เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับพอเช้าก็เลยไม่รู้ทำอะไรเลยออกไปวิ้งแล้วก็เลยไปหาอาจารย์

มีคนมาหาอาจารย์เยอะมากเลยไม่ได้คุยว่าจะกลับอยู่แล้วก็พอดี อาเจไดมาก็เลยมีผู้ร่วม

สนทนาด้วยเลยคุยกันยาวเลยส่วนมากเป็นเรื่องที่คุยกับคนอื่นไม่ได้เพราะคนอื่นไม่เห็น

คนที่นั่งฟังเดี๋ยวเค้าจะหาว่าบ้า ตอนเเรกก็นั่งดูพระเครื่องที่อาเจไดเอามา(ด้วยความอิจฉา)

โดยปรกติคนที่มีตาที่สามหรือตาทิพย์เวลามองพระแค่มองก็รู้ว่าแท้ไม่แท้ จึงได้เปรียบกว่า

คนปรกติอยู่แล้ว ยิ้งถ้าเป็นอาเจไดอีก 5-5-5 ผมก็ได้แต่นั่งดูน้ำลายไหลไปเพราะเป็นพระ

ชุดที่ผมยังไม่มีคือหลวงปูทิม อาเอามา 5-6 องค์ก็นั่งดูแล้วก็ถามตามภาษาว่าอาเอามา

เท่าไร ยิ่งรู้ราคายิ่งเครียด ถูกจริงจริง หลังจากเช็ดน้ำลายเสร็จก็เลยคุยถึงบรรดาญาติธรรม

ก็คือพี่ๆเพื่อนๆที่รู้จัก ต้องเซ็นเซอร์หน่อยคือเล่าไม่ได้เพราะเดี๋ยวเจ้าตัวจะเสียหาย 5-5-5

รู้แต่ ตอนนี้ พญาขุนแผมมาจุดติแล้ว 5-5-5 สับขาหลอกให้ทัน...เดอ

 

^____^

 

เพื่อนๆ พี่ๆ คุรุทั้งหลายครับ
ลองมองภาพพระทางด้านซ้ายของผม
แล้วรู้สึกถึงพลังงาน อย่างไรบ้างครับ

ขอทุกท่านเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม สาธุ

 

ใครคือพญาขุนแผนน้าพี่ น่าอิจฉาตายเลยคับ
ได้เป็นคนมีบุญขนาดนั้นกลับชาติมาเกิด คงดีมากๆเลย

 

เต๊ะจุ๊ยเอ๊ยยย มีแฟนเยอะใครว่าดี ยิ่งคนที่ต้องเข้าหานิพพาน ยิ่งยุ่งยาก
เฉพาะคนธรรมดา แรกๆมันก็สุขดีหรอก แต่คนเก่าๆดันเคลียไม่จบ มันก็พันๆไป
พาลให้ผิดศิลกาเม มุสา เอาไปเอาปัจจัย5 เงินไม่พอ ต้องลักทรัพย์ อย่างผอ.
ที่ปั๊มแบงค์ปลอม เพราะเมียมาก แล้วกฏหมายสมัยนี้ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับมือที่สามแล้วด้วย
โดนทำโทษทั้งโลกนี้ โลกหน้า ไม่ต้องไปอิจฉาเขาหรอก

แต่พญาขุนแผนที่ว่า สงสัยจาเป็นท่านพี่ผู้ที่มีแม่นางตานีคอยกันท่าให้ หุๆ

 

เรื่องผู้หญิงไม่อิจฉาเท่าไหร่หรอกครับ อิอิ
แต่อิจฉาเรื่องความสามารถเก่าๆที่เค้ามีซะมากกว่า กลับมาจุติใหม่คงแจ่มเลยอ่ะฮับ

 

พบ วิญญาณ ลุง ฟ้อน เจ้าของบ้านคนแรก

หลังจากที่ห้องบันทึกเสียงสร้างเสร็จก็เริ่มงาน
ทำเพลงจำพวกอินดี้บ้าง สตริงบ้าง
ก็ตามแต่ท้องตลาดต้องการ
ในแต่ล่ะวันผมก็จะนอนดึกมาก ประมาณ ตี 2 บ้าง
ตีสามบ้าง ห้องนอนผมอยู่ชั้น สอง ครับ


.......ตรง บริเวรชั้น 2 นี้ จะเป็นที่ว่าง ๆ
ซึ่งผมได้ทำเป็นที่บูชาพระ และติดหิ้งพระไว้ตรงนี้ครับ
คือกราบพระแล้วก็เข้านอน ทุกคืนที่ผมเดินขึ้นบันได
จะมาเข้าห้องนอนนั้น ผมได้มองไปทางด้านขวาของผม
ซึ่งเป็นบริเวรห้องพระ ผมก็เห็นชายคนหนึ่ง
อายุราว ๆ 60 ปี ผิวดำแดง สูงราว 155 cm
ผมขาวสีดอกเลา ตัดสั้นเกรียน ไม่ใส่เสื้อ ใ
่ส่กางเกงขาก้วย ยืนสบายใจดูผมกราบพระ


ผมจะเห็นทุกคืนก่อนนอนครับ ทีแรก ผมก็ทักแกไปว่า
ลุง มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ แกก็ไม่ตอบผมครับ
หลัีง ๆ มา ผมก็เลยไม่ทักแก แต่ช่วงหลังจากนั้นมานี่
แกเล่นยืนอยู่ตรงนั้นทั้งกลางวัน และกลางคืนเลยครับ
ผมก็เลยสงสัยขึ้นมากครับ ว่าลูงแกเป็นใคร
ผมก็เลยไปถามป้าเล็กคนข้างบ้านผมเองว่า
ลุงคนที่มีลักษณะดังกล่าว เป็นใคร


.........ป้าเล็กท่านก็ตอบมาว่า .
.......อ้อ ก็ลุงฟ้อนไงล่ะ แกเป็นเจ้าของบ้านคนแรกเลยน่ะ
เป็นตำรวจ แต่แกตายมา 20 กว่าปีแล้วน่ะ
แล้วรู้จักแกได้ยังไงล่ะ.......ผมก็ไม่กล้าตอบป้าเล็กท่าน
หรอกครับว่าเห็นทุกวัน ก็ได้แต่ยิ้มแล้วเดินจากไป .
..และในคืนนั้นจึงได้ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลใ
ห้ลุงได้โมธนาครับ ..............


...แล้วหลังจากวันนั้น ผมก็ไม่เห็นลุงฟ้อนอีกเลยครับ
นี่ล่ะครับท่านผู้อ่าน หากเรายังยึดติดกับสมบัติที่เราคิด
ว่ามันเป็นของเรา จิตของเรา ก็ยังจะต้องเกาะติดอยู่ตรง
นั้นอีกนาน วางได้ก็วาง ปลงได้ก็ปลงครับ
ผมก็พยายามอยู่เหมือนกันครับ;aa36
​

 

อาทิตย์ก่อนที่ไปอยุธยา ได้ถ่ายภาพ พระมหาเถรคันฉ่องในอุโบสถ วัดกษัตราธิราชไว้ด้วย ท่านเป็นฉากหลังที่สำคัญองค์หนึ่งแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
หากไม่มีท่าน จะไม่มีพระองค์ผู้มากู้ชาติไทยได้

ขอน้อมถวายกุศล

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

มหาเถระคันฉ่อง พระอาจารย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->


ตามรอยสมเด็จพระพนรัต พระสังฆราชอรัญวาสี (มหาเถระคันฉ่อง) พระอาจารย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เพื่อเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณ สมเด็จพระอริยวงศาญาณ ปริยัติวราสังฆราชาธิปดี ศรีสมณุตมาปรินายก ติปิฎธรจารย์สฤษดิ์ ขัตติยสารสุนทร มหาคณฤศรอุตรวาม คณะสังฆรารามคามวาสี
ขออนุญาตคัดลอกบทบันทึกเกี่ยวกับที่มาของภาพสมเด็จพระพนรัต พระสังฆราชอรัญวาสี (มหาเถระคันฉ่อง) พระอาจารย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยพระพีระ จิตตวีโร สำนักสงฆ์วัดป่าแก้ว บ้านป่าโหล

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>xanadu, เต๊ะจุ๊ย, CHAYA MARUTY, mhutom, visnu </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
<!-- popup menu contents -->Good Night Thailand, Good Morning America.
Thank you all for posting the 'Bedtime Story'
See you tomorrow.

 

สาธุ....ขออนุโมทนาบุญกับพี่ชยา และพี่โอมที่ได้เผยแพร่สิ่งที่มีประโยชน์มหาศาล นะคะ...สาธุ...

 

^^

 

Good Morning ครับ....

 

เยื่ยมวิมาน พระภูมิเจ้าที่ ปู่ชัยมงคล

บ้านที่ผมมาเช่าอยู่นี่ เป็นบ้านค่อนข้างเก่าแต่
สะอาดสะอ้านมาก ทาสีใหม่เอียม ทำให้เรารู้ว่าเจ้าของบ้าน
เอาใจใส่บ้านอยู่เสมอ เจ้าของบ้านชื่อพี่เอื้อมครับ
พี่เอื้อมเป็จคนใจดีมาก พูดจาไพเราะแถมยังสวย
ทั้งที่อาุยุก็เลยหลัก 4


..ในวันที่ทำสัญญาเช่าบ้าน พี่เอื้อมได้กำชับผมข้อหนึ่งคือ
บริเวรศาลพระภูมิเจ้าที่หน้าบ้านนี้
ต้องทำความสะอาดให้ทุกวัน น้ำท่าอย่าได้ขาด
ผมก็รับปากพี่เค้า


และเมื่อถึงวันพระใหญ่ ผมก็แปลกใจมากครับ
ที่ พี่เอื้อมและครอบครับ ขับรถมาที่บ้านเช่า
และขนเครื่องบวงสรวงสังเวย ดอกไม้ธูปเทียน หัวหมู
ไก่เป็ด และพานบายสีครบชุดมา บวงสรวงศาลพระภูมิที่นี่
เอ .......แล้วที่บ้านใหม่ของพี่แกไม่มีศาลรึไงนี่ ต้องมาที่นี่เชียว
ก็ได้แต่สงสัยครับ


....แต่พี่เอื้อมเองนั้นล่ะครับ ที่เล่าให้ผมฟังว่า
พี่เอื้อมเคยขอให้ปู่ชัยมงคลช่วยเรื่องงาน
เรื่องเงิน และหลาย ๆ เรื่องปรากฏว่าผ่านไปด้วยดี
และเคยถูกล๊อดเตอรี่รางวัล ใหญ่ด้วยน่ะครับ
ครอบครัวนี้่จึงมีความเคารพปู่ชัยมงคลมาก..........

.
...........และยังบอกผมว่า ให้ผมทำตามบ้าง จะได้โชคดี
ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะทำครับ แต่ว่าจะเป็นการถวายสังฆทานให้ครับ



.........พอถึงเสาร์แรกของต้นเดือนผม
ก็จะต้องไปถวายสังฆทานที่ซอยสายลมตามปกติ
ซึ่งทำมาตลอด และวันนี้ก็ทำตามปกติ พอถึงบ้านสายลม
ก็แลกบัตรเข้าไปรับเครื่องสังฆทานและพระพุทธรููป
และได้ไปนั่งอยู่ต่อหน้าพระพุทธรูปที่เป็นพระประทานเพือ
อธิฐานจิต

.............ผมก็อธิฐานจิตอุทิศส่วนกุศลทั้งหมดให้
ท่านปู่ชัยมงคลครับ และในขณะที่อธิฐานเสร็จผมก็
นึกถึงศาลพระภูมิที่บ้าน พอเห็นภาพ สักครู่ผม
ก็ส่งจิตออกไป ปรากฏว่า ผมรู้สึกตัวอีกที
ก็รู้ตัวว่าตัวเองยืนอยู่ในวิมานของใครสักคน
มองไปข้างหน้าก็เห็นเป็นที่ประทับ ของเทวดาท่านหนึ่ง
แต่งกายงดงามมีชฎาใส่ด้วยครับ
ร่างกายเป็นประกายแพรวพราว นั่งยิ้มอยู่บนแท่นประทับ
ด้านข้าง ๆ สองข้างก็เป็นแท่นที่ประทับนั่งของเหล่านางฟ้า
มีกันหลายองค์ครับ แต่งกายสวยงามกันมาก
วิมานเองก็สวยงามเป็นแก้วครับ


............เมือเห็นเช่นนั้น ผมก็รู้ทันทีว่า เราได้มาอยู่บนวิมานของปู่ชัยมงคล
เทวดาท่านนี้ก็คือท่านปู่ชัยมงคล ที่เราได้ทำสังฆทาน
ให้ท่านอยู่นั้นเอง ก็ได้ก้มลงกราบท่าน พอกราบเสร็จ
ท่านก็ยิ้ม แล้วผมก็จึงคลายจิตออกมาตามเดิม
แล้วก็เดินไปถวายสังฆทาน กับหลวงพี่อนันต์ ....



...........อาการจิตออกจากร่างไปที่โน่นที่นี่
ผมเป็นบ่อยมากครับ แต่ต้องมีการตั้งจิต แต่อยู่ ๆ จะหลุด
ไปเลยนี่ไม่เคย ถ้าต้องการไปที่ไหนก็อธิฐานจิตไปเลย
นั้นเป็นสมัยก่อนน่ะครับ แต่ตอนนี้ ไม่ค่อยอยากไปไหน
ก็ดูแต่จิตตนเองระมัดระวังกิเลศอยู่ สุ้ได้มั่งไม่ได้มั่ง
ก็ตามแต่วาสนา ก็พยายามสุดความสามารถครับ
.........ที่เล่ามานี่ มิได้หวังอดอ้างตนเองว่าเก่งแต่อย่างใดครับ .
.ถ้าใครปฎิบัติมาก ๆ ก็ทำได้อยู่แล้ว คนที่อ่านกระทู้มี
ก็มีคนทำได้หลายคน คนเขียนก็ทำได้หลายครับ
แต่เค้าไม่ค่อยอยากจะเล่าเหมือนผมครับ
เพียงแต่อยากเล่าให้เป็นกำลังใจสำหรับผู้เริ่มปฎิบัติครับ
และเพื่อเป็นการยืนยันว่า สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน
นั้นเป็นความจริงครับ;aa36
​

 

พระพุทธคุณ

อขอนุญาตเล่าเรื่องที่ได้ประสบมา ทำให้ได้รู้ถึงอำนาจพุทธคุณค่ะ

แม่ของบี เคยทำแท้งเนื่องจากท้องตอนแก่ และสุขภาพไม่อำนวย แต่ท่านเสียใจมาก และตั้งแต่ทำ ก็ไม่สบายบ่อยมาก และมีอาการแปลกๆ ปวดหัวอย่างหนัก เป็นต้น จึงไปรดน้ำมนต์ที่สำนักทรงเจ้าแห่งหนึ่ง สำนักนั้นก็ทักว่า เพราะไปทำร้ายเด็ก เขาจึงอาฆาตและเป็นกรรมหนัก ไม่มีทางแก้ไขนอกจากขออโหสิกรรมไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะอภัยให้

แม่ก็ยิ่งทุกข์หนักกว่าเดิม พอดีบีเองมีพี่คนหนึ่งแนะนำให้บีสวดบทพระจักรพรรดิ ในนั้นจะประกอบไปด้วยการอัญเชิญภพภูมิต่างๆมาร่วมสวดและอนุโมทนา ไม่ได้เป็นบทไล่ผีแต่อย่างใด ตัวบีเองสวดบ่อย และรู้สึกว่าจากที่เรามีปัญหาจุกจิกมากมาย ก็เริ่มดีขึ้น บางเรื่องจบไปอย่างง่ายๆ

จึงได้แนะนำให้แม่ลองสวดดู และส่งพระผงจักรพรรดิไปให้ 2 องค์ (เผื่อพ่อด้วย) พร้อมบทสวดมนต์และแผ่บุญ ซึ่งเป็นการรวมกำลังบุญของพระรัตนไตรแผ่ออกไป ไม่ได้ใช้บุญของเราเอง แน่นอนว่าจะมหาศาลแค่ไหน

ก็กำชับให้สวดทุกวัน 20.30 น. พร้อมกันทั่วประเทศ ตอนนั้นแม่จิตตก ให้ทำอะไรก็ทำ ดีที่ไม่ถูกหลอกให้ทำอะไรแย่ๆ แล้วก็ให้ชวนพ่อสวดให้ได้ คือพ่อของบีท่านจะไม่ค่อยธรรมธัมโมเท่าไหร่ แต่โชคดีที่คราวนี้ยอมจนได้(ยอมแค่ 2 วัน)

แม่สวดครบ 1 อาทิตย์ พ่อก็เล่าให้แม่ฟังว่า พ่อฝันนะ ฝันเห็นว่ามีคนแก่ๆ เหมือนคนจีนคนหนึ่งเดินมาบอกท่านยิ้มๆว่า ลูกไปเกิดแล้วนะ ไม่ต้องห่วงแล้ว แล้วก็เดินกลับไป แม่ก็ เออ..ใช่ ตั้งแต่สวดมานี่ อาการปวดหัวหนักๆ หายไปเลย มหัศจรรย์จริงๆ ตั้งแต่นั้นมา พ่อบีเลยยอมให้แม่ทำบุญมากขึ้น และยอมทำบุญบ้าง (แบบเต็มใจ)

นี่แหละคืออำนาจแห่งพุทธคุณ

หวังว่าเริ่มที่เล่าจะพอมีประโยชน์นะคะ ^^

 

คุณบีครับ
ยินดีด้วยครับ อธิษฐานได้ผล

 

อนุโมทนาครับพี่บี
ได้อ่านแล้ว รู้สึกว่าต้องสวดตามสูตรบ้างแล้ววว

 

อ่านเรื่องคุณชยาแล้วซึ้งดีครับ มันอินๆ อย่างไรไม่รู้ครับ

ขอบคุณเจ้าของเรื่องทุกท่านครับ

 

ขอติดตามด้วยคนครับ

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ ตอนที่ 11
ผู้มีพลังจิต
...................................................................
ชมรมคนตาทิพย์..ได้ ก่อตั้ง มาแล้วประมาณ5 ปี
มีสมาชิก ชมรมที่ มีพลังจิต จากรายชื่อ 635 คน
เคยได้ สำรวจ พลังจิต ของ สมาชิก
พบว่า จะอยู่ระหว่าง 90 เมตร ถึง มากกว่า 400 เมตร
...................................................................
เมื่อมีชมรม..เราจึงต้องมีการฝึกเพิ่มพลังจิต
เราจึงได้มีการจัด งาน ที่เรียกว่า "มินิมหกรรมพลังจิต"
ที่ ศูนย์ปฏิบัติธรรมโลกทิพย์ ซอย รัชดาภิเษก 3
จัดได้ 5 ครั้ง...มีผู้มาสนใจและร่วมกิจกรรมมากมาย
..........................................................
ในการจัด เรา จะเลือก บุคคลที่พิเศษ มีพลัง มากกว่า 200 เมตรขึ้นไป
และมีความสามารถ พิเศษ เฉพาะตัว
บางคนเด่นทางตรวจพลังพระเครื่อง
บางคนเด่น ในการอ่านจิต และ สัมผัส
บางคนเด่นในการตรวจกายเพื่อ ไล่ พลังแฝง (ผี) ออก
บางคนเก่งในการใช้พลัง รักษา โรคได้ อย่างเด็ด ขาด
.............................................................
จากสมาชิก ที่ มากกว่า 600 คน
จะมีคนที่มีพลัง พิเศษ สุดยอด จริงๆๆ ประมาณ 20 คน
จึงได้ เชิญให้มาเป็น คุรุ..หรือ ผู้ ควบคุมและ สอน
เรื่องพลังจิต ในกิจกรรม จัด"มินิมหกรรมพลัง จิต " ทั้ง 5 ครั้ง
สมาชิก หลายท่านที่ได้ ผ่าน กิจกรรมมา
จะรู้จักดี ว่า มี ใครบ้าง..ที่เป็น คุรุ
......................................................................

 

บรรดาคุรุ ที่ได้ ร่วมกิจกรรม..จะทยอยมาเป็น รุ่นๆๆ ตามลำดับ
รุ่นบุกเบิก ที่เด่นในยุคแรก มี พี่เม้าท์ หรือ Mountain
ชยา มารุติ / one of Jedi / กาหลิบ / แอนน์ / ปานโสม..ฯลฯ
การปรากฏตัว ของ แต่ละ คุรุ ล้วนมีที่ มา แตกต่างกันไป
ตามจังหวะ และ ความเด่น พลัง เฉพาะตัวที่ ต่างกันไป
........................................................................
จะลองเล่าเรื่อง ของ คุรุ ที่ มีที่มา และ เรื่อง แปลกๆๆ ให้ ฟัง สักคน
เอา ชยา มารุติ Chaya Maruti... คนที่กำลัง มัน ในการเล่า เรื่อง
แปลกๆๆให้ ฟัง..เป็นพระเอก ในตอนนี้..ก็แล้วกัน
เขาเป็น กลุ่ม คุรุ ร่นแรก ที่ ได้ ก่อ ตั้ง ชมรม คนตาทิพย์
......................................................................
จำได้ ว่า ในบ่าย วันหนึ่ง
มีชายหนุ่ม คนหนึ่ง เดินมา ด้อมๆๆมองๆๆ ใกล้ ที่ ตั้ง บู๊ธ ชมรม
เป็นหนุ่มหน้า ตาดี..แต่งตัว ประหลาด จัดอยู่ในกลุ่ม เล่น เพลง "แรป"
และรู้ในภายหลัง เขาเป็น นัก แต่ง เพลง ของ ค่าย อาร์ เอส
.........................................................................
เขามาเดินๆๆมองๆๆ ถามหา ที่ ตั้ง ชมรม
และตามหา หัวหน้า ชมรม ที่ ชื่อ อ. สามตา
ผมก็ มอง..อ้อ คนนี้มีพลังสูง..มาถามหาเรา
ต้องแสดง หน่อย ให้ ประจักษ์
ก็บอกให้เขา ยกมือ ทั้งสอง ขึ้น แบบจำนน กับปืนขู่ในหนังฝรั่ง
พอได้ อาจารย์ท่า ก็ส่งพลัง พลัก ออก ไป..
เขาโดนกระแทกพลัง เซ เอียงออกไป..มีอาการงงๆๆ
เป็นการบอกว่า อาจารย์ ที่กำลัง ตามหา นั้น..อยู่ ตรงนี้
.................................................................