้องสาวเลือกช่องลอดท้างซ้ายมือของลูกตุ้มใหญ่ เสียงแม่เรียกชื่อน้องสาวให้ระวัง แต่เป็นเสียงเรียกปนสนุกสนานเพราะจะเหมือนกับแม่และเพื่อนฉันที่ไถลตัวลงโดยไม่ถอดรองเท้า แต่รองเท้าของทุกคนกระเด็นกระดอนจมหายไปในแม่น้ำหมดเลยไม่มีเว้น น้องสาวก็เหมือนกันเธอไถลลงไปพร้อมกับเสียงวี๊ดว๊ายอย่างสนุกมาก ๆ พร้อมกับรองเท้ากระเด็นลงแม่น้ำไปตามระเบียบ ทุกคนหัวเราะชอบใจใหญ่เลย.. แต่ฉันไม่หัวเราะเพราะมันถึงตาฉันบ้างแล้ว ฉันคิดในใจถ้าจะบ้ามั้งเนี่ยมางานแต่งต้องมาทำอะไร ๆ แบบไม่ค่อยจะเต็มเต็งอย่างงี้ แต่ฉันก็..เอาก็เอาวะ(ขอหัวเราะหน่อยมันขำ ๆ อ่ะ..) ทุกคนข้างล่างจ้องมองอย่างเอาใจช่วย ฉันยืนสูดลมหายใจเข้า แล้วเลือกลอดตรงช่องกลางที่มีช่องไว้ให้ลอดไม่เกินสามนิ้วนั้น จะรอดได้หรือไม่ได้ก็เลือกแล้วตัดสินใจทรงตัวนิ่งได้จังหวะไถลตัวรื่นไปตามลูกตุ้มหมุนอย่ารวดเร็ว ฉันรู้สึกตัวว่าลูกตุ้มไม่สะบัดฉันออกนอกทิศทาง ฉันไถลลงมายังไงตัวฉันก็ยืนอยู่อย่างงั้นแปลกมาก ๆ ร้องเท้ายังติดอยู่ที่ส้นเท้าด้วยไม่กระเด็นลงน้ำ ทุกคนหัวเราะชอบใจยินดี ปรบมือกันเกรียว ฉันงี้ภูมิใจรู้สึกหน้าบาน คราวงี้ทำไงต่อไปอีกล่ะที่พวกเราจะไปงานแต่งแต่ไม่มีใครถามใครพูด เพื่อนสองคนโดดจากที่ที่เรายืนกันอยู่ลงแม่น้ำทุกทำตามกันหมด ตายละ! ฉันว่ายน้ำไม่แข็งเพราะว่ายไม่เกินสิบเมตรฉันต้องจมน้ำตายแน่ ทุกคนว่ายไปแล้ว ขณะที่ฉันลังเล น้ำในแม่น้ำมาเป็นคลื่นฟองใหญ่ซัดฉันตกลงในน้ำ ฉันพยายามว่ายตะกายคลื่น แต่ไม่รู้สึกสำลักน้ำเลยพอละลอกคลื่นสงบ น้ำนิ่งเป็นปกติตัวฉันไม่ว่ายแล้วปล่อยตัวเฉยๆ ฉันมองเห็นปลาน้อยใหญ่สวยงามอยู่รอบ ๆ ตัวฉันบ้าง นำฉันไปบ้าง สายน้ำมันพาตัวฉันลอยไปเอง ฉันรู้สึกเพลินกับพวกปลาว่ายเป็นเพื่อนฉันไปด้วยกัน กับสายน้ำในแม่น้ำใสแจ๋วเหมือนอุ้มฉันพาลอยตัวไป ๆ ความรู้สึกฉันขณะนี้มันช่างแสนวิเศษเหลือจะกล่าวกับเหล่าฝูงปลาที่ดำเนินไปพร้อม ๆ กันแหวกว่ายในธารากว้างใหญ่พร้อมมัจฉาพาไป สักพักฉันเห็นเจ้าคู่บ่าวสาว(ชุดแต่งกายเจ้าสาวเป็นผ้าลูกไม้เหมือนกับที่เราเห็นของจริงนั้นแหละค่ะเจ้าบ่าวก็เป็นสูทสีขาวค่ะ)ยืนคอยอยู่บนแพกลางแม่น้ำ เมื่อฉันขึ้นแพได้แล้วพวกนั้นว่ายน้ำมาถึงที่นี่ก่อนปลอดภัยกันทุกคน แล้วก็กำลังร้องเพลงกันอย่างสุขใจ อ้อ!ฉันได้ยินไม่รู้ใครร้องเพลง ปูไข่ไก่หลงด้วยจ้ะ จริง ๆ./<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอตื่นขึ้นมาประมาณตีห้าสามสิบห้านาทีพอดีที่ดูนาฬิกา เลยมานั่งประสานจิตให้มิ่งมิตรเพื่อนสมาชิกและผู้แวะอ่าน ได้สัมผัสความรู้สึกเห็นเหตุการณ์ผ่านตัวหนังสือจากความฝันที่ไวด์ฮาร์ทไม่มีความรู้เรื่องเรียงร้อยถ้อยความให้เป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่สมัยเคยเป็นนักเรียนมานั้นเพราะหัวไม่ดี ก็ได้สามารถบรรยายได้แต่เพียงน้อยนิด.ให้ท่านทั้งหลายไม่มากก็น้อยด้วยความเต็มใจยิ่ง รักทุกคน..<O:p</O:p
    wideheart<O:p</O:p
     
  8. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    การจดจำความฝันได้อย่างคมชัด เป็นประโยชน์มากๆเลยครับคุณ wideheart
    ส่วนเรื่องการตีความ ต้องใช้อารมณ์ความรู้สึก เป็นตัวถอดความ



    สวัสดีค่ะคุณเซลล์

    พอดีไวด์ฮาร์ทอยากทราบเหมือนกันว่าฝันในหัวข้อ งานแต่ง..พิสดารอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดเดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดีมันมาจากจิตใต้สำนึกจากตัวตนภายในที่แท้จริงทั้งหมดหรือเปล่าคะ ขอโทษนะคะไม่แน่ใจว่าควรจะตั้งคำถามถามแบบไหนก่อน ช่วยกรุณาไขคำถามให้ไวด์ฮาร์ทหน่อยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
    wideheart
     
  9. สัจจะวาจา

    สัจจะวาจา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +206
    สวัสดีค่ะ เห็นกระทู้เกี่ยวกับฝันก๊อ อยากแบ่งปันความฝันอ่ะ เมื่อคืนวานฝันว่า "น้ำท่วมเยอะมากน่ากลัว จนไม่กล้าฝันต่อ" เกี่ยวอะไรหรือเปล่าอ่ะ
    ขอบคุณมาก่ะ
     
  10. aquad

    aquad สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +22
    รูปเด็กเกาะโต๊ะคอมน่ารักดีคับ
     
  11. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    ชั้นเชิง...<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตีสองยี่สิบกว่านาทีล้มตัวลงนอนหลับฝันว่า..ในห้องเรียนหนังสือคุณครูในชุดกระโปรงยาวสีน้ำตาลเลยหัวเข่าเล็กน้อย รูปร่างของเธอไม่อ้วนไม่ผอม ผมดัดสั้น ผิวดำแดง อายุคงไม่เกินสิ่สิบราว ๆนี้ เธอยืนอยู่หน้าห้องบอกให้นักเรียนที่มีอยู่ในห้องซึ่งมีฉันนั่งอยู่โต๊ะเรียนแถวหน้าชิดทางขวาและมีนักเรียนผู้หญิงอีกคนอยู่นั่งใกล้กัน นักเรียนสวมใส่เสื้อผ้าอะไรก็ได้ไม่ใช่ชุดนักเรียนความรู้สึกเป็นเช่นนี้ ว่าจะเริ่มเรียนกันได้แล้ว และคุณครูก็หันหลังไปเขียนหนังสือบนกระดานด้วยดินสอช้อค เธอเขียนไปได้หน่อยก็ต้องหยุดเพราะมีผู้ชายคนหนึ่งวัยหนุ่มแน่น ผิวขาว ตาคม จมูกโด่ง รูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อสีแทนแขนสั้นกางเกงยีนส์ จับความคิดฉันได้ว่าเป็นนักเรียนที่มาเข้าห้องช้า เดินผ่านตัดหน้าห้องแต่ไม่ไปนั่งที่ มาหยุดที่ข้างหลังเธอ คุณครูหันมาดุให้เขากลับไปนั่งที่โต๊ะ แต่เขากลับยันเธอชิดกระดานดำแล้วใช้มือรูดจากหน้าอกลงมา คุณครูตกใจพยามดันเขาออกแต่เขาใช้แรงกดไว้ไม่ให้ขยับเธอกลัวตัวสั่น จากนั้นฉันก็ไม่เห็นภาพคุณครู แต่เขาสั่งให้ลูกสมุน(ไม่เห็นคนถูกสั่ง)เอาเม็ดยาในความรู้สึกว่ามันคือเม็ดยาเสพติดเม็ดสีเหลืองกลมขนาดเหรียญบาท ใส่ปากนักเรียนในห้องทุกคนรวมทั้งฉันด้วย บอกให้เคี้ยวและกลืนให้หมด ทุกคนทำตามหมดเพราะกลัวมันจนไม่กล้าขยับนักเรียนหญิงนั่งข้างฉันนั่งก้มหน้าตัวรีบ ฉันก็เคี้ยวแต่ฉันไม่กลืนแถมจ้องหน้ามันตลอด มันเดินไปเดินมาท่าทางกวนยียวนกวนเท้า..แล้วมันมาหยุดที่ฉันพูดว่าแม่คนนี้ไม่หลบตาแล้วพูดว่ากลืนเม็ดยาหรือยังด้วยน้ำเสียงฉุน ๆ ฉันบอกว่าเคี้ยวแล้วแต่ไม่กลืนพูดกับมันด้วยเสียงเรียบ ๆ เฉย ๆ มันโน้มตัวลงมาจนชิดใบหน้าต่อใบหน้าห่างกันแค่ปลายจมูก มันให้ฉันอ้าปากแล้วเอาลิ้นของมันซึ่งฉันรู้สึกว่ามันบางเล็กและยาวคว้านยาที่อยู่ในปากฉันแล้วถามด้วยจิตสื่อจิตว่าไหนลองบอกรูปร่างของเธอดูซิว่ารูปร่างช่วงตอนอายุเท่าไรหุ่นเป็นยังไงฉันไม่ตอบมันเดาใจฉัน ได้จังหวะฉันเอามือซ้ายขยุ้มเสื้อที่หน้าอกมันจับมันยกขึ้นแล้วก็ดึงมันลงอีกครึ่งตัวของมันล้ำเข้าบนโต๊ะแล้วมือที่ขยุ้มเสื้อจับมันแน่นตัวฉันออกมานอกโต๊ะ ลากมันมากลางห้องหน้าชั้นเรียน กดให้มันนั่งแล้วฉันก็คำรามด้วยเสียงดุดันว่ามึงแน่นักหรือไอ้สัตว์..แล้วใช้มือขวาจิกไปที่คอมันจิกลึกลงไปในลำคอมันเหมาะมือควักลูกกระเดือกซึ่งใหญ่มากเกือบรอบมือฉันดึงด้วยพละกำลังสองทีลูกกระเดือกมันเคลื่อนหลุดไม่ตรงที่เดิมมันตาเหลือกตาย จากนั้นฉันก็ออกจากที่นั่นมาเดินที่ถนนตามทาง ฉันรู้สึกว่ามีใครตามฉันมาหันกลับไปมองเห็นเป็นวิญญาณของไอ้คนที่ฉันควักลูกกระเดือกมันน่ะเอง มันได้แต่ตามฉันอยู่ห่าง ๆ เพราะวิญญาณมันไม่กล้าเข้าใกล้ฉันเพราะฉันรู้สึกเฉย ๆ ธรรมดา ฉันก็รอมันอยู่ว่ามันจะทำยังไงกับฉัน แต่มันก็ตามฉันระห่าง ๆ รักษาระดับ.ไม่งั้นคงได้สู้กันอีกรอบแน่./ <O:p</O:p
    ขอกล่าวกับเพื่อนสมาชิกและท่านผู้แวะอ่าน สั้น ๆ ว่าชอบค่ะที่ได้สู้กับคนและผี ขอบคุณมากค่ะ<O:p</O:p

    wideheart
     
  12. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ยินดีต้อนรับคุณสัจจะวาจาครับ รูปภาพแทนตัวสวยจัง

    คุณ wideheart ถามอย่างนี้จะตอบยังไงดี ไม่ใช่ผู้รู้ซะด้วยครับ

    พี่นักเขียน แนะว่า ให้จดจำอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อสัญลักษณ์นั้นๆ

    ฝันของคุณ wideheart มีหลากหลายอารมณ์ และสัญลักษณ์หลายๆอย่างอยู่ในนั้น

    ฝันจะแบ่งเป็นช่วงๆ จะขยายความซึ่งกันและกัน คุณ wideheart จะรู้ดีที่สุดครับว่าแต่ละตอนนี้แทนภาวะจิตตรงส่วนไหน

    ความฝันจะเหมือนภาพรวม ที่แต่ละองค์ประกอบจะขยายความให้เรามองเห็นสถานการณ์ เห็นอารมณ์ต่างๆ ได้ครอบคลุมขึ้น

    บางครั้งอาจจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกับตัวตนภายนอกของเราโดยตรง แต่จะเกี่ยวพันกับผู้ที่อยู่รอบๆตัวเราก็ได้ครับ

    จากที่อ่านฝัน เหมือนเป็นเรื่องความสัมพันธ์ รวมถึงวิธีการแก้ คือ หากเราใจเย็นๆ ร่มๆไว้ สถานการณ์ที่ดูเหมือนควบคุมไม่ได้ ก็จะแก้ไขได้ในที่สุด

    เหมือนเราได้เจอกับคู่รักในท้ายที่สุด

    รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆนั้น คุณ wideheart ต้องลองพิจารณาดูครับ

    ผมลองหาตัวอย่าง บางตัวอย่าง ที่พี่นักเขียนสอนให้พิจารณาความฝันมาให้ดูครับ

    เผื่อเพื่อนๆจะมาช่วยเสริม ให้ดียิ่งขึ้นครับ


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Vetinlove [​IMG]
    ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันที่น่าจะเกี่ยวกับคนรักของผมในอนาคตให้ฟัง ซึงเป็นความฝันก่อนหน้าที่จะได้มาศึกษาในกระทู้นี้ เมื่อปีก่อนได้ฝันว่า ตัวเองยืนอยู่ที่หน้าบ้านของญาติคนหนึ่ง แล้วผมก็มองเห็นต้นอะไรก็ไม่รู้ เป็นลักษณะเหมือนกันเถาวัลไม่ใหญ่มาก สวยงาม ต้นเล็กประมาณเล็กกว่าข้อมือ แต่สูงไม่เห็นยอด พอผมเห็นผมก็เลยปืนขึ้นไป ซึ่งพอปีขึ้นไปก็มีเสียงร้องเพลงผสานกับดนตรีที่ไพเราะมาก(มากจริงๆ) ซึ่งเป็นเพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เนื้อเพลงประมาณว่า *ถึงดอกไม้(บางทีก็เปลี่ยนเป็นดอกฟ้า ร้องวนไปๆมาๆ)มันจะอยู่สูงแค่ใหน แต่ว่าเราก็จะเก็บมันมาให้ได้ ซึ่งตอนที่ผมกำลังปีนอยู่นั้นเพลงก็ยังบรรเลงต่อไปเรื่อยๆ และตอนที่ผมปีขึ้นไปผมก็เจอดอกไม้ที่สวยมากเป็นช่ออยู่ที่ต้นไม้(แต่ยังไม่ใช่ที่ยอดของต้นไม้) ผมก็คิดว่าดอกไม้นี้สวยจิง แต่ผมจะขึ้นไปที่ยอดของต้นไม้นี้ให้ได้ ก็เลยละดอกไม้นี้ไว้ แล้วตอนที่ปีนขึ้นไปก็เจอดอกไม้ที่คล้ายๆกันนี้ประมาณ3-4ครั้ง แต่ผมก็ไม่เด็ด แต่กลับปีนไปเพื่อหวังที่จะไปถึงยอด และสุดท้ายผมก็ปีถึงยอด ยอดต้นไม้นั้นเป็นยอดไม้ที่เรียวเล็กและมีดอกไม้ที่สวยงามมากอยู่ เมื่อผมเห็นผมก็มีความสุขมากและเอามือไปจับดอกไม้ไว้(ตอนที่อยู่ตรงยอดไม้นั้น มันสูงมาก) แต่เพราะปลายมันเรียวเล็กยอดไม้รับน้ำหนักตัวผมไม่ใหวมันก็เลยโค้งงอลงมาพร้อมกับร่างของผมจนร่วงสู่พื้น(ดอกก็ยังติดกับยอดอยู่ แต่ยอดไม้มันงอจนลงพื้น) แล้วผมก็สะดุ้งตื่น ....
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ยินดีต้อนรับ คุณ Vetinlove สู่ห้องวิทย์ฯค่ะ
    [​IMG]
    ความฝันของ คุณ Vetinlove เปิดเผยคำตอบสำหรับคำถามของ คุณ Vetinlove อย่างแน่นอนที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนควรจะตระหนักคือ ความฝันให้คำตอบที่ตรงกับภาวะจิตของเรา ณ ปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่คำตอบที่ตายตัวตลอดชีวิต หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้

    เมื่อเราตั้งจิตก่อนนอนเพื่อปรารถนาจะรู้เห็นสิ่งใด ความฝันจะเปิดเผยคำตอบสำหรับภาวะจิต ณ ปัจจุบัน หรือ ณ ขณะจิตนั้นๆ หรือเปิดเผยเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่คล้องจองกับ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในขณะนั้นหรือช่วงนั้นๆของชีวิตเสมอ หากความเชื่อของเรายังคงเป็นไปเช่นนั้นต่อไป สิ่งที่เปิดเผยให้เรารู้เห็นในความฝันก็จะตรงตามนั้น คือเปิดเผยให้เรารู้เห็นอนาคตบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่คล้องจองกับความเชื่อนั้นๆ

    แต่ถ้าหากความเชื่อของเราเปลี่ยนไปเมื่อใด ภาวะจิตหรืออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราย่อมแปรเปลี่ยนไปด้วย สิ่งที่เรารู้เห็นในความฝันนั้นๆ จะกลายเป็นความเป็นไปได้ต่างเส้นทาง การสำรวจความฝันอย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญมาก เพราะเมื่อความเชื่อเปลี่ยน ความฝันจะเปิดเผยเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใหม่ด้วยเสมอ

    พี่นักเขียนคาดหวังให้พวกเราถอดรหัสความฝันด้วยตนเอง และได้กล่าวไว้ว่าสัญญลักษณ์ในความฝันเป็นสิ่งที่เฉพาะตัวดังที่เรียนรู้จากท่านอาจารย์อนาลัย แต่ถึงแม้ว่าความฝันจะเป็นสัญญลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับแต่ละบุคคล แต่การถอดรหัสความฝันเป็นสิ่งที่เราทั้งหลายถ่ายทอดแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้เสมอ เช่นเดียวกับความรู้ทุกแขนงในโลก แม้จะมีความเฉพาะตัวในแต่ละศาสตร์ แต่ก็มีหลักการหลายอย่างที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในต่างสาขาอย่างได้ผล

    สัญญลักษณ์ในความฝันเกี่ยวกับชื่อ มักปรากฏ "ความหมาย"ของชื่อมากกว่าปรากฏเป็นชื่อตรงๆ เช่น ความฝันของ คุณ Vetinlove พบว่าชื่อของแฟนคือ Flower คำว่า Flower เป็นสัญญลักษณ์ความฝัน การถอดรหัสจากคำนี้ น่าจะเป็นชื่อของดอกไม้ในภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาต่างประเทศภาษาใดภาษาหนึ่ง เช่น อาจจะเป็นสัญญลักษณ์แทนคนชื่อ โรส (Rose), ไวโอเล็ต (Violet) ซึ่งล้วนเป็นชื่อดอกไม้ เป็นต้น

    ในโลกของความฝัน ชื่อ ปราศจากความหมาย สัญญลักษณ์ทั้งหลายที่เกี่ยวกับชื่อ ที่เราสามารถจับเป็นหลักได้คือ สระ และพยัญชนะตัวต้นของชื่อเพียงตัวเดียวเท่านั้น ที่พี่นักเขียนสามารถบอกได้ว่า ชื่อจริงของ คุณน้อง amsomgal มีอักษร ว และ ส เพราะสัญญลักษณ์ในความฝันที่ปรากฏนั้น ปรากฏเป็นบุคคล คือเพืิ่อนของพี่นักเขียนซึ่งมีอักษรตัวแรกของชื่อ และ นามสกุล คือตัว ว และ ส

    บางความฝันอาจได้รับเฉพาะความหมายของชื่อ เช่น ได้คำแปลว่า ดวงอาทิตย์ แต่ไม่ทราบแน่ว่าบุคคลดังกล่าวจะชื่อ ตะวัน สุริยัน สุริยา สุริยะ รวิ รวี รพี หรือชื่ออะไรแน่ แต่ย่อมมีคำแปลว่า ดวงอาทิตย์ เป็นต้น

    สภาพแวดล้อมในความฝัน จะทดแทนภาพรวมของสิ่งที่เราตั้งคำถาม หรือต้องการคำตอบ
    ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อพี่นักเขียน ตั้งคำถามว่า คุณน้อง amsomegal มีบุคลิกภาพที่แท้จริงอย่างไร สิ่งที่ปรากฏขึ้นในความฝันคือ บุคคลที่พี่นักเขียนรู้จักดี 3 คน และเมื่อถอดรหัสความฝันก็นำบุคลิกภาพของบุคคลทั้งสามมาประกอบกัน โดยเอ่ยถึงบุคลิกภาพส่วนที่เด่นชัดที่สุดของแต่ละคนเท่านั้น


    เมื่อพี่นักเขียน ตั้งคำถามว่า คุณน้อง Jintawadee มีบุคลิกภาพที่แท้จริงอย่างไร สิ่งที่ปรากฏขึ้นในความฝันคือ บ้าน

    แต่ละห้องในบ้านเป็นสัญญลักษณ์ที่ทดแทนส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพส่วนหนึ่งของคุณน้องจินต์
    แต่ละห้องบรรจุด้วยรายละเอียดอันเป็นสัญญลักษณ์ เช่น ห้องหนึ่งมีผนังบุด้วย wallpaper ลายดอกไม้สีฟ้า มีใบสีเขียวตองอ่อน พี่นักเขียนก็ถอดรหัสว่า สีฟ้ากับสีเขียวตองอ่อนเป็นสีโปรดของคุณน้องจินต์ เป็นต้น แต่คุณน้องจินต์ก็เฉลยว่า สีโปรดคือสีฟ้า ซึ่งส่วนของสีเขียวตองอ่อนกับ wallpaper เกี่ยวอะไรกับคุณน้องจินต์หรือไม่ อย่างไร พี่นักเขียนยังไม่ทราบ อีกห้องหนึ่งเต็มไปด้วยนาฬิกาที่ทำด้วยลูกปัดและเครื่องประดับมากมาย ที่ทำให้นาฬิกาข้อมือดูไม่เหมือนนาฬิกาเอาเลย ซึ่งคุณน้องจินต์ก็มาเฉลยว่า ชอบนาฬิกาที่เป็นเครื่องประดับ


    บ้านหลังนี้มีห้องจำนวนมาก เป็นบ้านหลังใหญ่ แต่เสามีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนของตัวบ้าน พี่นักเขียนก็ถอดรหัสว่า คุณน้องจินต์เป็นผู้ที่มีความสามารถหลายด้าน แต่สนับสนุนหรือ support ตนเองน้อยมาก (เสาบ้านมีเล็ก)

    ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างการถอดรหัสความฝัน ซึ่งแม้ว่าแต่ละคนจะมีสัญญลักษณ์ส่วนตัวอย่างไรก็ตาม พี่นักเขียนก็หวังว่า พวกเราจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตีความหมายความฝันของตนเองได้ไม่มากก็น้อยค่ะ พี่นักเขียนเองเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ไม่มากก็น้อยจากเพื่อน จากนักเรียนสมาธิ และจากผู้ที่มักเล่าความฝันและตีความฝันของเขาให้ฟังเสมอๆ

    พี่นักเขียนจึงหวังว่า นอกจากพวกเราจะนำความฝันมา post แล้วให้ลองพยายามตีความหมายหรือถอดรหัสอย่างคุณ zip เป็นตัวอย่าง เพราะมีหลายส่วนในความฝันของคุณ zip ที่พวกเราสามารถเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ได้ต่อไปไม่มากก็น้อยค่ะ(rose)
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    มีเพื่อน ในเวบนี้คนนึง แรกๆ ไม่คุ้นเคย ฝันเห็นเค้าใส่เสื้อผ้าสีขาว เอาเสื้อใส่ในกางเกงสแล๊ค
    ผมเรียบแปร้ เดรดแปลความฝันว่า ต้องเป็นคนเรียบร้อย สุภาพ สุขุม
    ซึ่ง....ผิด ไปหลายพันกิโลเมตร

    พอเริ่มคุ้นเคย ต่อมาฝันว่า เค้าแต่งตัวเป็นวัยรุ่น ขาโจ๋ กวนประสาท
    เดรดตีความว่า เค้ายียวน และไม่กลัวใคร
    เริ่ม...มีเค้า

    ต่อมาฝันอีกที่นี้ เด็ดสุด
    ฝันว่า ได้มีการนัดพบ(ยังไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย) สถานที่ที่ไป เป็นหอพัก
    ขณะรอเพื่อนอยู่ มีเสียงผู้ชายทุ้มๆ ดังขึ้น ว่าคุณเดรดใช่มั๊ยครับ

    เดรดเงยหน้ามอง เห็นผู้ชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20 ต้นๆ ผมบ๊อบ ใส่แว่น
    ใส่เสื้อการ์ตูน กางเกงทรงทหาร มีโซ่คล้องกระเป๋าตังค์ รูป มิ๊กกี้เม้าท์(อิอิ)
    จากนั้น เค้าสั่งเพื่อน ให้เอารถออก บอกเพื่อนมา เพื่อนคนสำคัญ
    วันนี้ไม่ทำอะไร จะพาเพื่อนไปเที่ยว(....ใหญ่ มั่กค่ะ) ยานพาหนะ มักเป็นรถ กระบะ
    คือ พี่แกเป็น หัวหน้า หอ สมุนกุลีกุจอใหญ่เชียว

    สุดจะทนเก็บความสงสัย เลยเล่าความฝันให้เค้าฟัง
    เดรดตีความว่า เค้าเป็นคนลุยๆ(รถกระบะ) ดูภายนอกไม่น่าเชื่อถือ(เด็กกะโปโล)
    ไม่ค่อยเกรงกลัวใคร(นักเลง)
    เค้าบอกเดรดว่า สมัยวัยรุ่น อยู่หอพัก และดูแลคุมหอพัก ปะมานหัวหน้าแก๊งค์อะ
    เค้าบอก เค้าเป็นเด็กแนว ซ่าส์ สุดๆ ...แต่ตอนนี้ เป็นเต้าหู้ ไปแระ...
    โป๊ะเช๊ะ!!!!....จำเลย รับสารภาพแล้ว

    เมือความเชื่อเปลี่ยน ความฝันเปลี่ยน เส้นทางเป็นไปได้อื่นๆ ก็เปลี่ยนไป....จริง เสียยิ่งกว่าจริง
    ข่าวสารข้อมูล ผ่านเข้าออกเราทุกวัน อยู่ที่ว่า เราจะจับคลื่น และถอดรหัส พวกนั้น ออกมาได้มั๊ย
    ทั้งหมดทั้งสิ้น อยู่ที่อารมณ์ และความรู้สึก ที่มาจากความเชื่อของเราเองทั้งนั้นเลยค่ะ

    ตัวตนมีจริงๆนะคะ มาอ่านทุกวันด้วย แต่ขอสงวนนาม....เกรงจาย [​IMG]
    (เอามาลง ให้ร้อนท้อง เล่นๆ ฮี่ๆๆๆ)
     
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    พี่ใหญ่ก็ไม่ธรรมดานะคะ ครบทุกบท ทุกอารมณ์ จับทางยากมาก
    ขอเวลาเก็บข้อมูลซักพัก จะขอตั้งจิตฝันถึง แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ ตะเองนะ
    รอเค้าก่อน นะ ที่รัก นะ....จุ๊บๆๆ;aa50
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2009
  15. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    เจ้ากัลยาของพี่นี้ก็ใช่ย่อย..ทำเอาไวด์ฮาร์ทต้องหัวเราะดังก้องห้องเลยล่ะ กับบรรทัดสั้น ๆ แต่ความหมายถูกอกถูกใจไวด์ฮาร์ทมาก ๆ ๆ เลย
    ขอบอก..จ๊ะยอดรัก เดี๋ยวต้องไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ จะไปธุระข้างนอกอีก..ถ้ากลับมาจะกลับมาตอบให้ชื่นใจ! นะคนดี รักมาก ๆ ..จ้ะ
     
  16. Jack5115

    Jack5115 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    สวัสดีทุกท่านครับ

    คุณ MEAD ครับ ผมพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง และไม่ค่อยมีเวลามาเล่นเน็ทครับ ผมก็เลยทิ้งเบอร์โทรไว้ไงครับ 0832679105 เผื่อจะได้พูดคุยกันสะดวกๆ เพราะเรื่องแบบนี้คุยได้นานครับ ถ้ามาโพสท์เหมือนจะขาดตอน:)

    ส่วนเรื่องหนังสือ ครบชุด 10เล่ม ยังจำหน่ายเหมือนเดิมนะครับ ท่านใดสนใจจริงๆ โทรมาพูดคุยกันได้ น่าเก็บไว้เป็นคอลเลกชั่นนะครับ เพียงแต่ที่บ้านผมมันรกมาก กลัวหายน่ะครับ มีกล่องสีสวยสดอย่างดีจากทางสำนักพิมพ์ด้วย

    ขอบคุณทุกท่านครับ

    ปล จริงๆเรามีมีทติ้งย่อยๆก็ได้นะครับ แบบว่าใครว่างๆหรืออยู่ใกล้ ก็นัดทานส้มตำไก่ย่างกันก็ได้ครับ แหะๆ
     
  17. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    พี่ก็ยัง..ยืนรอ..อยู่หลังม่าน<O:p</O:p
    แต่น้องผ่าน..เลยไป..ใจตามถึง<O:p</O:p
    อยากจะเอื้อม..มือไป..เพื่อรั้งดึง<O:p</O:p
    พลาดไปซึ่ง..เสียดาย..สายสมร<O:p</O:p


    พี่หยั่งรู้..ใจน้อง..เต้นตึ๊กตั๊ก<O:p</O:p
    แต่พี่หัก..ใจลา..มาซะก่อน<O:p</O:p
    อย่าเพิ่ง..ท้อใจ..เลยงามงอน<O:p</O:p
    จะออดอ้อน..ความรัก..ให้ชื่นใจ./ 28 พฤษภาคม โดย wideheart <O:p</O:p
     
  18. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1
    คุณ wideheart ถามอย่างนี้จะตอบยังไงดี ไม่ใช่ผู้รู้ซะด้วยครับ

    พี่นักเขียน แนะว่า ให้จดจำอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อสัญลักษณ์นั้นๆ

    ฝันของคุณ wideheart มีหลากหลายอารมณ์ และสัญลักษณ์หลายๆอย่างอยู่ในนั้น

    ฝันจะแบ่งเป็นช่วงๆ จะขยายความซึ่งกันและกัน คุณ wideheart จะรู้ดีที่สุดครับว่าแต่ละตอนนี้แทนภาวะจิตตรงส่วนไหน

    ความฝันจะเหมือนภาพรวม ที่แต่ละองค์ประกอบจะขยายความให้เรามองเห็นสถานการณ์ เห็นอารมณ์ต่างๆ ได้ครอบคลุมขึ้น

    บางครั้งอาจจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกับตัวตนภายนอกของเราโดยตรง แต่จะเกี่ยวพันกับผู้ที่อยู่รอบๆตัวเราก็ได้ครับ

    จากที่อ่านฝัน เหมือนเป็นเรื่องความสัมพันธ์ รวมถึงวิธีการแก้ คือ หากเราใจเย็นๆ ร่มๆไว้ สถานการณ์ที่ดูเหมือนควบคุมไม่ได้ ก็จะแก้ไขได้ในที่สุด

    เหมือนเราได้เจอกับคู่รักในท้ายที่สุด

    รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆนั้น คุณ wideheart ต้องลองพิจารณาดูครับ

    ผมลองหาตัวอย่าง บางตัวอย่าง ที่พี่นักเขียนสอนให้พิจารณาความฝันมาให้ดูครับ

    เผื่อเพื่อนๆจะมาช่วยเสริม ให้ดียิ่งขึ้นครับ

    ต้องขอขอบคุณมากค่ะ คุณเซลล์ที่ช่วยชี้แนะแนวทาง พยายามวิเคราะห์ด้วยตัวเองบ้าง และตามกระทู้ที่เพื่อนสมาชิกคนอื่น ๆ ได้รับความช่วยเหลือและคำตอบจากสมาชิกของห้องวิทย์ค่ะ<O:p</O:p
     
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เมื่อได้ขอตั้งจิตฝันพลันบังเกิด
    เห็นเพื่อนรักผู้เลอเลิศเฉิดฉลวย
    เป็นสาวใหญ่ภายนอกดูสำรวย
    แต่ใจสวยเปี่ยมไปด้วยไมตรี

    ถึงแม้ปากเจ้าหล่อนชอบค่อนขอด
    แต่ใจปลอดคิดร้ายทำลายไม่
    จิตใจดั่งมหาสมุทรแผ่กว้างไกล
    ไม่เคยหยุดไม่เคยหน่ายร้ายกับดี

    อันว่าชื่อลำลองของนางนี้
    นั้นก็มี ตัว จ.จานเรียกขาน ไข
    ส่วนชื่อจริง อักษร พ.มาแต่ไกล
    ขอพี่ใหญ่ช่วยเฉลย...เผยมาที

    ด้วยรักจ้า...._heart+love_

    ปล.ไม่ทราบจะตรงตามเป้าที่ขอฝันหรือไม่ อาจเป็นเรื่องอื่นก็ได้ค่ะ
    ต้องพิสูจน์ ค่ะ ขอบคุณ คุณ wideheart ล่วงหน้าค่ะ สัญญลักษณ์ มาอีกเพียบ
    แต่เล่าไม่ไหวค่ะ เยอะมากๆ
     
  20. wideheart

    wideheart สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +1

    มิน่าล่ะ..เวลานอน..ตอนช่วงหลับ<O:p</O:p
    สติจับ..ว้าวุ่น..งุนงงขันธ์<O:p</O:p
    รู้สึก..กระหายน้ำ..อย่างเร็วพลัน<O:p</O:p
    พิลึกลั่น..ไม่เคย..เลยงุนงัง<O:p</O:p
    เหมือนใครหนึ่ง..ส่งพลัง..อย่างแรงกล้า <O:p</O:p
    คงถามหา..ตัวตน..คนที่หวัง<O:p</O:p
    เลยลุกขึ้น...มานั่ง..คิดจริงจัง <O:p</O:p
    คงน้องมั้ง..พี่คิด..ผิดหรือเปล่า<O:p</O:p
    อักษรใด..ชื่อใด..ใช่หมายมั่น<O:p</O:p
    เรารักกัน..ด้วยจิต..มิตรเพียงเรา<O:p</O:p
    ดูโพสต์เก่า..เฉลยเผย..ไมตรี./

    always love
    29 พฤษภาคม 2552 โดย wideheart<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...