เราไม่มีในกาย กายไม่มีในเรา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 26 ธันวาคม 2008.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ฝากขันธ์อ่านด้วย เรื่องวิปัสสนาจะได้รู้เสียที

    หลวงปู่ฝั้นพูดไว้ชัดเจนนะครับ
    สมถะวิปัสสนาไม่ได้แยกออกจากกัน
    เหมือนสมาธิทั่วไปซึ่งเป็นสมาธินอกพระพุทธศาสนา
    ส่วนสมาธิในพระพุทธศาสนา สมถะวิปัสสนาไม่แยกจากกันครับ

    ;aa24
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2009
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    คุณขันธ์ครับ คุณกำลังกล่าวร้ายพระอาจารย์ใหญ่มั่นอยู่นะครับ
    ว่าสอนไม่ตรงต่อจอมศาสดานะครับ
    คุณไม่รู้ก็คงไม่มีใครว่า แต่คุณพยายามสอนคนอื่นถึงเรื่องธรรมอันยิ่ง

    แค่เรื่องอุคคหนิมิต(นิมิตติดตา) คุณยังไม่รู้เรื่อง
    เรื่องอื่นก็เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว
    ไปเบิ่งตาดูในพระสูตรมหาวรรค อานาปาณกถาและในมหาสติปัฏฐานสูตรมีกล่าวไว้

    วันหลังถ้าไม่เข้าใจตรงไหนของอาจารย์ใหญ่มั่น
    ก็รู้จักกลับไปถามครูบาอาจารย์บ้างอย่าเพ้อเจ้ออีกหละ
    มันน่าเป็นห่วงนะครับ ดูถูกได้แม้กระทั่งอาจารย์ใหญ่ของตนเอง
    ทั้งๆที่เคยแอบอ้างความเป็นลูกศิษย์....

    ;aa24
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    อะไร ของมันเนี่ย ธรรมภูติ ปีใหม่แล้ว หัดพยายามเข้าใจอะไรให้มันง่ายๆ

    ไอ้ที่ผิด นั่น ไม่ใช่ผมผิดหรอก ธรรมภูติแปลความผิดหมด ครั้นจะให้ผมแปลไทยเป็นไทยอีกก็จะฟั่นเฝือ พลอยจะยุ่งเหยิง ให้คนแปลความผิดพลาดไปอีกเป็นทอดๆ

    ผมขี้เกียจมานั่งแก้ต่าง คุณเข้าใจไหม เพราะว่า ผมก็บอกข้างต้นก่อนคุณจะมาตอบแล้วว่า
    นิพพิทาญาณ เมื่อเกิดกับสิ่งใดก็เห็นว่า สิ่งนั้นน่าเบื่อ เพราะมันเดิมๆ จนเอาใจออกจากสิ่งนั้นได้ เพราะมองว่า สิ่งนั้นๆ เป็นสิ่งเพ้อเจ้อ ไร้สาระ หาแก่นไม่ได้
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ รู้ไหม ว่าคำถามแบบนี้ มันเป็นคำถามเด็กท่องจำ มันไม่ได้วัดการปฏิบัติเลย เพราะการปฏิบัตินี้ มันลงไปที่ใจที่ยอมรับ ว่า สิ่งใดเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นก็ดับเป็นธรรมดา

    คนละได้เขาก็ละได้ไปนานแล้ว แต่คนติงต๊อง มันก็จะมาถามแบบคนคิดวิเคราะห์ ตามภูมิโง่ของตนว่า แล้วมันมีเหตุเกิดขึ้นเองหรือมีปัจจัยให้เกิด

    แล้วที่ว่า นั้นมันเกิดเองหรือมีปัจจัยให้เกิด
    ดับไปเองหรือต้องมีวิธีดับ แบบนี้ก็คิดกันไปต่างๆ นาๆ มันเป็นปัญหาขึ้นกับมุมมองเข้าใจไหม มันไม่ได้วัดอะไรเลย

    ผมจะบอกว่า มันเกิดเองก็ได้ไม่มีปัจจัย หรือ บางคนบอกว่า มีปัจจัยก็ได้
    บางคนบอกว่า ดับไปเองก็ได้ บางคนบอกว่า มีวิธีดับก็ได้

    มันอยู่ที่ ตอนนั้นเขาเห็นอะไร

    คำถามของคุณ ครั้งแรกก็เช่นเดียวกัน ที่ว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น อัตตาหรืออนัตตา มันก็เป็นคำถามปัญญาอ่อนเช่นเดียวกัน ใช่ไหม ธรรมภูติ
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ผมจะตอบให้ก็ได้ แต่ใครจะมาพิสูจน์หละ เอาหลักฐานมาจากไหนว่าคำตอบใครจะถูก

    ถ้าจะเอาคำพูดของนักปริยัติ มาว่า คำตอบคืออย่างนั้นอย่างนี้ แล้วถ้าผมผิด ผมจะบอกให้ไปเรียกคนที่เฉลย มาว่าให้มาเถียงกับผม เพราะผมไม่ยอมผิด

    จะตอบให้ดังนี้ ผมจะเล่นกับคุณอีกสักรอบ

    ข้อแรก สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา นั้น ตอบว่า มีเหตุปัจจัย

    ข้อที่ 2 สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นดับเป็นธรรมดา นั้น ตอบว่า ไม่ต้องมีวิธีทำให้ดับ มันก็ต้องดับ

    ส่วน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น อนัตตา

    เอา ผมตอบแล้ว คุณว่ามา ว่าจะให้คะแนนผมอย่างไร
     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *คุณขันธ์ครับ คุณมีความน่ารักตรงที่มีความเพียรพยายาม
    ในการที่จะสอนคนให้รู้จักพุทธศาสนา
    เป็นสิ่งดีครับ ผมเองก็ยินดีในส่วนนี้ของคุณด้วย
    แต่ก็เป็นธรรมดาดังที่ผมพูดไว้หลายครั้งแล้วว่า
    ในฐานะพุทธบุตรที่ดีเมื่อคุณพูดมีที่ขัดกับจอมศาสดา
    นั่นก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีคำถามนะครับ

    ผมถามนะครับว่าทำไมคนที่ติดยาเสพติด
    รู้ทั้งรู้ว่า สิ่งที่ทำอยู่ไม่เที่ยง ไร้สาระ ไม่ดีเป็นสิ่งที่สังคมรังเกียจ
    เค้าก็เดินวิปัสสนามองสิ่งต่างๆตามที่คุณพูด ทำไมยังเลิกไม่ได้เสียทีครับ???

    แล้วคนที่เป็นโรคจิตซึมเศร้า
    เค้าก็มีแต่ความเบื่อหน่าย คลายกำหนัดทำไมไม่เกิดนิพพิทาญาณหละครับ???
    เพียงแค่คิดๆๆก็เกิดนิพพิทาญาณได้ไม่รู้สึกว่าง่ายเกินไปหรือครับ???

    ต่อนะครับคนที่เป็น erectile dysfunction
    ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าตนเองบกพร่องในส่วนนี้
    เกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ทำไมไม่เกิดนิพพิทาญาณหละครับ???
    เห็นเบื่อหน่ายคลายกำหนัดได้ประเดี๋ยวประด๋าวก็ดิ้นรนอีกหละ???

    คุณขันธ์ครับ ทำไมคุณขันธ์ไม่บอกไปเลยละครับว่า
    ถ้ายังไม่สามารถทำจิตให้รวมลงสงบตั้งมั่นไม่หวั่นไหวได้แล้ว
    เรื่องที่จะเดินวิปัสสนาให้จิตเข้าถึงนิพพิทาญาณ
    (เบื่อหน่ายคลายกำหนัดได้อย่างแท้จริง)นั้น เป็นเรื่องที่กระทำไม่ได้

    ส่วนที่พูดถึงวิปัสสนานั้นเป็นเพียงการทำให้จิตพอสงบลงได้เท่านั้น...
    ยังไม่ถึงกับเป็นสัจจะธรรมอะไรหรอกครับ
    อย่าหลอกตัวเองไปเลยครับ ไม่มีประโยชน์โภชน์ผลอะไรขึ้นมาหรอกครับ

    ;aa24
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192


    คุณขันธ์ครับผมนึกไม่ถึงเลยนะครับว่าคุณทำได้ขนาดเด็กๆยังอายเลยครับ
    ถ้าคุณตอบแบบคนติงต๊องอย่างนี้คุณอย่าตอบซะยังดีเสียกว่า
    ที่ตอบมานี้แสดงถึงภูมิโง่ของคุณเองนะครับ
    กล้าๆหน่อยสิครับ ตกลงว่า คุณไม่ได้ตอบนะครับ เพราะกลัวหรือไม่รู้จริงกันแน่ครับ

    อันนี้ไม่ได้ถามแบบวิเคราะห์เลยนะครับและมีมุมมองเดียวเท่านั้นเพื่อความหลุดพ้นครับ
    อย่าเดาสวดเอาสิครับ!!! เป็นการถามแบบทำมาพูด(ธรรมภูต)ครับ
    จึงได้ตั้งคำถามในแนวปฏิบัตินะครับ
    คุณก็แสดงภูมิโง่ของคุณออกมาให้เห็นว่าไม่เคยปฏิบัติสัมมาสมาธิมาเลยนะครับ
    คนปฏิบัติย่อมรู้ดีทุกคนครับเพราะเดินตามรอยจอมศาสดาที่ทิ้งไว้ให้

     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    <O:pคุณขันธ์ครับผมไม่ต้องอ้างใครก็ได้นะครับที่จะบอกว่ามีเหตุผลหรือไม่มีเหตุผล</O:p
    <O:p
    ในเมื่อกล้าตอบก็ดีแล้วครับ จะได้มีการถกกันด้วยเหตุผล

    ข้อแรก, มีพุทธพจน์รองรับไว้ครับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนเกิดแต่เหตุ(เป็นธรรมดา)

    ข้อสอง, เป็นไปไม่ได้หรอกนะครับที่จะดับเอง
    ถ้ามันดับเองได้โดยไม่ต้องทำอะไร
    คนชั่วร้าย โจรผู้ร้ายคงไม่มีในโลกนี้แล้วหละครับ
    มีพุทธพจน์รองรับไว้เช่นกันนะครับว่า
     
  9. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เล่าอะไรให้ฟัง เวลาดูความอยาก เมื่อกระทบความอยากมันเกิดขึ้น เราก็ร้อนจากความอยาก เมื่อดูไปอีกก็ว่าห้ามมันไม่ได้ มันมาจากความพอใจ ที่นี้จะละความพอใจไม่ได้มันก็ร้อน มันก็ไม่พอใจขึ้นมาอีก

    ลองมาตรองดู เรานี่คิดปรุงแต่งล่วงหน้านี่หว่า ทั้งที่มั่นใจว่าเป็นราก แต่แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่มันปรุงนี่

    จึงมานั่งนึกวิปัสสนานี่ ต้องใช้กำลังมากจริงหนอ แม้เคยได้ถึงปล่อยวาง จะทำอีกมันก็ไม่ง่าย ต้องเพียรล้วน ๆ

    ผมนี่ช่างประมาทในธรรมเสียจริง ยิ่งถ้าอ่านสูตรบางสูตรนะ ไหลไปแบบไม่รู้ตัว ทำให้เนิ่นช้าเสียอีก สงสัยอ่านมากไป ^-^
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อนุโมทนา สาธุ เจ้าค่ะ

    ไม่ได้มาเชียร์ แต่ชอบ และยินดี (มาก) ที่ได้ฟัง อีกตะหาก
    นั่งนึกวิปัสสนานี่ ต้องใช้กำลังมากจริงหนอ แต่ขอบอก ทำอย่างง่ายๆนี่ ท่าจะยากนะ เพราะลืมกัน...ไปแล้ว ^.^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2009
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อนุโมทนา เจ้าค่ะ

    อ่านรู้เรื่องดีนะ ได้ความเข้าใจมากขึ้น
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เรา ไม่พัก ไม่เพียร ไม่ทำ ไม่เพ่ง ไม่แทรกแซง นี่ล่ะ ของยากสุดๆ

    ทำกันไม่ค่อยเป็น เป็นแต่หาเรื่องทำ ^.^
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เห็นแล้ว ครับ คำตอบปัญญาอ่อน

    ข้อที่ 2 ที่ผมตอบว่า ไม่ต้องมีวิธีดับ มันก็ต้องดับเอง ก็ถามว่า คุณต้องไปสรรหาวิธีตายไหม
    ไม่ต้องสรรหามันก็ต้องตาย จริงไหม ถ้าสัจธรรมครอบลงข้อนี้ไม่ได้ ก็ไม่ใช่สัจธรรม

    พระพุทธองค์ ไม่ได้สอนวิธีดับ แต่สอนให้เข้าใจและหนทางในการก้าวไปเพื่อดับเหตุ ว่าเหตุมันมาจากอะไร สุดท้ายแล้ว มหาเหตุ คือ ความไม่รู้ ไม่ใช่ว่าจะต้องไปดับความไม่รู้ แต่ให้รู้เท่านั้น

    ข้อนี้ ธรรมภูติ พลาดเสียแล้ว ไปทบทวนใหม่ให้เข้าใจมากกว่านี้

    ย้อนกลับมาข้อแรก สรรพสิ่งนั้นมีเหตุ ข้อนี้ผมก็บอกไปแล้ว ว่าต้องมีเหตุปัจจัย

    ข้อสุดท้าย ที่ว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นอนัตตา ตอบว่า ใช่แล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นอนัตตา ด้วยเหตุผลข้อที่ว่า สัพเพธัมมา อนัตตา
    พระพุทธ ก็อนัตตา เพราะว่า พระพุทธก็ปรินิพพานไปแล้ว
    พระธรรม เป็นอนัตตา ก็เพราะว่า ไม่มีเป็นตัวเป็นตน พุทธบาลีก็บอกแล้วว่า สัพเพธัมมา อนัตตา
    พระสงฆ์ ก็เป็นอนัตตา ก็เพราะว่า พระสงฆ์ ก็ต้องตาย

    ส่วนข้อที่ว่า แล้วจะหาหลักยึดที่ไหน ตอบว่า หลักยึดอยู่ที่ใจเราที่เข้าถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น สรณะ ก็ที่ใจเรานั้นแหละ แต่เราจะมาถือ ไว้ตลอดได้หรือ หลักธรรมใดๆ ปรากฎได้ แต่ไม่ใช่ยึด ตามพุทธพจน์คือ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

    ข้อนี้ ก็ควรจะยุติ ได้นะ ธรรมภูติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2009
  14. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    ....
    กำลังพูด ถึงผมปะนี่.. ทำไมไม่อ้างอิ้งมาว่า คุยถึงโพสท์ไหนอยู่ ... จะได้รู้ว่า คุณ คิดเอง หรือมีที่มาที่ไป อย่างไร
    .....
     
  15. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    เพิ่งกลับมาจาก..ไปถือศีล8 มา 3วัน.
    ...เอาบุญมาฝากทุกท่าน คับ

    <label for="rb_iconid_33">[​IMG]</label>
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ จิตใจที่อบรมด้วยศีล จะเป็นทางให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อนุโมทนาด้วยครับ..
     
  18. ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก"

    ๐นัท๐"เอหิปัสสิโก" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +21
    ...
    สาธุคับ
    ทำไม?ยอมรับว่ามั่ว..ซะแล้วละคับ ไม่สนุกเลย...อิอิ
    ผมจะให้คุณไปเอากระทู้ที่ผมโพสท์มาอ่ะคับ..ผมยังคุยกับใครอยู่คือผมยังมีเมตตากับผู้นั้น...
    ไม่เป็นไรผมไปเอามาให้เองก็ได้คับ
    ...หลักฐาน...
    และนี่คือ ข้อความที่คุณโพสท์..
    อ่านทบทวนดูนะคับ ผมบอกเมื่อไหร่ว่ากามราคะไม่เกิด
    และคุณเปรียบเทียบดูนะคับ..ผมดูผิดตัวตรงไหน ก็ผมบอกอยู่ว่าเห็นมันเกิดและดับ..ชัดเจนไวมาก


    การพิจารณาแบบผมอ่ะเป็นเรื่องของฆาราสคับ ไม่ใช่พระวินัย และ สงฆ์จะมาพิจารณาแบบผมไม่ได้...เพราะเป็นการตามรู้ ตั้งแต่เกิด จนมันดับไปคาตา..
    พระสงฆ์ มาพิจารณาแบบผม ก็ปราชิกสิคับ 55555

    การพิจารณาของผิดผิดจากคำสอนหลวงพ่อตรงไหนคับ..(ผมไม่เรียกท่านว่า "พระ" นะฟังแล้วไม่รู้สัมมาคารวะเลย...เฮ้อบัญญัติทางภาษา ยังใช้ไม่ถูกเลย ฟังแล้วขัดหู เหมือนเรียก ครูบาอาจารย์โดยเรียก ชื่อท่านเฉยๆ...คุณอาจจะว่าผมปรุ่งแต่งไปเองก็ได้ ตามสะดวก)
    ก็ดูความมั่วของคุณเอาแล้วกันนะคับ...อ่านแล้วใช้
    สุตตมยปัญญาพิจารณาเอาคับ...ปัญญาต้องพิจารณาให้เกิดเองนะคับ ไม่มีใครเอาปัญญาไปยัดใส่ให้ใครได้...
    ผมยังคุยกับคุณก็คือยังมีเมตตาอยู่ ...เลิกคุยด้วยก็จบกัน...
    ขอบคุณนะคับที่ยังห่วงในกุศลจิต ของผม..

    ผู้ปฏิบัติธรรม นี่ไม่รู้จัก บุญที่ว่าด้วยการอนุโมทนาเหรอคับ...

    สาธุขอให้เจริญในธรรม นะคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2009
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อนุโมทนา ค่ะ
     
  20. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    จะตามอ่านไหวไหมเนี่ย หุๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...