เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

-*.*-
.
.
.
.
.
.
.
.
.

 

6. พระธาตุ ลอยตัว
มีผู้นำพระธาตุ อย้างหนึ่ง มาให้ ตรวจ..ว่า เป็นอย่างไร
เมื่อสัมผัสพบว่า มีพลัง แบบ พุทธะ คือ เย็น สะบายในจิต
เมื่อเพ่งดูทางใน ก็พบว่า มี พระรูปหนึ่ง อยู่ในพระธาตุนั้น
.............................................................
ท่านอยู่ในท่า อุ้มบาตร แบบพระทั่วไป เวลา เดิน บิณฑบาตร
เราเอาจิต คิด ตามดู พบว่า..ตัวท่าน..มีน้ำหนัก ปกติ
และในนิมิตร ภาพเคลื่อนไหว..ท่านแสดงให้ดู อย่างช้าๆๆ
ยกบาตรด้วยสองมือ ขึ้นเทินบนหัว
..............................................................
เราคิด ตาม..ก็พบว่า ตัวเรา เบา ลอยได้
ไป ตามพื้นเลี่ยๆๆไปกับดิน โดยเท้าไม่ถูกดิน
แสดงท่านกำลัง จะสอนวิชา การลอยตัว และ ร่นระยะทางนั่นเอง
.................................................................
ในอดีต เคยได้ ยิน ประจำว่า พระบางรูป
ท่านให้ คน ออกเดินทางไป ก่อน เป็น ชั่วโมง
แต่ชั่วแพล๊บเดียว ท่าน ก็ จะลอยมามาดัก ข้างหน้า คนที่ไปก่อนได้
ดังนั้นถ้า ประยุกต์ วิชา พลังดอกไม้สวรรค์ ที่ ลอยขึ้นบันได สวรรค์
กับ วิชา อุ้มบาตรเทิน หัว..แล้ว ลอยได้
สองวิชานี้ คงจะช่วยคนที่ มีจิต มีสมาธิ ทำอะไร ได้ แปลก
ในทำนอง ว่า เหาะได้ ก็คงจะสนุกดี..
แต่อย่างไร สิ่งที่กล่าวมา เป็น เรื้อง ของ ฤทธิ์
ที่ ไม่ถาวร ฝึก ทำเล่นสนุกๆๆ คงไม่เสียหาย
อย่าไป ติด อยู่กับฤทธิ์ ก็ แล้วกัน
.............................................................
ทั้งหมด เป็นเพียง ตัวอย่าง ที่ ยก ขึ้นมาเล่า สู่กันฟัง
และวัตถุมงคลทุกชิ้น ที่ ผ่านมา ก็ได้ ใช้ เคล็ด วิชาก็อปปี้ เก็บไว้
เหมือนเราไปทำ สำเนาซีร๊อค ไว้..
ใครสนใจจะมาทดลอง และ ก๊อปปี้ ต่อไปเพื่อ ใช้ และบูชาเองได้
ที่บู๊ธ 042 ตรงข้ามตลาด อตก จตุจักร กทม
...................................................................

 

เห็นสาวน้อย อั้งไล้ โผล่มาด้วยภาษา วัยรุ่น วุ่นรัก
คนแก่ ก็อ่านกันเต็ม..เขาไม่รู้หรอก ว่า จะสื่อ ถึงอะไร
เวบนี้ ต้องเคลียร์ ไม่มี คำไขว้ ปรืศนา..ให้เกะกะ หน้า จอ

 

ออ....ค่ะ........
ท่านผู้มีอุปการคุณโปรดทราบ .......เนื่องจากข้าพเจ้า....
นางสาว อั้งไล้ฮวกไช้ฮวกหก....มีความสงสัย และ ปลื้มปิติ ยินดี
อย่างบอกมิถูก เวลาที่อ่าน ข้อความ ดังที่กล่าวไว้ข้างบน......
ดังนั้น จึง มาแจ้งให้ทราบ โดยทั่วกัน.....
........................................จึงเรียนมาเพื่อทราบ......
........................................ขอแสดงความนับถือ......
....................................อั้งไล้ฮวกไช้ฮวกหก.....
หึหึหึ

 

ขอบคุณค่ะ อยากไปเจออาจารย์กับท่านทั้งหลายเหมือนกันค่ะแต่อยู่ต่างจังหวัดถ้าได้มีโอกาสเข้ากรุงเทพเมื่อไรจะหาเวลาไปนะคะจริงๆก็ไม่ไกลเท่าไร สระบุรีเองค่ะ แต่ที่อ.สามตา ลงบทความก็ให้ความรู้ดีค่ะ

 

ไปมาแล้วอ่ะคับ เอารูปมาฝาก อิอิ
เพิ่งกลับมา 20-2-52

 

http://palungjit.org/attachments/a.519491/

http://palungjit.org/attachments/a.519492/

http://palungjit.org/attachments/a.519493/

 

up รูปแบบเต็ม ๆ ไม่เป็นอ่ะครับ ทำไงหว่า

คือว่า ไปทำงาน แถวเพชรบูรณ์มา นึกขึ้นได้ว่า
คณะอาจารย์ต่าง ๆ จะมาแถวนี้ ก็เลยแวะมาดูบ้าง
ตามประสาคนไม่มีตาทิพย์
(แต่อยากมีนะ เพราะจะได้รู้ความเป็นมาของโบราณสถาน)


ภาพชุดแรก ค่าเข้ากะบัตรรถ 50+10 นั่งชมรอบเมือง
จริง ๆ เคยมาแล้วครั้งนึงกับเพื่อน ๆ ที่ ออฟฟิต แต่จำไม่ได้
พอมาอีกที อ๋อ นี่นะหรือ เมืองศรีเทพ เคยมาแล้วนี่หว่า

ภาพเป็นการขุดพบซาก มนุษย์โบราณ กะ ช้าง ??? ซากช้างอ่ะ

ภาพชุด2 เป็นโบราณวัตถุต่าง ๆ สถานที่บูชา อะไรประมาณนั้น
ไม่ได้ฟังไกด์ มาก เพราะ ร้อน อยากกลับ แต่ กลับ ไม่ได้

ไกด์บอกว่า เมืองนี้ก่อนสุโขทัยอีก แต่ไม่ทราบว่า คนหายไปไหนกันหมด
ไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้เลย (อาจจะตายกันทั้งเมืองด้วยโรคระบาด)
ไมรู้จริงรึเปล่า (ผมว่ามนุษย์ต่างดาวเอาตัวไปมากกว่า)

ยังไงก็ฝากหาข้อมูลมาเล่ากันบ้างนะครับ
(มีรูปอีกเพียบ) แต่ไปดูกันเองดีกว่า เดี๋ยวไมสนุก

อ้อ ไม่ได้ถ่ายภาพตรงศาลเจ้าพ่อศรีเทพมาให้ชมแบบเต็มๆ
(ถ่ายแบบผ่าน ๆ ไม่ได้จอด เพราะมากะ คณะ ส.ว. = สูงวัย)

อีกรูป ข้างในเป็นไรหว่า อยากรู้อะครับ

 

ขอบคุณที่เอาบางส่วนของ เมืองศรีเทพ มาลงให้ เพื่อนๆๆดู
แต่เพื่อนๆๆที่จะไป..ไม่ได้ เอาสองตาไป..เอาตาที่ สามไป
เขาจะเห็น เมืองศรีเทพ ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ ย้อนยุคกลับไป กว่า 1200 ปี
อาจจะมี นางอัปสร สวยงาม ไม่ใส่เสื้อ มาฟ้อนต้อนรับ คณะเราก็ได้
อย่าอิจฉาก็แล้วกัน..ที่ที่นั่นมีองค์เทพแรงๆมากมาย

 

เรื่องเล่าก่อนนอน คืนนี้เรื่องที่ ยี่สิบเจ็ด (27)
การสร้างยานอวกาศ ประเภทจานบิน

วันนี้ วันที่ 20 กพ 2552 อาจารย์และคณะ อีกหลายคน
ได้ไปเยี่ยม โครงการ พัฒนาและวิจัย ในนาม ของ เอกชน แห่งหนึ่ง
ผู้ร่วมงานมีทั้งคนไทย และ ฝรั่ง /ฝรั่งเป็น หัวหน้า/ คนไทยเป็นผู้ช่วย
สิ่งที่ เขาคิด และทำ มีหลายโปรเจค..และส่วนใหญ่ เป็น ด้านพลังงาน
.........................................................................
ทีมฝรั่ง ผู้เป็นนักคิด เคยอยู่ประเทศ เยอรมัน.ค่อบข้างอัจฉริยะ
คิดแต่โครงการที่เหมือนอยู่ในฝัน
เช่นเครื่องจักรที่ ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง..แต่วิ่งได้ตลอด
คิดค้น รถพลังน้ำ..ใช้น้ำ เป็น เชื้อเพลิง แทนน้ำมัน
................................................................
โครงการเหล่านี้ โดยรวมจะเป็นผลดี ต่อ มนุษย์ ชาติ
ไม่เปลือง น้ำมัน..ไม่มีของเสีย ทำให้ สิ่งแวดล้อมเป็น พิษ
แต่ทำได้ ยากที่ สุด /เกิดได้ ยากที่ สุด
เพราะ เกิดผลประโยชน์ ขัดกันอย่างมหาศาล
..............................................................
ถ้ารถทั้งหมดใช้ น้ำเป็น เชื้อ เพลิง..ที่จะเจ๊งก่อน คือ ปั๊ม น้ำมัน
โรงกลั่น / ระบบเรือ ขนน้ำมัน/ อาหรับ เจ้าของ บ่อน้ำมัน
อุตสาหกรรม รถยนต์ ของ ไทย และ ญี่ปุ่น หรือ ทั่วโลก
ลงรากฐาน การผลิตในระบบ ใช้ น้ำมัน..จะพังหมด
ต้องสร้างโรงงานใหม่หมด
............................................................
ตัวฝรั่งต้นคิด จึง ต้องหนีภัย จากต่างประเทศ เข้ามายังประเทศไทย
และเริ่มการวิเคราะห็วิจัย ต่อ..ในไทย มี สินแร่ และโลหะที่ หายาก อยู่มาก
.........................................................................
เขาให้ดู โปรโตไทพ์ หรือ ตัวอย่าง ระบบเครื่องยนต์ ใช้น้ำ เป็น เชื้อเพลิง
พบว่า ทำงานได้ดี..มีขนาดเล็ก..แต่จะทำไม่ได้ ในระบบตลาด
เพราะจะถูกกีดกัน ทั้งทางการค้า และการเมือง
..............................................................................

 

อาจารย์ช่วยดูผมให้หน่อยนะคับ

ขอความกรุณาด้วยคับ

T^T

 

เครื่องปั่นไฟฟ้า แบบใหม่ ที่ต่างไปจากที่เราเห็นกันอยู่ คือ
ผลิตจากไดนาโม /จากพลังแสงอาทิตย์ /จาก พลัง ลม
/จากพลังน้ำโดยเขื่อน/จากพลังไอน้ำ โรงไฟ้ ถ่านหิน
แต่ความคิดของเขา ออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง
แทบไม่มีเชื้อเพลิง..แต่ผลิตพลังงานออกมาได้ ตลอดเวลา
...........................................................
เขาคิดอยู่สองระบบ
ระบบแรก ใช้การหมุน และ อาศัย สนามแม่เหล็ก สลับ
เมื่อเกิดการหมุน..จะมีปฏิกริยา ดูด ประจุอิเลคตรอน อิสระ
จาก บรรยากาศ เข้ามา..รวมกันเป็นอิเลคตรอน..
อิเลคตรอน เคลื่อนที่ได้ ก็กลายเป็นกระแสไฟฟ้า ออกมา
.................................................................
จากเครื่อง ทดลอง ที่ ทำอยู่ พบว่า ใช้ พลังในการสร้างแม่เหล็ก
เมื่อได้ พลัง ไฟฟ้า ออกมา..พลังที่ออกมามากกว่า ที่ ใช้ เกือบ 4 เท่า
จึงกำไรตลอด.ไม่ต้องใช้ เชื้อเพลิง นอก..คือเหลือ อีก 3 เท่า เป็น ไฟฟ้า
...........................................................................
เท่าที่ ดูด้วยจิต ผสม หลักการทางวิชาการ..
พบว่า เป็นการได้ พลังงานเกือบจะฟรี..ก็จริง
แต่มีผล ข้างเคียง..บรรยากาศ/ โลหะ / มนุษย์
ที่อยู่ ภายในบริเวณ ที่เครื่อง ตั้ง..อนุมูลอิสระ จาก ผิวโลหะ
/ จากตัวคน จะหลุดลอย เข้าเครื่อง ทำไฟฟ้าไป
นานๆๆๆไป..คนก็ตัวแห้ง ผอมซีด/ โลหะ ผุกร่อนเร็ว
อันนี้ ฝรั่งเขาไม่ได้ พูด แต่เราเห็น เอง ว่า เวลาเดินเครื่อง
มองด้วยตาที่สาม จะเห็น อนุมูล อิสระ ปลิวว่อน เข้า เครื่อง
ผิวหนัง บางส่วนของเรา กลายเป็นพลังไฟฟ้า ไปแล้ว
..............................................................
ถ้าจะสร้างเครื่องผลิตไฟฟ้า แบบที่ ว่า จะต้อง ตั้ง ห่างโดด
ไกลจากผู้คน..ปลูก ต้นไม้ใหญ่ๆๆ ล้อมให้เหมือนป่า
ต้นไม้จะคาย ออกซิเจน / คาร์บอนไดออกไซด์
ให้ออกมาเป้น เชื้อเพลิง ผลิตไฟฟ้า
.................................................................
เขาให้ดู เครื่อง ทดลอง ปั่นไฟ ต้นแบบ ขนาก 1 กิกะ วัตต์
มองดูห่างๆๆ ก็เหมือน เตาปฏิกรณ์ปรมาณุ ที่เคนไปเห็นมา
ลองผลิตไฟฟ้า ดู เชควัดค่า..ก์พบว่า ได้ จริง ตามที่บอก
...............................................................
อีกเครื่องหนึ่ง ที่เขากำลัง ทดลอง
เป็นเครื่องปั่นไฟ แบบเป็นแท่งยาว มีเส้นลวดพันแกน
มีแกนแม่เหล็ก สอง ชั้น
เป็นเครื่อง กำเนิดไฟฟ้า ที่ ใช้จากการดูด
คลื่นและความถี่ รอบๆๆ ตัว เข้าไป
คลื่นและความถึ่แบบพายุ นั้นแรงมาก
อย่างเวลาดวงอาทิตย์ มีจุดดับ
จะมีลมพายุ สุริยะ พัดมา..ระบบสื่อสาร บนโลก จะใช้การไม่ได้
.........................................................................

 

เราทั่วไปรู้แล้วว่า พอมีไฟฟ้า..เขาก็เอาไฟฟ้า
มาถ่ายภาพทีวี แปลงออกเป็นคลื่น ส่งออกไป ในอากาศ
คลื่นก็ลอยมาเข้า เสาอากาศบ้านเรา..เราก็ได้ ดู ทีวี
........................................................
แต่เครื่องที่ ว่า มันจะดูดคลื่นจากอากาศ
แล้ว แปลงกลับไปเป็นไฟฟ้า นั้นเอง
หมายความว่า ขณะนี้ โดยทั่วไป เราแปลงไฟฟ้า ไปเป็น คลื่น ส่ง
ออกแต่เครื่อง ที ว่า จะทำกลับกัน คือ ดูดคลื่นและความถี่
แล้ว แปลงกลับมาเป็น กระแสไฟฟ้า..คือได้ ไฟฟ้า โดยไม่ต้อง ลงทุน
หรือ พูกภาษา ชาวบ้าน คือ เครื่องขดโย ไฟฟ้า นั่นเอง..ไม่ต้องลงทุน
..........................................................................
โรงไฟ้ฟ้า /เครื่องผลิตไฟฟ้า แบบนี้ ตั้งที่ไหน.
.แถบนั้นดูทีวี /เล่นอินเตอร์เน็ท ไม่ได้..เพราะไม่มีคลื่น
เอาไป ตั้งแถวใต้สายไฟ แรงสูง ของ กฟผ
หรือ การไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ที่กระจายอยู่ ทั่วประเทศ..เครื่องมันจะดูดพลัง
จาก สายไฟ..ได้ สบาย..เพราะ มีคลื่นความถี่
...................................................

 

โครงการสุดท้ายที่เขา บอกมา ย่อๆๆ คือ
เป้าหมายในการสร้าง ยานอวกาศ หรือ จานบิน
โดยจะใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟ ดูด อนุมูล อิสระ อิเลคตรอน
จาก อวกาศ เป็น ต้นกำเนิดพลัง..
สามารถลอยอยู่ได้ นานตลอดไป ไม่ต้องเติม เชื้อเพลิง
..........................................................
เขามีความคิดที่ จะสร้างเครื่อง ปั่นไฟฟ้า
โดยใช้ อนุมูล อิสระ อิเลคตรอน.. ขนาดพอเหมาะที่ จะใช้ในบ้าน.
.แล้ว ค่อยๆๆ ขยายสเกล ให้ โตขึ้นเป็นโรงไฟฟ้า ขนาดใหญ่ได้
ถ้าทำได้..โรงไฟฟ้า แบบนี้ ไม่ต้องมีค่าเชื้อเพลิง แต่อย่างใด
แต่ต้องปลูกป่า มากๆๆ เพื่อ มีต้นไม้แยะๆๆ ให้ พลัง อนุมูล อิสระ
....................................................................
จึงเล่าสู่กันฟัง อย่าง ย่อๆๆ และ บางส่วน เท่า นั้น
......................................................................

 

ไฮเทคจริงๆ ครับ

 

ฐานขึ้นสู่สวรรค์ ดีจริงๆครับ
อยากไปจริงๆ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าจะเจออะไร 5-5-5

 

ถ้าวันที่โลกเราไม่มีโอกาสใช้น้ำมันแล้ว หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนในโลกแทนได้ แถมได้ปลูกป่ากันมากขึ้นด้วย มนุษย์และธรรมชาติคงมีความสุขนะคะ

 

ต้องขออภัยอาจารย์สามตา และพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ที่เข้ามาตอบช้า
เนื่องจาก..มีกิจกรรมที่กระทู้เขากะลา และครูบาคำเป็ง มากมาย
วันนี้ตื่นแต่เช้า พอมีเวลาเข้ากระทู้ เจอคุณ ceta64 ส่งข่าวให้เข้ามาตอบ
เพราะอาจารย์ถามไว้นานแล้ว

ที่อาจารย์เห็นการติดอุปกรณ์ที่หลังผมนั้น ก็ตรงกับที่อาจารย์สุดใจ กล่าวไว้ว่า
มนุษย์ต่างดาว ได้มาติดอุปกรณ์ให้มากมาย เพื่อใช้ทำงานในอนาคตที่จะเกิดภัยพิบัติ วันนี้ก็จะได้ไปรับคำชี้แจงเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยี่ชั้นสูงของต่างดาว ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตามนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ

ส่วนเรื่องสาวต่างดาวนั้น หากพบเจอและมีประสบการณ์เมื่อไหร่ จะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

 

ขอบคุณสำหรับรูปเมืองศรีเทพของคุณขุนเวชค่ะ ไม่เคยไปสักที
ถ้าอาจารย์จะแวะพักพิษณุโลก มีบ้านญาติที่วังทองให้พักหลายห้องนะคะ ปกติไม่มีคนอยู่
พี่เมาท์มาตอบให้แล้ว แต่ไม่ยักมีเรื่องสาวต่างดาว มาเล่าให้ฟัง
แต่เขาคงติว่า รูปร่าง หน้าตามนุษย์ขี้เหร่

 

มองดูรูปนี้แล้ว รู้สึกตัวโล่งๆๆ เบาๆๆๆ เหมือนจะลอยยังงัย ก็ไม่รู้คะ