ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วิสัยของท่านผู้ที่จะได้บรรลุธรรม
    โดยคุณ คณานันท์ ทวีโภค

    [​IMG]

    พระท่านเมตตามาสอนว่า

    "วิสัย ของของท่านผู้บรรลุแบบ สุขวิปัสโกนั้น ท่านต้อง ได้ฌานสี่ในอานาปานสติกรรมฐาน

    วิสัยของ ท่านที่ได้วิชชาสาม ต้องได้ ฌานสี่ใน กสิณ กองใดกองหนึ่ง เป็นอย่างต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กสิณกองที่หนุนนำในการเกิดทิพยจักษุญาณ อาทิ อโลกกสิณหรือกสิณ แสงสว่างก็ดี เตโชกสิณกสิณไฟก็ดี หรือ อาโปกสิณกสิณน้ำก็ดี จึงเป็นปัจจัยให้ท่านได้ ทิพยจักษุญาณได้

    วิสัยของท่านที่ได้ วิชชาหก ฉฬภิญโญ นั้น ท่านแสดงอิทธิวิธีได้ จึงต้องได้กสิณครบทั้งสิบกอง รวมทั้งควรได้ กรรมฐาน 40 กองครบหมดด้วย

    วิสัยของท่านที่ได้ ปฏิสัมภิทาญาณ นั้น ท่านต้องได้คลุมไปจนถึงสมาบัติแปด หรืออรูปฌาน อรูปสมาบัติ กรรมฐานสี่สิบกองมีความคล่องตัว ไล่ฌาน ตามลำดับอนุโลมปฏิโลมมีความคล่องตัว ไล่ความละเอียดของอารมณ์สมาธิได้อย่างคล่องตัว เมื่อความคล่องตัวในปรจิตมีสูง เจโตปริยญาณก็ย่อมมีความคล่องตัวรวดเร็วไปด้วย เช่นกัน

    ส่วนพุทธภูมินั้น กลับต้อง ครอบคลุมในวิสัย จริต ภูมิจิต ภูมิธรรมให้ยิ่งขึ้นไปอีก กรรมฐานสี่สิบกอง ต้องคล่องตัว ทั่วไป ที่ท่านทำกัน จบแต่ละกองที่ญาณสี่ หากเป็นวิสัยพุทธภูมิ ต้องให้ได้ไล่ขึ้นไปอีก จนถึง สมาบัติแปดเพื่อครอบคลุมวิสัยของ สุขวิปัสโก และไล่ขึ้นไปจบในอารมณ์วิปัสนาญาณ จนถึงอารมณ์พระนิพพานในแต่ละกอง ทั้งสี่สิบกองต้องครบให้หมด

    อารมณ์ในการปฏิบัติ ในกรรมฐานกองนี้ อารมณ์จิตเป็นอย่างไร ต้องรู้ ต้องทราบ ต้องจดจำอารมณ์กรรมฐาน โดยเป็นการรู้รำลึกปรากฏขึ้นจากผลแห่งการปฏิบัติอันเป็นปัตจัตตัง เวลา สอนเวลาสงเคราะห์ในธรรมแก่ท่านผู้อื่นจึงจะ แจงได้อย่างแจ่มแจ้ง เกิดผลในการสงเคราะห์ให้เกิดความก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง

    แต่กระนั้นไม่ว่า วิสัยใดก็ตาม อารมณ์ในวิปัสนาญาณก็ย่อมไม่ต่างกันในข้อที่เมื่อถึงที่สุดแล้ว วิมุติญาณทัศนะ เห็นความสิ้นไปในกองกิเลศทั้งปวงก็ย่อมไม่ต่างกัน และถึงที่สุดแห่งความสิ้นทุกข์คือพระนิพพาน เช่นเดียวกัน

    ความรู้ ของโลกียบุคคล ก็มีในระดับ ความรู้ทั่วไปทางโลกเป็นพื้น วิชาความรู้เหล่านี้ เมื่อตายจากอันตภาพนี้ไป ก็มีความสลายไปเป็นสัญญาอนิจจา เกิดใหม่ก็เรียนรู้ใหม่ไปไม่มีที่สิ้นสุด

    วิชาความรู้ในระดับสูงขึ้นมา ก็เกิดขึ้น จากการเพาะบ่มศึกษา ฟังมาก อ่านมาก จินตนาการมาก ถามมากเพื่อความแตกฉาน บันทึกจดจำเอาไว้มาก เรียกว่า "พหูสูตร" ด้วยคุณธรรมที่มีหัวใจว่า "สุ จิ ปุ ลิ"

    สุตตะ การสดับฟัง
    จิตตะ การตั้งจิตพิจารณาจินตภาพ
    ปุจฉา การซักถามข้อสงสัยเพื่อให้เกิดคำตอบเพิ่มเสริมความรู้ความคิด
    ลิลิต การบันทึก จดจำ การทำความเข้าใจ

    ผู้นับว่าเป็น "พหูสูตร" นั้นจัดเป็นปราชญ์เป็น ผู้รอบรู้ในสรรพวิชาทั้งปวง ที่เป็นความรู้ละเอียดปราณีตสุขุมขึ้นอีก เกิดจาก ความรู้จากภายใน อันเกิดขึ้น จาก "ญานทัศนะ" หรือ"ตัวรู้" ด้วยกำลังของสมาธินั่นเอง

    ญาณเครื่องรู้ นั้น หากเป็นของท่านผู้ได้ โลกียะฌาน ก็มีเครื่องรู้ในระดับหนึ่ง มีถูกบ้าง ผิดบ้าง และยังอาจเจือไปด้วย กิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไปตามสภาวะจิต สภาวะกรรมพาไป

    ท่านที่ ได้ถึงความเป็นพระอริยะผลขั้นใดขั้นหนึ่ง ความรู้ จากญาณทัศนะของท่านมีความละเอียดปราณีต ลุ่มลึกกว่ามาก และที่สำคัญก็คือเป็น "วิสุทธิปัญญา"

    ปัญญาที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นก็ดี

    ปัญญาที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมก็ดี

    ต่างจากความรู้หรือ ปัญญาทางโลก ซึ่งหากเจือไปด้วย ความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็จะมีความเสื่อม ความเสียหายเป็นที่ตั้ง

    อันที่จริงเราสามารถใช้ปัญญาจากสมาธิ ใช้กำลังจากญาณทัศนะมาสร้างความรู้ได้ แต่ขอให้ตั้งกำลังใจ เพื่อส่วนรวมเป็นสำคัญ ตั้งกำลังใจว่า จะนำวิชาความรู้เหล่านั้น มาใช้ ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ก็ดี ช่วยให้บุคคลทั้งหลายบรรเทาเบาบาง จากความทุกข์ลงไม่มากก็น้อยก็ดี เพื่อทำให้ผู้อื่นได้เข้าถึงซึ่งความดีก็ดี เมื่อนั้นความรู้ต่างๆที่ได้มาจากสมาธิก็จะเกิด คุณประโยชน์สูงสุด

    ส่วนความรู้หรือวิชชาที่สูงยิ่งขึ้นไปกว่านั้น อันได้แก่

    วิชชาสาม ได้ทิพยจักษุญาณ

    อภิญญาหก ได้ความเป็นทิพย์ของจิต และแสดง ฤทธิ์ด้วยอิทธิวิธีได้

    ปฏิสัมภิทาญาณ มีความรู้จากความเป็นทิพย์และบริสุทธิ์ของจิตจากกำลังของสมาบัติแปด วิมุติธรรม แสดงฤทธิ์ได้ รู้ภาษาทุกภาษา เนื่องจากข้ามไป รู้เนื่องด้วยจิต ทั้งคนและสัตว์ในทุกภพ ทุกมิติ

    ทรงความคล่องในการแสดงธรรม อธิบายธรรมที่ง่ายให้ละเอียดลึกซึ้ง พิศดาร อธิบายธรรมที่ยากพิศดาร ให้กลับง่ายดายกระจ่างใจ ตรงวาระจิตของผู้ฟังธรรม

    ทรงพระไตรปิฏก ทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ได้กระจ่างแม้ไม่เคยได้ศึกษามาก่อน ทรงปัญญายิ่ง ทั้งในปฏิภาน ไหวพริบ และที่ยิ่งเลิศในสรรพวิชาทั้งปวง ความรู้อื่นใดยิ่งไปกว่านั้นหาไม่ได้อีกแล้ว นั่นก็ คือ

    "สัพพรรญูญาณ" ขององค์สมเด้จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขึ้นชื่อว่าความไม่รู้ แม้เพียงแต่น้อยก็ไม่มีสำหรับพระองค์ ความรู้ในธรรมนั้น เป็นที่ปรากฏชัดเจน

    ความรู้ในทางโลกนั้น ขึ้นชื่อว่าวิชา ในทั้งในโลกนี้ก็ดี ทั่วอนันตจักรวาลก็ดี ทุกมิติ ทุกภพภูมิก็ดี ไม่พ้นจาก สัพพรรญูญานทัศนะวิสัย ของพระพุทธองค์ไปได้

    เมื่อวาระที่พระพุทธองค์ท่านจะทรงโปรดผู้ใดแล้ว ท่านเล็งญาณทัศนะ ไปถึงอดีตชาติ กรรม วาระแห่งกรรม สภาวะจิตในปัจจุบันว่ามีความพร้อมเพียงใด มีวิบากขัดขวางในข้อใด แก้ไขป้องกันได้อย่างไร และต่อไปในอนาคตว่า ท่านทรงเทศนา ธรรมด้วย ข้อธรรมบทนี้ บทนี้ ผู้ที่ท่านโปรดฟังธรรมด้วยอาการนี้ อารมณ์จิตเคลื่อนสู่ภูมิธรรมระดับนี้ เมื่อฟังธรรมแล้วจะบรรลุธรรมในอริยะผลระดับนี้

    ญานทัศนะแห่งพระพุทธองค์ประกอบไปด้วย มหาเมตตาอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ถึงซึ่งพระนิพพานเป็นที่สุด ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมเราจึงต้อง "ถามพระ" "ขอบารมีพระ" กันเสมอๆ ทุกครั้ง ให้ความรู้ วิชชาที่ปรากฏแก่ใจของเราก็ดี ธรรมมะก็ดี เป็นธรรมะจากพระพุทธองค์

    ความรู้ด้วยกำลังของเรา ไม่อาจเทียบ บารมีแห่งพระพุทธองค์ได้ ทั้งความละเอียด ความลึกซึ้ง ดังนั้นขอให้เราจงเดินตามรอยหลวงพ่อท่าน ในการทรงกำลังใจ ขอบารมีพระพุทธองค์เอาไว้เป็นพุทธานุสติไว้ทุกครั้งเสมอ

    "ขอวิชชาอันพิสุทธิ์จงปรากฏแก่ทุกๆ ดวงจิตที่ตังมั่นในความดี ให้นำเอาสรรพวิชาจากสมาธิไปใช้ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมได้อย่างเต็มศักยภาพ และขอให้วิชชาอันเป็นที่สุดแห่งทุกข์ อันได้แก่วิมุติญาณ จงปรากฏ ถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ"


    คณานันท์ ทวีโภค
    <!-- / message --><!-- sig -->______________________
    จิตใจที่ดีงามจะคงอยู่ตลอดไป

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=44604&page=136
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ปิยนาถ

    ปิยนาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +298
    ข่าวเศรษฐกิจมา อัพเดทกันจ้า หัวข้อข่าว แบงก์กรุงศรีฯ ลุ้นจีอีอยู่หรือไป <HR class=b>สุกรี แมนชัยนิมิต
    Positioning Magazine ตุลาคม 2551

    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นอีก 1 ธนาคารที่ได้รับผลพวงโดยตรงจากวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐฯ เพราะมีจีอีแคปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น แบงก์ขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ถือหุ้นถึง 32.93%

    กลุ่มจีอีฯ ขาดสภาพคล่องและประกาศระดมทุนมูลค่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปลายเดือนกันยายน 2008 โดยมี “วอร์เรน บัฟเฟตต์” มหาเศรษฐีสหรัฐ เข้ามาต่อท่อออกซิเจน โดยเข้ามาซื้อหุ้นจีอีฯ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    คำถามจึงเกิดขึ้นกับอนาคตธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่มีจีอีฯ เป็นหุ้นส่วนสำคัญ

    ล่าสุด “วีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ” ประธานกรรมการธนาคารกรุงศรีอยุธยา ออกมาแถลงว่ากลุ่มจีอีฯ ยังคงถือหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และไม่ได้ขายหุ้นให้กับกองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์

    นี่คือคำยืนยัน ณ เวลานั้น แต่สิ่งที่ประธานกรรมการของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ไม่สามารถให้คำมั่นได้คือกลุ่มจีอีฯ จะขายหุ้นธนาคารในอนาคตหรือไม่

    แต่สำหรับหุ้นคนไทยคือกลุ่มครอบครัว “รัตนรักษ์” ซึ่งถือทั้งทางตรง และถือผ่านบริษัทในเครือสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ยังไม่มีการขายหุ้นออกมา แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงมาก็ตาม โดยรวมกันถือหุ้นอยู่ประมาณ 25 % ไม่ขายแต่ก็ไม่พร้อมรับซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนรายย่อย

    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 26 กันยายน 2520 แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด ในวันที่ 28 กันยายน 2536

    ปี 2549 กลุ่มจีอีฯ ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่จากกลุ่มรัตนรักษ์ และเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 58,159 ล้านบาท จัดเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 5 ในด้านเงินฝาก สินเชื่อและสินทรัพย์ โดย ณ สิ้นมิถุนายน 2551 ธนาคารมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 751,155 ล้านบาท มีจำนวนพนักงาน 9,424 คน มีสาขาของธนาคาร 572 สาขาทั่วประเทศ และสาขาต่างประเทศ 3 แห่ง คือ สาขาฮ่องกง สาขาเวียงจันทน์ และสาขาหมู่เกาะเคย์แมน โดยผลประกอบการในครึ่งปีแรก 2551 มีกำไรสุทธิ 3,032 ล้านบาท

    รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ณ วันที่ 18 กันยายน 2008

    1. จีอี แคปิตอล อินเตอร์ชั่นแนล โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น 2,000 ล้านหุ้น 32.93%
    2. บริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 607 ล้านหุ้น 10%
    3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 473 ล้านหุ้น 7.79%
    4. บริษัท สตรองโฮลด์ แอสเซ็ทส์ จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    5. บริษัทุนมหาโชค จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    6. บริษัทจีแอล แอสเซทส์ จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    7. บริษัทบีบีทีวี แซทเทลวิชั่น จำกัด 166 ล้านหุ้น 2.74%
    8. บริษัทบีบีทีวี แอสเซตแมเนจเมนท์ จำกัด 163 ล้านหุ้น 2.69%
    9. บริษัทกรุงเทพ โทรทัศน์และวิทยุ จำกัด 160 ล้านหุ้น 2.65%
    10. บริษัทมหากิจ โฮลดิ้ง จำกัด 158 ล้านหุ้น 2.61%
    11. บริษัทุนรุ่งเรืองจำกัด 157 ล้านหุ้น 2.60%
    12. สเตท สตรีท แบงก์แอนด์ทรัสต์ ลอนดอน 57 ล้านหุ้น 0.94%
    13. บริษัทรัตนรักษ์ จำกัด 33 ล้านหุ้น 0.55%
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ทดลองและพยายาม ****

    เช้าๆ ...ตื่นมาใหม่ๆ ยังสดชื่น
    พยายามทำดู ....วันแรกๆ อาจจะพลั้งเผลอดนิดหน่อย ไม่เป็นไร
    ต่อไป...สัจจะของเรา จะคอยเตือนตัวเองตลอดเวลา
    สติ...จะเกิดขึ้นเอง
    สมาธิ....จะเกิดคอยพิจารณาตนเอง
    พิจารณาสิ่งที่เข้ามา... พิจารณาก่อนตัดสินใจทำ
    อะไรดี อะไรไม่ดี ....สัจจะจะคอยเตือน
    ไม่ลองกับตนเอง ก็ไม่มีทางรู้ได้... ว่านิสัยเราสามารถเปลี่ยนไปได้ด้วยสัจจะ
    แล้ว ปัญญา....ก็จะเกิดขึ้นตามมา

    ในทางธรรม โลกก็จะบันทึกไว้ว่าท่านคือผู้ทำได้
    เป็นผู้มีสัจจะ เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า

    สัจจะของทุกคน คือ ความดี
    ที่จะสามารถช่วยพลิกผันสถานการณ์บ้านเมือง และสถานการณ์โลกได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2008
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** พระพุทธเจ้าทรงรู้ด้วย ปิดโลก เปิดธรรม ****

    ความเห็น ความเชื่อ....ไม่ใช่ ความจริง
    ความจริง...คือ สัจจธรรม คือ ธรรมเที่ยง มีอยู่ในธรรมชาติรอบตัวเรา

    ถ้าใจเราเอียงไปทางตำรา
    ที่เขียนจาก ความเห็น ความเชื่อ ... ก็พบ สัจจธรรมความจริงได้ยาก
    จึงต้องลอง ปิดตำรา...พิจารณาเหตุผลด้วยตนเอง

    ปิดโลก เปิดธรรม !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปทุมธานี เจ้าพระยาเริ่มเอ่อท่วม-บุรีรัมย์ปิดอีกถนนลำปลายมาศ

    [​IMG]

    ภูมิภาค 9 พ.ย.- แม่น้ำเจ้าพระยารับน้ำเหนือไหลหนุนเอ่อท่วมพื้นที่ริมฝั่งเขต อ.เมือง เจ้าหน้าที่ระดมสูบน้ำออกบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนบุรีรัมย์ฝนตกต่อเนื่อง ถนนสายลำปลายมาศ-ห้วยแถลง จมน้ำต้องปิดสัญจรอีกครั้ง

    ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี วันนี้ (9 พ.ย.) มีปริมาณเพิ่มขึ้นจนเอ่อท่วมพื้นที่ริมฝั่ง ต.กระแชง ต.บางกะดี ต.บ้านกลาง อ.เมือง ทำให้บ้านเรือนกว่า 500 ครอบครัว วัด และโรงเรียนวัดโพธิ์เลื่อนได้รับผลกระทบ บางจุดน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ส่วนวัดศาลเจ้าและวัดมะขาม แม้อยู่ริมฝั่งแม่น้ำและคลองเชียงราก แต่รอดพ้นน้ำท่วม รวมทั้งบ้านเรือนกว่า 2,000 หลัง เนื่องจากการก่อสร้างประตูปิดกั้นระบายน้ำของคลองเชียงรากสามารถป้องกันน้ำไว้ได้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่นำข้าวสารอาหารแห้งมาช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมกับเร่งระบายน้ำออกบริเวณประตูระบายน้ำเชียงราก ซึ่งประตูระบายน้ำดังกล่าวสามารถสูบน้ำออกได้ถึง 3,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

    ส่วน จ.บุรีรัมย์ ฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ประกอบกับน้ำเหนือจากลำนางรอง ลำปะเทีย และลำน้ำอีกหลายสาขาไหลมาสมทบลงสู่ลำมาศ ทำให้น้ำเอ่อท่วมบนถนนสาย 226 บริเวณสะพานข้ามระหว่าง ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กับ อ.ห้วยแถลง จ.นคราชสีมา สูงกว่า 50 ซม. ระยะทาง 1 กิโลเมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ แม้อำเภอจะนำกระสอบทรายมาปิดกั้นไว้ตลอดริมถนน แต่ไม่สามารถต้านกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เกรงว่าคอสะพานทรุดเป็นอันตราย จึงปิดถนนสายดังกล่าวชั่วคราวอีกครั้ง จากเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถูกน้ำท่วมสูงมานานร่วม 2 สัปดาห์ พร้อมกันนี้ยังประสานแขวงการทางแนะผู้สัญจรที่จะไป จ.นครราชสีมา ให้เลี่ยงไปใช้สายโชคชัย-เดชอุดม จนกว่าน้ำลดเป็นปกติ. - สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 18:09:05

    นครศรีธรรมราชเตือน 10 อำเภอระวังภัยน้ำท่วมหลังฝนตกไม่หยุด

    [​IMG]

    นครศรีธรรมราช 9 พ.ย.- ฝนยังตกหนักในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ทางจังหวัดต้องออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 10 อำเภอ เตรียมพร้อมรับมือเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดภาวะฝนตกหนักตลอด 2-3 วันที่ผ่านมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจนถึงวันนี้ (9 พ.ย.) ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองต่างๆ เริ่มสูงขึ้นหลายจุด นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ที่อาจจะเกิดขึ้น เบื้องต้นทางจังหวัดฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านสื่อในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังสถานการณ์ และติดตามการประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

    นางเพ็ญศรี แก้วคุ้มภัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช แจ้งว่า ทางจังหวัดได้เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นที่ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย 10 อำเภอ 15 ตำบล รวม 21 หมู่บ้าน ในบริเวณที่ราบลุ่ม ที่ราบเชิงเขา และบริเวณชายฝั่งทะเล โดยได้ประสานความร่วมมือไปยังอาสาสมัครในพื้นที่จำนวน 100 คน ที่กระจายอยู่ทั่วจังหวัดเพื่อออกปฏิบัติงานเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ โดยพร้อมอพยพประชาชนทันทีที่สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ

    นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านพืชและเกษตร การเตรียมการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์ ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบจากอุทกภัยแหล่งเพาะเลี้ยงปลาและเรือประมง รวมการทั้งการรายงานความเสียหาย และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกประเภท โดยได้ระดมเครื่องจักรกล ยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยชีวิตจากภาคส่วนและองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งจากกองทัพภาคที่ 4 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย เรือท้องแบน 75 ลำ รถกู้ภัย 3 คัน รถเคลื่อนที่กู้ภัย 24 คัน รถบรรทุก 123 คัน รถยก 22 คัน รถแทรกเตอร์ 8 คัน รถตัก 9 คัน รถแบคโฮ 19 คันและเครื่องสูบน้ำ จำนวน 98 เครื่อง เพื่อเตรียมพร้อมออกปฏิบัติงานทันทีที่เกิดเหตุ สำหรับท้องฟ้าในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังมืดครึ้มและมีฝนตกหนักตลอดเวลา . - สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 16:37:30

    สุราษฎร์ฯ ห่วงคลื่นสูงเข้มความปลอดภัยเดินทางข้ามเกาะ
    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 9 พ.ย.- ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีไม่วางใจฝนยังตกต่อเนื่อง กำชับหน่วยงานดูแลเข้มงวดสัญจรทางทะเล เน้นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ขณะที่เกาะพะงันคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่เดินทางเตรียมฉลองฟูลมูนปาร์ตี้-ลอยกระทง

    นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยการเดินเรือข้ามเกาะอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกตลอดเวลาและ ทะเลมีคลื่นสูง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางทะเลให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า อุทยานแห่งชาติเขาสก และให้เรือเฟอร์รี่ หรือเรือโดยสารให้ระมัดระวังการเดินเรือ ส่วนเรือสปีดโบ๊ทรับ-ส่งนักท่องเที่ยว เรือประมงขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

    สำหรับบรรยากาศของท่าเรือข้ามเกาะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเดินทางข้ามเกาะสมุย-พะงัน จำนวนมาก เพื่อเตรียมฉลองงานฟูลมูนปาร์ตี้ ทุกคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ที่หาดริ้น เกาะพะงัน และครั้งนี้ตรงกับวันที่ 12 พฤศจิกายน ของเทศกาลลอยกระทง ทำให้บนเกาะพะงันคึกคักขึ้นมาก ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเตรียมจัดงานอย่างยิ่งใหญ่.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 14:49:55

    แห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับหนาว ย้ำห้ามใช้เตาถ่านเข้าเต็นท์

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 9 พ.ย. - นายจงคล้าย วรพงศธร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข้าชมความงามของธรรมชาติดอยอินทนนท์ในช่วงอากาศหนาวกันมากขึ้น ซึ่งวันนี้อุณหภูมิบนยอดดอยต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส

    สำหรับนักท่องเที่ยวที่กางเต้นท์พักแรมตามดงสน ไม่ควรนำเตาถ่านทุกชนิดเข้าไปในเต็นท์นอนเด็ดขาด เพื่อหวังช่วยคลายหนาว เพราะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต หากเผลอหลับไปอาจสูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกินปริมาณ และเคยมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ส่วนบ้านพักของอุทยานฯ มียอดจองเต็มไปถึงต้นปีหน้า คาดว่าฤดูหนาวปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมากถึง 400,000 คน สร้างรายได้ให้อุทยานฯ 35 ล้านบาท. - สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 16:31:38

    อากาศหนาวเริ่มส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหนองบัวลำภู

    [​IMG]

    หนองบัวลำภู 9 พ.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศที่จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า เริ่มมีลมกระโชกแรงในตอนกลางวัน กลางคืนมีหมอกและน้ำค้าง

    จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายว่า อากาศจะเริ่มหนาวเย็นในอีก 1-2 วันนี้ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20-30 องศาเซลเซียส และจากการตรวจสอบหมู่บ้านที่อยู่บนเขาภูพาน เช่น บ้านห้วยทราย ตำบลหนองบัว บ้านภูพานคำ ตำบลโนนทัน อำเภอเมืองหนองบัวลำภู อากาศเริ่มหนาวเย็น มีลมกระโชกแรง ส่งผลให้ผู้สูงอายุและเด็กได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวเย็น ต้องพากันออกมาตากแดดเพื่อรับไออุ่นจากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เริ่มมีนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์รับลมหนาวกันบ้างแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2008-11-09 10:59:44

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    วันนี้ไปทำบุญกฐิน ที่วัดของหลวงปู่ขาวมา ที่วัดป่าคูณคำวิปัสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ครับ ขากลับก็ไปแวะร่วม สร้างพระพุทธองค์ปฐมที่ อ.ภูพาน ได้เห็นรอยพระพุทธบาทขององค็สมเด็จพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงประทับไว้บนเขาภูพานซึ่งรอยพระบาทนั้น เป็นลำธารไหลผ่าน ก็มาบอกบุญกับสมาชิกครับ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา จิตใจผม เบา ผ่องใสมากครับ
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ระหว่างคุณสมิทธกับกรมอุตุฯใครคือฮีโร่
    โดยคุณ ปิรันญ่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    คำว่า "เพื่อน" มีความหมายอย่างไร เราทุกคนรู้ดี คำกลอนล้อความเป็นเพื่อนหลายๆบทคงบอกได้ ว่าไหนคือ "เพื่อนแท้" ไหนคือ "เพื่อนเทียม" บางครั้ง "เพื่อน" อาจทำตามใจ แต่หลายครั้ง "เพื่อน" ต้องทำตามหน้าที่ (แม้จะขัดใจเราก็ตาม)

    ถ้านับคุณสมิทธ ธรรมสโรช เป็นเพื่อน (ขออภัย ไม่ได้หมายจะอาจเอื้อมไปข้ามรุ่นนะคะ เพราะท่านอาวุโสกว่ามาก แต่ขอใช้นิยามคำว่า "เพื่อน" ในรูปแบบทั่วไปค่ะ) ก็น่าจะเป็น "เพื่อนแท้" ที่คอยบอกเหตุให้เพื่อนอีก 64 ล้านคนระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ถึงจะเป็นเรื่องน่าหวาดเสียว หนักไปทางสยอง (อาจจะสยองกว่า หากศึกษาพระพุทธทำนายควบคู่ไปกับปัญหาสภาวะโลกร้อนและข้อเท็จจริงที่ว่าคนสมัยนี้ไม่ยึดถือคุณธรรมในการดำรงชีวิตเป็นส่วนมาก)

    สิ่งที่ท่านออกมาเตือน ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้ เราก็ไม่ควรประมาท หนึ่งทำให้ตัวเองรู้ สองเตรียมพร้อมรับมือ จะได้ไม่ต้องมาคร่ำครวญเสียใจเมื่อมองลงมาจากอากาศเห็นตัวเองลอยน้ำอืดทึดอยู่เดียวดาย หรือเบียดแน่นอยู่กับซากรถยนต์ ซากอาคาร หรือถูกต้นไม้ทับแข้งขาหัก เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นผู้สูญเสียใช่ไหมคะ

    หากเราตั้งตนอยู่ในความประมาทแล้ว สภาพัฒน์ฯคงต้องเหนื่อยมานั่งพยากรณ์จำนวนประชากรใน 30 ปีข้างหน้าใหม่อีกรอบหนึ่ง (ทีนี้อาจจะเดินนับหัวเอาเลยก็ได้นะคะ จากเดิมที่คาดว่าจะมีประชากรราว 70.63 ล้านคนในปี 2573) ไม่ว่า Storm Surge จะเกิดในปีนี้ หรือไม่ เกิดที่ไหน มันก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดแน่นอน เพราะปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างมันปรากฎชัดขึ้นๆทุกทีๆ ดังนั้น พวกเราช่วยกันให้กำลังใจท่านสมิทธ ธรรมสโรชและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติกันหน่อยเถอะค่ะ

    ที่กล้าออกมาพูดในสิ่งที่คนไม่อยากฟัง ทีอัลกอร์ออกมานำเสนอ Inconvenience Truth ไม่เห็นโดนตำหนิหรือขัดขวางเลย ใช่ไหมคะ กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงที่จะรายงานสภาพอากาศ พยากรณ์ลมฟ้าอากาศ และใช้เครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัยไม่น้อยหน้าใครในภูมิภาค คอยเตือนประชาชนเมื่อปรากฎเหตุบ่งชัดแล้วเท่านั้นว่าจะเกิดภัยพายุ นำท่วม น้ำหลาก ภัยแล้ง ภัยไฟไหม้ป่า ซึ่งเป็นสิ่งที่จวนเจียนเต็มทีแล้ว เพราะท่านไม่สามารถจะออกมาเตือนล่วงหน้าได้อย่างคุณสมิทธ เพราะท่านไม่มีหน้าที่ตรงนี้ แต่คุณสมิทร ท่านมี

    พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า "คนไม่ประมาท แม้ตายแล้วก็เหมือนไม่ตาย" แล้วนี้เรื่องเป็นเรื่องตาย เรื่องชีวิต เราจึงไม่ควรประมาทใช่ไหมคะ? หากจะบอกว่าใครเป็นฮีโร่ ก็ขอบอกจากใจว่า ไม่มีใครเป็นฮีโร่

    มีแต่จะบอกว่า ทั้งท่านสมิทร และ กรมอุตุฯ เป็นเสมือนเพื่อนแท้ยามยาก ของคนไทย 64 ล้านคน ที่เราต้องคอยติดตาม ฟังข่าวจากทั้งสองทาง และอย่าตกอยู่ในความประมาท แต่ก็ไม่ต้องแตกตื่น ตกใจ ในเมื่อเรารู้ตัวล่วงหน้า ก็ต้องตระเตรียมตัวเอง ให้พร้อม ซึ่งย่อมดีกว่าไม่มีโอกาสทำอะไรเลยนอกจากพยายามหายใจเฮือกสุดท้าย ก่อนจะปลงว่า "รู้งี้เชื่อเขาแต่แรกซะก็ดี"

    ข้อควรตระหนัก ในยามพบภัยพิบัติและยามเตรียมพร้อม

    1. อย่าประมาท หาความรู้ ทำความเข้าใจ คอยติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ แล้วเตรียมพร้อมปฏิบัติตามประกาศสภาวะฉุกเฉิน (ถ้ามี)
    2. อย่าละโมภ อย่ากักตุนข้าวของเกินความจำเป็น
    3. อย่าเห็นแก่ได้ อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือบริการเพื่อหวังกำไรระยะสั้น หรือค้ากำไรเกินควร
    4. อย่าลักขโมย บางบ้านอาจต้องสละที่พักอาศัยเพื่อความปลอดภัย อย่าซ้ำเติมกันด้วยการลักขโมยของ เพราะนอกจากจะผิดศีลธรรมแล้วยังอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตอีกด้วย
    5. อย่าตื่นกลัว แต่ให้ตั้งสติดีๆ

    ขอบคุณที่มาอ่านและแสดงความคิดเห็นค่ะ
    ปิรันญ่า 21 สิงหาคม 2551

    อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

    ...... ระหว่างคุณสมิทธกับกรมอุตุฯใครคือฮีโร่
    ...... ไต้ฝุ่นนูริ (Nuri) ทำแผ่นดินถล่มคร่าชีวิตไปแล้ว 7
    ...... คลิปการประชุมผู้นำท้องถิ่นจากทั่ว จ.สมุทรปราการ เพื่อพร้อมรับภาวะผลกระทบจาก Storm Surge
    ...... กทม เริ่มตื่นตัว เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติแล้ว
    ...... เตือนภัย แผ่นดินไหวระดับ 5 ริคเตอร์อัพ ใกล้ไทย15 ครั้ง ในรอบ 15 วัน
    ...... ด่วนที่สุด ผู้ว่าฯสมุทรปราการ ร่อนหนังสือเรียกนายกเทศมนตรี นายกอบต. ให้แนวทางเตรียมรับ Storm Surge และภัยพิบัติ
    ...... ปากน้ำจะจมทะเล แต่คนสมุทรปราการ เฉย!
    ...... คู่มือเตรียมพร้อมรับภัย-แผ่นดินไหว
    ...... เตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน ฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก
    ...... รับสมัครพลเรือนอาสา ไปจัดถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสพภัยค่ะ
    ...... ประกาศ เชียงรายเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว +เตือนระวังคนจะติดเชื้อไข้หวัดนก H9N2
    ...... สถานการณ์ภัยพิบัติ 8-9 สิงหาคม 2551
    ...... รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ 7 สิงหาคม 2551 คลิป คัมมูริ อ่อนกำลังแล้ว
    ...... คลิป พายุโซนร้อน คัมมุริ คลื่อนตัวเข้าใกล้ไทย!
    ...... รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ 6 สิงหาคม 2551 - ไทยประกาศเตือนรับพายุ คัมมุริ
    ...... รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ 5 สิงหาคม 2551
    ...... รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ 4 สิงหาคม 2551
    ...... ที่นี่ หรือ ที่ไหน ก็ไม่ปลอดภัย ถ้าไม่เปิดอ่าน
    ...... ═╬ เ ศ ร้ า ! ╬═ ภัยพิบัติรายวัน หยุดไม่ได้....แต่....
    ...... หนีน้ำท่วมใหญ่ ไปที่ไหนดี? มาหาคำตอบที่นี่
    ...... อย่าตกใจนะ ปีนี้มีแผ่นดินไหวระดับกลางถึงรุนแรงในแถบเอเซียมากที่สุดในโลก
    ...... เห็นจะจะ ความเสี่ยงแผ่นดินไหวรอยเชื่อมเปลือกโลกใกล้ไทย
    ...... นี่ไม่ใช่สัญญาณเตือน แต่เป็นเรื่องจริง ---> ภัยน้ำท่วมหนัก แผ่นดินไหวใกล้ไทย
    ...... เตือนภัยแผ่นดินไหว ใกล้ประเทศไทย อย่าชะล่าใจเตรียมพร้อมกันบ้าง !
    ...... เตรียมรับภัยแผ่นดินไหว >> คลิกด่วน
    ...... หวั่น แผ่นดินไหวใกล้ไทย เป็นเพียงกริ่งเตือนก่อนเจอของจริง!
    ...... เปิดตัว กลุ่ม เตือนภัยให้เตรียมพร้อม -DisastersReady
    ...... เตียมตัวไว้ยามไร้บ้าน - พร้อมรับภัยพิบัติ
    ...... เตรียมพร้อม รับภัยพิบัติที่อาจมาไม่รู้ตัว (1)
    ...... เตรียมพร้อม รับภัยพิบัติที่อาจมาไม่รู้ตัว (2)
    ...... ค น ล้ า ง โ ล ก - โ ล ก ล้ า ง ค น
    ...... คนละเรื่องเดียวกัน ไม่คิดไม่ได้แล้ว
    ...... Planet X จากปริศนาอารยธรรมและคัมภีร์ สู่การค้นหา
    ...... ระวัง Planet X กำลังเข้าใกล้โลก!

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=304359
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2008
  8. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    อ่านข้อความเกี่ยวกับแบงค์กรุงศรีฯ น่าจะมีปัญหาจริงๆเพราะน้องที่ทำงานที่แบงค์ถูกสั่งให้หาเงินฝากเข้าแบงค์ต่อคน ต้องได้ยอด 8 แสนบาท
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สมิทธ ธรรมสโรช ทำนาย"สึนามิ"ที่ถูกเมิน

    [​IMG]

    จำเลยของโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ "สึนามิ" ที่ถล่มชายทะเลใต้ฝั่งอันดามัน คร่าชีวิตผู้คนมโหฬาร สร้างความเสียหายใหญ่หลวงในทุกด้าน ครั้งนั้น คือ "การเตือนภัย"

    "ไม่มีใครรู้มาก่อน" ซึ่งมาพร้อมกับคำว่า "อย่าไปโทษใคร"

    จริงหรือที่ว่าไม่มีใครรู้ จากการประมวลจากข่าวทั้งหมด เมื่อเกิดแผ่นดินไหวในทะเล ใกล้เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของศูนย์วัดแผ่นดินไหว แคนเบอร์รา ออสเตรเลีย ได้สัญญาณจากเครื่องวัด ที่เขาติดไว้ที่บ้าน ตรวจสอบแล้วประเมินว่า อาจจะเกิด "สึนามิ"

    ภายใน 30 นาที จากนั้น เขาได้ส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังรัฐบาลต่างๆ และสถานทูตออสเตรเลีย ทุกแห่งที่สัญญาณของเขาไปถึงได้ ทว่ารัฐบาลไทยของเรา หรืออีกหลายประเทศ คงไม่มีเครื่องมือรับสัญญาณนี้ ไม่มี เพราะ "สึนามิ" ไม่เคยอยู่ในความกังวลของหน่วยงาน ที่ไม่กังวล เพราะเราไม่เพียงไม่เชื่อว่าแผ่นดินไทย จะเกิดคลื่น "สึนามิ" เรายังต่อต้านคนที่เชื่อ

    "สมิธ ธรรมสโรช" คือ คนที่ในวันนี้ เราเสียดายความเชื่อของเขาเมื่อ 6 ปีก่อน

    กลางดึกวันที่ 17 กรกฎาคตม 2541 เกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ "สึนามิ" 3 ลูกซ้อน ถล่มชายฝั่ง กวาดบ้านเรือนและชีวิตผู้คนไป 4,000 คน

    วันที่ 12 สิงหาคม 2541 นายสมิทธ ธรรมสโรช ตอนนั้นย้ายจากอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา มาเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคมแล้ว ได้ออกประกาศเตือนว่า ให้คนไทยระวัง "สึนามิ" โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งจะมีความรุนแรงมากกว่าปาปัวนิวกินี้ เป็น 100 เท่า

    ไม่เพียงระบุช่วงเวลาไว้ด้วยซ้ำว่า อาจจะเกิดขึ้นระหว่าง ปี 2537 - 2547 แต่ยังแนะวิธีปฏิบัติ ไว้เรียบร้อย เรียกว่าข้อบัญญัติบรรเทาสาธารณภัย 10 ประการ คือ

    1. สังเกตปรากฏการณ์ของชายฝั่ง หากน้ำทะเลลดระดับลงมาก หลังเกิดแผ่นดินไหว ให้สันนิษฐานว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิตามมาได้ ให้รีบอพยพคนในครอบครัว สัตว์เลี้ยง ให้อยู่ห่างจากชายฝั่งมากๆ และอยู่ในที่ดอนหรือที่สูง น้ำท่วมไม่ถึง
    2. ถ้าอยู่ในเรือซึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือหรืออ่าว ให้รีบนำเรือออกไปกลางทะเล เมื่อทราบว่า จะเกิดคลื่นสึนามิพัดเข้าหา เพราะคลื่นสึนามิที่อยู่ไกลชายฝั่งมากๆ จะมีขนาดเล็ก
    3. คลื่นสึนามิอาจเกิดขึ้นได้หลายระลอก จากการเกิดแผ่นดินไหวครั้งเดียว เนื่องจากการแกว่งไปแกว่งของน้ำทะเล ดังนั้น ควรรอสักระยะหนึ่ง จึงจะสามารถลงไปชายหาดได้
    4. ติดตามการเสนอข่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
    5. ในบริเวณย่านที่มีความเสี่ยงภัยที่จะเจอคลื่นสึนามิ หากที่พักอาศัยอยู่ใกล้ชายหาด ควรจัดทำเขื่อน กำแพง ปลูกต้นไม้ วางวัสดุ เพื่อลดแรงปะทะของน้ำทะเล และก่อสร้างที่พักอาศัย ให้มั่นคงแข็งแรง
    6. วางแผนในการฝึกซ้อมรับภัยจากคลื่นสึนามิ เช่น กำหนดสถานที่ในการอพยพ แหล่งสะสมน้ำสะอาด เป็นต้น
    7. ในย่านที่มีความเสี่ยงภัยที่จะเจอคลื่นสึนามิ ให้หลีกเลี่ยงการก่อสร้างใกล้ชายฝั่ง
    8. จัดวางผังเมืองให้เหมาะสม บริเวณแหล่งที่อาศัย ควรมีระยะห่างจากฝั่ง
    9. ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ประชาชน ในเรื่องการป้องกันและบรรเทาภัย จากคลื่นสึนามิ และแผ่นดินไหว
    10. วางแผนล่วงหน้า หากเกิดสถานการณ์ขึ้นจริง ในเรื่องการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง กำหนดขั้นตอนในด้านการช่วยเหลือบรรเทาภัย ด้านสาธารณสุข การรื้อถอน และฟื้นฟูสิ่งก่อสร้าง

    ทว่าทันทีที่คำเตือนนั้นออกมา กลับถูกทุกฝ่ายมองว่า เป็นเรื่องตลก ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยว ด่ากันขรม ว่าเป็นพวกทำลายการท่องเที่ยว ถึงขนาดเรียกร้อง ให้จัดการกับนายสมิทธ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตขณะนั้น ห้ามนายสมิทธ เข้าจังหวัด

    กระทั่งกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเขาเคยเป็นอธิบดี ยังออกมาแถลงโต้ ว่าไม่เคยพบสัญญาณที่จะเกิด "สึนามิ" ที่ชายฝั่งอันดามัน แถมกระทรวงมหาดไทยยังอวดโอ้ว่า มีแผนรับเหตุการณ์มาตั้งแต่ปี 2536

    "สมิทธ ธรรมสโรช" ถูกตราหน้าว่าทำรายได้จากการท่องเที่ยว เสียหาย

    แล้วมหันตภัย "สึนามิ" ก็เกิดขึ้นจริงตามคำทำนาย สร้างความโศกสลดไปทั่วทั้งแผ่นดินหากลองย้อนกลับไป รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐขณะนั้น สร้างระบบป้องกันตามข้อบัญญัติ 10 ประการที่ว่ามา ผู้คนจะบาดเจ็บ ล้มตาย ทรัพย์สิน จะเสียหายกันมากมายขนาดนี้หรือ ที่สำคัญเราจะเผชิญกับ "มหันตภัย" โดยไร้ความรู้ในทุกด้านอย่างที่เผชิญกันหรือ

    โดย การ์ตอง
    (ที่มา มติชนรายวัน ประจำวันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2548)

    หมายเหตุ

    คุณสมิทธ ธรรมสโรช ได้เตือนเรื่อง"สึนามิ" ไว้ล่วงหน้าถึง 6 ปีก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้นเรื่อง"สตอมเสริช" ที่คุณสมิทธได้เตือนเอาไว้ว่าจะเกิดเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ ถึงยังไม่เกิดขึ้นจริงในปีนี้ ก็ไม่ควรประมาท เพราะยังมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้อีกในปีหน้า หรือปีต่อๆ ไปครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • resizer.jpg
      resizer.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.1 KB
      เปิดดู:
      1,732
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2008
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มักเกิดขึ้นจริงได้เสมอ!!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    โชว์ความสามารถ

    คุณข้าวแดงแกงร้อนหลานคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กำลังโชว์ความสามารถเดินไต่ลวดสลิง และเดินบนปากขวด ภายในงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงแห่งประเทศไทย ที่สวนสามพราน

    ภาพเป็นข่าว จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2550

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    โชว์พลังจิต

    criss angel นักมายากล กำลังแสดงความสามารถพิเศษ ลอยตัวกลางอากาศ และ เดินบนผิวน้ำ ต่อหน้าผู้คนนับร้อย ที่มาคอยชมการแสดงของเขา


    ***************************************​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2008
  11. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    แล้วถ้าผ่านพ้นพระราชพิธีขององค์สมเด็จพระพี่นางหละครับ

    ผมเคยดูบทความผ่านๆ มาที่ว่ายังไม่เกิดก็เพราะเหตุนี้ ฝ่านพ้นส่งเสด็จแล้ว ก็ไม่รู้อีกว่าจะ ...

    ขอพระบารมีปกเกล้าชาวไทยเทอญ...

    (แต่กรรม ไม่อาจอภัยหรือยกเว้น...)
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ร่วมถวายสัจจะสิ่งที่ดี ****

    ขอเชิญชาวไทยทุกคน ถวายสัจจะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก...
    "ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด มีกำหนด ๓ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๔ ถึง ๑๖ พฤศจิกายน นี้"
    เพื่อ สมเด็จพระพี่นาง.......

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2008
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โรงเรียนถล่ม ฝัง700ชีวิต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ว่าเกิดเหตุโศกนาฏกรรม อาคารโรงเรียนสูง 3 ชั้น พังถล่ม ที่เมืองเพชั่นวิลล์ ในเฮติ ประเทศหมู่เกาะเล็กๆกลางทะเลคาริบเบียน

    เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่นักเรียนไม่ทราบจำนวน แต่คาดว่ามีประมาณ 700 คน อยู่ระหว่างเรียนหนังสือ โรงเรียนดังกล่าวได้ถล่มลงมาฝังนักเรียน ในขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งระดมขุดค้นหาผู้รอดชีวิต ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน และผู้ บาดเจ็บกว่า 85 คน และคาดว่ายอดดังกล่าวอาจสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคารอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้อาคารบ้านเรือนที่อยู่เคียงข้างยังได้รับความเสียหายจากซากโรงเรียนถล่มใส่ไม่น้อยกว่า 5 หลัง
    เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่จากทางการเฮติ เจ้าหน้าที่จากสภากาชาด และกองกำลังรักษาความสงบสหประชาชาติ 3 กองพัน จากบราซิล ชิลี เอกวาดอร์ ระบุว่า การช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากตัวโรงเรียนตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีถนนคับแคบ และพอมาถึงจุดเกิดเหตุก็เนืองแน่นไปด้วยชาวบ้านกว่าพันคน ที่พยายามจะแหวกทางเข้าไปในบริเวณโรงเรียน หวังช่วยเหลือบุตรหลานตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลากันชาวบ้านออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ด้วยการตั้งด่านตรวจและล้อมรอบบริเวณโรงเรียนด้วยโล่มนุษย์
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทางการเฮติระบุว่า เจ้าหน้าที่ทีมช่วยเหลือไม่ สามารถขนอุปกรณ์ขนาดใหญ่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้

    เนื่องจากชาวบ้านนับพันกีดขวางเส้นทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้จอบและเสียม รวมถึงมือเปล่าในการขุดซากปรัก หักพัง ทั้งนี้ พันตรี คาร์ลอส อัลเบอโต ผู้บังคับบัญชากองกำลังรักษาความสงบสหประชาชาติกล่าวว่า ซากของโรงเรียนนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นคอนกรีต และเศษชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ด้านสหรัฐฯได้ส่งทีมกู้ภัย 38 คน สุนัขดมกลิ่น 4 ตัว และอุปกรณ์ช่วยเหลือไปยังเฮติ เมื่อเช้าวันที่ 8 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนนายเบอร์นาร์ด เคาช์เนอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมตัวส่งทีมกู้ภัยเข้าช่วยเหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ สาธารณรัฐ โดมินิกัน ประเทศเพื่อนบ้านของเฮติ ส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ เข้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้รอดชีวิต ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ช่วยกันย้ายร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 39 คน ไปยังสถานเก็บศพที่เมืองปอร์-ดู-แปง เป็นที่เรียบร้อย ส่วนผู้บาดเจ็บกว่า 80 คน ถูกนำตัวส่ง รพ.เป็นที่เรียบร้อย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 8 ราย

    สาเหตุของอาคารโรงเรียนถล่มครั้งนี้ ทางการเฮติคาดว่าเกิดจากการต่อเติมอาคารโรงเรียนจากเดิม 2 ชั้น ต่อเพิ่มเป็น 3 ชั้น อย่างไม่ถูกต้อง

    ไม่ใช่เพราะพายุ อย่างที่คาดการณ์ และเป็นเพราะการก่อสร้างที่ไม่ได้ มาตรฐาน หลังจากมีการสร้างอาคารดังกล่าวขึ้นใหม่ เนื่องจากส่วนหน้าของอาคารโรงเรียนพังถล่มไปเมื่อ 8 ปีก่อน ทั้งนี้ โรงเรียน เลอ พรอเมส มีนักเรียนกว่า 700 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับศึกษาชั้นอนุบาลจนถึง มัธยมศึกษาตอนปลาย หลังเกิดเหตุ นายเรเน พรีวาล ประธานาธิบดีเฮติ พร้อมด้วยนายมิเชล ปิแอร์ หลุยส์ นายกรัฐมนตรี ได้รุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อปลอบใจแก่ครอบครัวของผู้ประสบภัย และขอให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบบริเวณโรงเรียน อพยพออกจากตัวอาคาร เนื่องจากเกรงว่าอาคารรอบๆ โรงเรียนอาจไม่มั่นคงหลังจากการถล่ม นอกจากนี้ นาย พรีวาลยังสั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เร่งตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้างโรงเรียนทุกแห่งในประเทศ ด้านผู้บังคับการกรมตำรวจ นายฟรองซีน โมรัว กล่าวว่า นักบวชผู้บริหารโรงเรียน อาจถูกตั้งข้อหา แต่ในขณะนี้ยังหาตัว ผู้บริหารรายนี้ไม่พบ
    ก่อนหน้านี้ เฮติประสบปัญหาต่างๆไม่ว่าจะกรณีการประท้วง เนื่องจากราคาอาหารที่สูงขึ้น หรือพายุเฮอริเคนและพายุโซนร้อนที่คร่าชีวิตเหยื่อไปกว่า 800 คน ในเวลาต่อมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารเรียนของโรงเรียนในเฮติพังถล่ม ยอดเขยิบเป็น 58 ราย จากเดิม 50 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็น 107 คน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>11ปีป่วยจิตฆ่าเด็ก4ขวบจับโยนบ่อชอบ"หักคอแมว- กรีดท้องหมา"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เด็กชาย 11 ขวบ ฉุนเด็กอนุบาลกระโดดกัดคอจับโยนลงสระจมน้ำดับอนาถ เผยก่อนสิ้นใจร้องลั่นแต่ไม่มีใครช่วย ตร.เผยถูกทิ้ง-ป่วยทางจิตขั้นรุนแรงชอบ "หักคอแมว- กรีดท้องหมา" ทิ้งบ่อน้ำ เล็งส่งสถานพินิจฯ อีกรายพ่อแม่เผลอหลับ ลูกวัย 8 เดือน คลานออกจากมุ้งตกใต้ถุนบ้านจมน้ำดับ
    จากเหตุการณ์เศร้าสลดเมื่อ ด.ช.ศรัญญู จันทร์จร หรือน้องเอ็กซ์ อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนมักกะสัน จมน้ำเสียชีวิตที่สระน้ำบริเวณด้านหลังศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน น.ส.ศศิธร ขันติวงศ์ อายุ 23 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 1 ต.สามัคคี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร มารดาของ ด.ช.ศรัญญู มารับศพลูกชายที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ ทันทีที่ น.ส.ศศิธรซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน เห็นศพลูกชายก็ร้องไห้คร่ำครวญจนเป็นลมหมดสติไป ญาติต้องช่วยกันปฐมพยาบาล และหลังจากฟื้นคืนสติ น.ส.ศศิธรก็ยังคงพูดพร่ำเพ้อถึงลูกชายตลอดเวลา
    น.ส.ศศิธรกล่าวทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับลูก ตอนแรกคิดเพียงว่าถูกลักพาตัวไป รู้สึกเสียใจที่ดูแลลูกไม่ดี จากนี้จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมักกะสัน ส่วนทางคดีให้ตำรวจสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ หรือถูกเด็กอื่นกลั่นแกล้งจนทำให้ตกน้ำเสียชีวิต ตอนนี้ติดต่อให้พ่อของน้องเอ็กซ์ ซึ่งรับราชการทหารอยู่ที่จังหวัดชายแดนใต้ทราบแล้ว และได้ลางานกับผู้บังคับบัญชาเดินทางมาทันที
    สาเหตุการเสียชีวิตของ ด.ช.ศรัญญู แพทย์ยืนยันว่าเกิดจากขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ โดยตามร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ ส่วนเงื่อนปมที่นำไปสู่ความตายเกิดจากอุบัติเหตุหรือมาตกรรมนั้น พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.6 กล่าวว่า ภายหลังจากการสอบสวน ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ ผู้ต้องสงสัยฆ่า ด.ช.ศรัญญู ให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าจริง โดยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน กระทั่งวันเกิดเหตุได้ชักชวนผู้ตายไปเล่นด้านหลังห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างนั้นผู้ตายได้กระโดดกัดคอจึงโมโห เลยจับผู้ตายทุ่มลงในสระน้ำดังกล่าว ทั้งนี้ ยังมีพยานยืนยันว่าได้ยินเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครสนใจ
    พ.ต.อ.สมบัติกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ด.ช.เอ ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ปทุมวัน และถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยพนักงานสอบสวนจะประสานส่งตัวไปยังสถานพินิจฯ เพื่อนำตัวไปบำบัดด้านจิตใจ เนื่องจากเด็กมีอาการทางประสาท ส่วนการติดตามตัวผู้ปกครองของเด็กนั้น ทราบว่าแม่เด็กทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย จึงฝากข้างบ้านเลี้ยงโดยส่งเงินมาให้เป็นประจำ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อแม่เด็กได้
    ส่วน พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส. สน.ปทุมวัน กล่าวถึงจับกุม ด.ช.เอ ว่า ขณะนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว ด.ช.เอ ไว้ที่ สน. ปทุมวัน เพื่อส่งตัวไปยังศาลรวมถึงส่งตัวต่อไปยังสถานพินิจฯ ต่อไป หากญาติต้องการให้เด็กเข้าบำบัดจิตก็จะส่งไปดำเนินการต่อเนื่องจากเด็กมีอาการทางจิตขั้นรุนแรง
    พ.ต.ท.อุดม กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำญาติที่ดูแล ด.ช.เอ ให้การว่าเด็กมีพฤติการณ์ชอบหักคอแมว กรีดท้องสุนัข แล้วนำไปโยนทิ้งในสระน้ำที่พบศพ ด.ช.ศรัญญู ที่ผ่านมาญาติทราบมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเลี้ยงดู ด.ช.เอ เหมือนบุตรบุญธรรมแม่ของเด็กส่งเงินค่าใช้จ่ายมาบ้างแต่ไม่สามารถติดตามตัวได้ เนื่องจากไม่ทราบที่อยู่ที่แน่ชัด รวมถึงพ่อแท้ๆ ก็ไม่ทราบว่าปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่ใด
    "ด.ช.เอ ไม่มีอาการใดๆ ที่จะแสดงให้คนทั่วไปเห็นว่าเป็นเด็กที่จิตไม่ปกติ เพราะจากการสอบปากคำเด็กก็พูดเหมือนเด็กที่อยู่ในวัยเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าญาติต้องการให้เด็กได้รับการบำบัด ซึ่งตำรวจก็เห็นด้วย เนื่องจากเด็กมีพฤติการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อไปได้ในสังคมวันข้างหน้า" พ.ต.ท.อุดมกล่าว
    อุทาหรณ์จากการสิ้นใจของ ด.ช.ศรัญญู ด้วยน้ำมือของเพื่อนต่างวัยนาม ด.ช.เอ หากมองอย่างผิวเผินอาจเป็นการฆ่า เนื่องจากบันดาลโทสะ ทว่าหากเพ่งพินิจจากรูปการณ์อย่างลึกซึ้ง ประกอบกับเมื่อนำพฤติการณ์ทางจิตของ ด.ช.เอ ผู้ไร้ไออุ่นจากอ้อมอกของผู้พ่อและแม่นานแสนนาน เป็นไปได้หรือไม่ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนสังคมให้ต้องเร่งทบทวนปัญหาเรื่องเด็กถูกทอดทิ้งอย่างจริงจังเสียที
    ขณะที่แม่น้องเอ็กซ์กำลังกอดศพลูกชายร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจนั้น อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพบทารกเพศหญิง ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีชมพู มีป้ายกระดาษชิ้นเล็กๆ สีเหลืองเขียนว่า "น้องณัฐธิพันธ์" (นัท) เกิด 28 ตุลาคม 2551 นุ่งผ้าอ้อมเด็กลายการ์ตูน เสื้อขาวลายการ์ตูน ส่งเสียงร้องจ้าในถังขยะที่ห้องน้ำ ชั้น 3 ใกล้โรงภาพยนตร์ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางกะปิ
    จากคำบอกเล่าของ น.ส.สุวรรณณี บุตรเดช พนักงานโรงภาพยนตร์ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มนักศึกษาที่มาชมภาพยนตร์มาบอกว่าได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ในถังขยะ เมื่อไปดูก็พบเด็กจริง จึงขอเบิกนมผงกับขวดน้ำจากห้างมาชงนมให้เด็กกิน กระทั่งหยุดร้องไห้ ก่อนแจ้งตำรวจ อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ประสานงานไปยังศูนย์ประชาบดี กรมประชาสงเคราะห์ให้มารับตัวเด็ก และได้สืบสวนสอบสวนติดตามหาแม่ใจร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
    เหตุสลดใจอีกรายเปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ร.ต.ท.ชวฤทธิ์ คงเหล่าสมบูรณ์ พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตภายในซอยสุวรรณประสิทธิ์ 3 ถนนนวมินทร์ 70 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
    ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวยกพื้นสูงไม่มีเลขที่ ปลูกติดกันหลายหลัง ใต้ถุนบ้านเป็นบ่อน้ำเสียท่วมขังลึกประมาณ 1 เมตร พบศพ ด.ช.เบญจพล ธัญนายก หรือน้องแมน อายุ 8 เดือนเศษ สภาพศพลอยคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว ไม่สวมกางเกง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง
    จากการสอบปากคำ น.ส.เกตุทิพย์ จันทร์ศรีไพร อายุ 28 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นมารดาของน้องแมน ให้การด้วยน้ำตานองหน้าว่า มีลูกทั้งหมด 3 คน น้องแมนเป็นลูกคนสุดท้อง อายุ 8 เดือนเศษ คลานเก่ง กำลังซนและกำลังหัดยืน ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าตรู่ได้นอนพักผ่อนอยู่กับนายสิงห์ ธัญนายก อายุ 32 ปี สามี และลูกสาวคนที่ 2 ส่วนลูกชายคนโตออกไปเล่นอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่เห็นน้องแมน จึงคิดว่าน่าจะคลานออกจากมุ้งในขณะที่ตนเผลอหลับไป
    “ตื่นมาตอน 7 โมงเช้าไม่เห็นน้องแมนแล้ว แต่ไม่เอะใจ นึกว่าคงไปเล่นกับพี่ชายคนโตหน้าบ้าน แต่พอลุกออกไปดูก็ไม่เห็น ตอนนั้นตกใจมาก รีบตระเวนถามคนแถวบ้านก็ไม่มีใครเห็น คิดว่าน้าคงจะพาไปกินโจ๊ก แต่ติดต่อน้าไม่ได้ จึงช่วยกันหาแถวใต้ถุนบ้านก็ยังหาไม่เจอ จนจะออกไปแจ้งความ แฟนลงไปหาใต้ถุนบ้านอีกรอบก็เห็นลูกลอยคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ ตรงกับช่องพื้นบ้านที่เปิดทิ้งไว้ รีบพาลูกมาส่งที่คลินิกแต่ไม่ทัน เพราะลูกตายไปแล้ว” น.ส.เกตุทิพย์กล่าวทั้งน้ำตา
    แม่เด็กเคราะห์ร้ายกล่าวด้วยว่า บริเวณพื้นห้องน้ำในบ้านเจาะเป็นช่องกว้างไว้ประมาณ 30 เซนติเมตร เนื่องจากเอาไว้ให้พ่อของตนใช้ขับถ่ายช่วงที่ป่วยเป็นอัมพาต แต่หลังจากพ่อเสียชีวิตแล้วก็ไม่ได้ปิดช่องดังกล่าว ที่ผ่านมาน้องแมนไม่เคยคลานไปเล่นบริเวณนั้น แต่เชื่อว่าคงคลานเล่นซุกซนไปเรื่อย กระทั่งตกลงไปในช่องดังกล่าวและจมน้ำเสียชีวิต
    ด้าน ร.ต.ท.ชวฤทธิ์กล่าวว่า เบื้องต้นสอบปากคำพ่อแม่ของเด็กอย่างละเอียดแล้ว สันนิษฐานได้ว่าในช่วงที่พ่อแม่เด็กเผลอนอนหลับ เด็กน่าจะคลานตกช่องพื้นบ้านที่เปิดทิ้งไว้ แล้วจมน้ำที่แอ่งน้ำใต้ถุนบ้านจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแก่พ่อแม่เด็ก

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    9 พ.ย. 51

    ภาพผลไม้ต่างประเทศ

    สมัยก่อนแตงโมจะมีรูปทรงกลม แต่ปัจจุบันต่างประเทศสามารถปลูกแตงโมเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาตร

    มีเพื่อนได้อุ้มผลไม้รูปร่างประหลาดมาให้หลายลูก รูปทรงคล้ายทรงกระบอก ผิวสีเขียวเหมือนผลไม้ทั่วไป บอกว่าเป็นน้อยหน่าเมืองนอก ผมไม่กล้ารับไว้แล้วก็เดินหนี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2008
  16. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    ปีนี้ได้ขึ้นไปทำบุญทอดกฐินที่วัดพระพุทธบาท ภูควายเงิน อ.เชียงคาน จ. เลย กับน้องสมาชิกที่อยู่ฝั่งธนฯ ได้ปัจจัยทั้งสิ้น 8,560 บาท ซื้อผ้าไตร 2 ไตร 1,400 บาท แบ่งปัจจัยทอดให้กับวัด ดอยคีรี อ.เมือง จ. ตาก 500 บาท เหลือปัจจัยสุทธิเข้าวัด 6,660 บาท

    ปัจจัยนี้ได้มาจาก สมาชิกที่อยู่ฝั่งธนฯ ดอนเมืองและขอนแก่น จึงเรียนมาให้ทราบและร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน

    ครั้งที่แล้ว ผมได้รวบรวมเงินจากการขายทองแดง เงินส่วนตัวและเพื่อนบ้านย่านดอนเมืองประมาณ 40,000 บาท อีกทั้งของญาติอาจารย์ที่ตามขึ้นไปสมทบ อีก ประมาณ 20,000บาท ได้ทำการติดตั้งระบบไฟฟ้าให้กับ ศาลารวมญาติธรรม เสร็จเป็นที่เรียบร้อย

    ครั้งนี้ตั้งใจจะหางบ 20,000 บาท เพื่อขึ้นไปติดตั้งรางน้ำให้กับตัวศาลา ซึ่งมีความยาวด้านละ 30 เมตร 2 ด้านโดยซื้อท่อเอสล่อน ขนาด 4 นิ้ว มาผ่าเป็นรางน้ำ แล้วจ้างช่างเชื่อมแถวบ้านทำวงแหวนมีแกนยึดติดกับข้างเชิงชายศาลา แล้วนำขึ้นไปติดตั้งเอง

    มีเพื่อนในเว็บแนะนำให้ผมให้คุณ คณานันท์ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ คราวที่เจอคุณ คณานันท์ผมเคยคุยเรื่องนี้แล้ว ท่านก็รับปาก ผมขอขอบคุณในความหวังดีของน้องๆหลายท่าน มา ณ.ที่นี้ด้วย แต่ผมคิดว่าอยากจะให้ผู้ที่ไปอยู่ด้วยเมื่อมีภัยมาช่วยกันออกเงินส่วนนี้และคิดว่าเป็นเงินไม่มาก

    เวลานี้รวบรวมได้แล้วประมาณ 8,000 บาท คิดว่าไม่นานคงครบ ถ้าไม่ครบคงต้องรอเงินของผมเองในเดือนตุลาคมปีหน้า เพราะจะได้เงินคืนจากประกันชีวิตแสนเศษ

    จุดประสงค์ของการทำรางน้ำคือ สำหรับผู้ที่เชื่อว่าจะเกิดภัยพิบัติในอนาคต จะซื้อแท็งค์น้ำขึ้นไปรองรับน้ำไว้ก่อน ถ้าไม่มีเหตุ ก็ถือว่าซื้อถวายวัด แต่ถ้ามีจริง เราจะมีน้ำใช้บนวัด เมื่อย้ายลงมาสู่ที่ราบเรายังสามารถนำมาใช้ต่อได้อีก
     
  17. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ต้องขอโทษที่ต้องเสนอความเห็น เกรงว่า เข้าใจผิดจะเป็นมิชฉาทิฐิ จิตใจเราอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ เช่นเดียวกับกาย คือ ไม่เที่ยง บังคับไม่ได้ เราจึงไม่สามารถบังคับให้ไม่โกรธได้ เพียงแค่เรามีสติรู้จิตใจ (รู้ทุกข์) ว่าโกรธ จะเกิดสัมมาสติ(จิตเป็นกุศลจิต)ความโกรธดับไป รู้ว่าโกรธก็ไม่เที่ยง มีเกิดแล้วก็มีดับ

    ควรตั้งใจว่าจะฝึกรู้กาย และรู้ใจ เท่าที่รู้ได้ยิ่งบ่อย ยิ่งดี หรือตั้งใจจะรักษาศีล5อย่างเคร่งครัดตามเวลาที่กำหนดก็ได้
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รวมคำเตือนเรื่อง "สึนามิฝั่งอ่าวไทย"

    ภูเขาไฟใต้น้ำใกล้จะระเบิด โดยคุณน้ำใส

    [​IMG]
    พระราชพิพัฒนาทร หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร

    ตอนเที่ยงวันนี้(24/09/2005) ผมไปทำบุญที่วัดปทุมฯ วันนี้โชคดีได้เจอหลวงพ่อถาวร ท่านอยู่พอดี ได้เรียนถามเรื่องเหตุเภทภัยที่ระยะนี้มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นถี่เหลือเกิน ท่านเมตตาฝากคำเตือนมา ผมจะเล่าให้ฟังดังนี้

    ตอนที่เรียนถามหลวงพ่อถาวรเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติต่างๆในช่วงนี้ หลวงพ่อท่านบอกว่า "น้ำ" ยังไม่น่ากลัว "ไฟ" ต่างหากที่น่ากลัวกว่า ที่ว่าไฟนั้นคือ ภูเขาไฟใต้น้ำระเบิด ท่านบอกว่าตอนนี้ภูเขาไฟทั่วโลกกำลังอยู่ในระยะอุ้มท้อง ท่านให้สังเกตว่าเมื่อตอนภูเขาไฟระเบิดใกล้จะคลอด ให้สังเกตดูตามสถานที่ๆมีบ่อน้ำพุร้อนนั่นแหละ มันจะปะทุขึ้นมาอย่างผิดปกติ บอกให้รู้ล่วงหน้าก่อน และ

    ตามพื้นที่ๆมีการขุดเจอพลอยและอัญมณีมากๆนั้น แสดงว่าเดิมเป็นแหล่งภูเขาไฟระเบิด เช่นที่เมืองกาญจนบุรี จันทบุรี และอีกที่หนึ่งใกล้ๆกรุงเทพมหานครนี่เอง เป็นที่ๆเราคิดไม่ถึงกัน นั่นคือ นครนายก สถานที่ๆรัฐบาลมีความคิดที่จะย้ายเมืองหลวงไปอยู่นั่นแหละครับ หลวงพ่อท่านบอกว่า ลองขุดลงไปดูเป็นบ่อพลอยบ่ออัญมณีอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีใครรู้นะครับ

    ผมเรียนถามท่านว่า อยู่ประเทศใดจึงปลอดภัยที่สุด แน่นอนครับ

    ท่านบอกว่าประเทศไทยนี่แหละครับ ดีที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ถึงเวลานั้น ผู้คนจะล้มตายกันมาก ที่ไม่ตายนั้นกึ่งหนึ่งก็จะเสียสติเป็นบ้าเป็นบอ ส่วนผู้ที่เจริญวิปัสสนาเจริญสติอยู่เป็นประจำ ก็สามารถคุ้มครองตนเองได้ไม่เป็นบ้าเสียสติ และจะกลายเป็นประชากรรุ่นบุกเบิกของคนยุคใหม่

    น้ำใส 24/09/2005 , 22:17:05


    "สมิทธ"เตือนพื้นที่จังหวัดชายทะเลริมฝั่งอ่าวไทยมีโอกาสเกิดสึนามิ

    [​IMG]

    อินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 49)--ประธานคณะกรรมการศึกษาระบบการเตือนภัยล่วงหน้า เผยนักวิชาการญี่ปุ่นคาดการณ์จังหวัดชายทะเลริมฝั่งอ่าวไทยอาจมีโอกาสได้รับผลกระทบจากคลื่นสูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร เนื่องจากครบรอบวัฏจักรตามธรรมชาติของเหตุแผ่นดินไหว ในบริเวณหมู่เกาะของประเทศฟิลิปปินส์

    "เคยเกิดภูเขาไฟระเบิดที่บริเวณหมู่เกาะทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อประมาณ 80-90 ปี ซึ่งขณะนี้ครบรอบวัฏจักร

    ซึ่งอาจจะทำให้เกิดคลื่นสึนามิในอ่าวไทยได้ และเมื่อ 30 ปีก่อนก็เคยเกิดคลื่นสูงขึ้นในอ่าวไทยมาแล้ว" นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานคณะกรรมการศึกษาระบบการเตือนภัยล่วงหน้า กล่าว

    ทั้งนี้ หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ประเทศฟิลิปปินส์จะได้รับผลกระทบจากคลื่นสูงประมาณ 15 เมตร ประเทศเวียดนามจะได้รับผลกระทบจากคลื่นสูง 8 เมตร ส่วนประเทศไทยได้รับผลกระทบจากคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับถนนหนทางบริเวณชายฝั่ง และน้ำทะเลหนุนเข้าสู่แม่น้ำลำคลองต่างๆ จนเกิดภาวะน้ำท่วมเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

    "ไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก เพียงแต่ให้รับฟังการเตือนภัยอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมเพื่อความไม่ประมาท เพราะแผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้" นายสมิทธ กล่าว

    ที่มา http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=6196

    'ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ' กับ 'คำทำนายคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย'

    [​IMG]
    ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ

    “การทำนาย ทุกครั้งก็ไม่ได้พูดส่งเดช แต่มีหลักความเป็นไปได้ ส่วนใหญ่จะมองจะวิเคราะห์เป็นรายปี ถามว่าเคยพลาดไหม ตรงนี้แหละที่แปลก อย่างเหตุการณ์พายุนาร์กีสที่พม่า แผ่นดินไหวที่จีน ก็เคยเตือนไว้ตอนปี 2548-2549 ว่ามันจะเกิด มันก็เกิดขึ้นในปี 2551 จริง ๆ”

    ปลายปี 2550 เตือนย้ำเรื่องพม่า จีน และต่อที่อินโดนีเซีย เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และกระทบถึง ศรีลังกากับอินเดีย ต่อเนื่องมาที่ลาว ซึ่งถ้าลาวแผ่นดินไหวไทยก็ต้องเจอ แต่ไม่รู้ว่าวงจรนี้จะเกิดเมื่อใด ?

    สำหรับคำทำนายที่เกี่ยวกับไทย ดร.กัญจีรา บอกว่า

    “สัญญาณอันตรายจะเกิดขึ้นด้วยคลื่นความถี่ ภาพภัยพิบัติล่าสุดที่เห็นคือ ภูเขาไฟในอินโดนีเซียปะทุและระเบิด เกิดคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย ไม่ใช่สึนามิ แต่จะเป็นคลื่นที่ระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมเข้ามาพร้อม กับพายุที่มีความรุนแรงกว่าปกติ คนที่อยู่แถวริมทะเลจะได้รับผลกระทบ อาทิ เพชรบุรี สมุทร ปราการ”

    ดร.กัญจีรา อธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า จากภาพที่เห็นตั้งสมมุติฐานว่าบริเวณอ่าวไทย เลียบชายฝั่งเป็นดินใหม่ที่มีโคลน เมื่อมีการขยับตัวของแผ่นดินเกาะสุมาตราก็จะมี ลักษณะเหมือนโดมิโน เมื่อตรงนี้ขยับตรงโน้นก็ขยับต่อทีละนิดไปเรื่อย ๆ ในอ่าวไทยมีหลุมใหญ่จากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ สูบน้ำมันมานาน 20-30 ปี ของเหลวถูกสูบขึ้นมา ความสมดุลของโลกก็สูญเสียไป ฉะนั้นแผ่นดินต้องเลื่อนลงไปทดแทน พื้นทรายทรุดตัวลงช้า ๆ สิ่งที่เข้าไปแทนที่คือ ทราย ฟองอากาศ พื้นดินจะขยับไปเรื่อย ๆ ซึ่งต้องมีผลกระทบ


    ที่มา http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?p=96245

    คำทำนายของ อ.คนเมืองบัว

    [​IMG]
    นาย เดชพูลศักดิ์ จารุพันธ์พานิช (คนเมืองบัว)

    ภัยที่น่าสะพรึงกลัวใหม่ๆ ได้แก่

    ๑. ภูเขาไฟระเบิดใต้น้ำ ในรอยแตกเดิม ที่มีความเหลื่อมล้ำของพื้นดินถึง ๔๐ เมตร ปากหลุมกว้าง ๑ กิโลเมตร ยาวเป็นพันเมตร ภูเขาไฟใหม่นี้อาจจะระเบิดต่อเนื่องเจ็ดวันเจ็ดคืนจึงดับ ทรัพยากรทางน้ำจะเสียหายมาก อิสลามกับคริสต์อาจจะตายเพิ่มขึ้นอีก เป็นล้านคน

    ๒. จะเกิดภัยสงครามมากขึ้นทั่วโลกแน่นอน ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่หลวงพ่อราชพรหมยานได้บอกไว้แล้วขอบเขตเท่านั้น คริสต์และอิสลามจะตายอย่างละครึ่งที่เหลือกลัวความตาย รอดได้ด้วยพุทธานุภาพหรือบุคคลที่เคยประกอบบุญกุศลเนื่องด้วยพุทธศาสนาส่วนใหญ่ จะเป็นบริวารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ที่หลงเหลืออยู่ จะได้แนวทาง แห่งมโนมยิทธิ สายวัดท่าซุงเป็นแนวทางหลักในการปฏิบัติ

    ลูกหลานของหลวงพ่อที่ได้มโนฯ จะช่วยกันเผยแพร่งานพระศาสนาอย่างยิ่งยวดไม่มีวันหยุดไม่เหน็ดไม่เหนื่อย พระพุทธศาสนา จึงจะรุ่งเรือง ถึงขีดสุด ส่วนสายปฏิบัติธรรมอื่นๆ นั้นก็ได้ช่วยกันบ้างพอสมควร แต่เนื่องด้วยว่าหลักคำสอนแต่ละสำนักนั้น ได้ให้ข้อธรรมที่วกวนขาดประเด็นสำคัญในการปฏิบัติ สิ่งใดอธิบายได้ให้เข้าใจง่าย ๆ ก็อธิบายให้วกวนยากเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ทันการ ต่อการตัดสินใจ เฉพาะหน้า จึงเป็นเหตุให้ ท่านเหล่านั้นปรับสภาพไม่ค่อยทันแก่เหตุการณ์นั่นเอง

    จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 11/5/2548 0:51:37

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2008
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บาร์เรน-กรากะตัวภูเขาไฟใกล้ไทยกำลังตื่น!
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่เขย่าโลกใบนี้ด้วยความรุนแรงขนาด 9.3 ริกเตอร์ และก่อให้เกิดคลื่นสึนามิคร่าชีวิตผู้คนไปนับแสน เมื่อเช้าวันที่ 26 ธันวาคม2547



    อาจไม่ใช่ภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดที่มนุษย์โลกต้องเผชิญ...หากเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่นำไปสู่หายนะของโลกครั้งใหม่ที่ยากเกินจะคาดเดา!
    นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกตั้งข้อสังเกตว่าหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ผ่านมา อาจมีส่วนทำให้การเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกมีความถี่เพิ่มขึ้น ขณะที่ใต้พิภพยังคุกรุ่นไปด้วยธารหินหนืดหลอมละลายจากแผ่นเปลือกโลกที่มุดลงใต้เปลือกโลก อาจจะพร้อมใจกันปลดปล่อยพลังงานความร้อนที่รุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์หลายพันเท่าออกมาตามปล่องภูเขาไฟที่เคยหลับไหลมาหลายร้อยปีได้

    สแตนกูสบี ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวและสึนามิจากศูนย์ Pacifle Disaster Warning Center (PDC) ประเทศสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าการเกิดแผ่นดินไหวที่มีความถี่สูงมากเช่นปัจจุบัน เป็นอาการปกติของการปะทุของภูเขาไฟ โดยเฉพาะภูเขาไฟที่ใกล้กับจุดที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม2547
    ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวและสึนามิฯหมายถึงภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเกาะบาร์เรนนั่นเอง ซึ่งกำลังปลดปล่อยธารลาวาและควันพิษที่เกิดจากเศษหินหลอมละลายพวยพุ่งอยู่กลางทะเลอันดามัน หากรอบๆ ภูเขาไฟใต้น้ำลูกนี้มีตะกอนสะสมอยู่เป็นปริมาณมาก การระเบิดของภูเขาไฟอย่างรุนแรงหรือเกิดแผ่นดินไหว อาจทำให้ตะกอนปริมาณมหาศาลเหล่านี้พังทลายลงอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดคลื่นสึนามิได้
    เฉกเช่นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี2541 เมื่อแผ่นดินไหวขนาด6.8 ริคเตอร์ทำให้เกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเลทางตอนเหนือของเกาะปาปัวนิวกินี เกิดคลื่นสึนามิสูง 7-10 เมตรซัดถล่มชายฝั่งทำให้ชาวปาปัวนิวกีนีเสียชีวิตเกือบ 3,000 คน
    ส่วน"บาร์เรน" เป็น1 ใน 3 ของภูเขาไฟที่หน่วยงานเกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติของไทยกำลังจับตาดูอยู่ ได้แก่ภูเขาไฟบาร์เรน ภูเขาไฟกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย และภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บริเวณแหลมญวน เพราะภูเขาไฟระเบิดแต่ละครั้งความรุนแรงไม่ได้อยู่ที่ธารลาวาร้อน (แมกม่า) หรือหินเดือดหลอมละลายใต้พิภพ แต่อาจเป็นอันตรายจากควันพิษ (ไพโรคลาสติก) หรือคลื่นสึนามิก็ได้
    สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีเหลือง2 จุดบนแผนที่เหนือเกาะนิโคบาร์แทนที่ตั้งภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรน ปรากฏอยู่บนโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ของ "วรวุฒิ ตันติวนิช" ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี ซึ่งระบุว่าภูเขาไฟลูกนี้เคยระเบิดมาแล้วเมื่อครั้งอดีต แต่เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กไม่ค่อยมีความสำคัญในสายตาของนักวิทยาศาสตร์โลก แต่บังเอิญว่าเป็นภูเขาไฟที่อยู่ใกล้ประเทศไทย
    วรวุฒิอธิบายว่า ภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ไปทางทิศตะวันออก มีประวัติการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้เป็นระยะๆ แต่ไม่รุนแรง ล่าสุดปี 2538 มีรายงานการปะทุและมีรายงานการพ่นลาวาออกมา
    อย่างไรก็ตามวรวุฒิ บอกว่า บนเกาะบาร์เรนไม่มีคนอยู่อาศัย จึงไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดมากเท่าไรนัก แต่ภูเขาไฟลูกนี้ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กังวลว่าหากเกิดการระเบิดอาจจะเกิดสึนามิ ซึ่งประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟลูกนี้ เพราะอยู่ใกล้ประเทศไทยมากกว่าภูเขาไฟลูกอื่นๆ
    "โดยส่วนตัวผมมองว่าภูเขาไฟลูกนี้ อาจจะระเบิดไม่รุนแรงเหมือนภูเขาไฟกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีความสูงใหญ่และมีพลังมากจนยอดปล่องพังทลายลงมาเมื่อครั้งระเบิดใหญ่ปี 2426 มีผู้เสียชีวิตนับหมื่นคน และเกิดคลื่นสึนามิ ปัจจุบันภูเขาไฟกรากะตัวกำลังฟอร์มตัวขึ้นอีกครั้ง จากการพ่นหมอกควันที่ประกอบด้วยหินขึ้นมาปกคลุมปากปล่องจนมีขนาดเกือบเท่าของเดิมแล้ว และอาจจะระเบิดรุนแรงอีกครั้งก็ได้"
    ทั้งนี้ภูเขาไฟกรากะตัว ตั้งอยู่บนเกาะชื่อเดียวภูเขาไฟอยู่ระหว่างเกาะสุมาตรากับเกาะชวา เคยเกิดระเบิดเล็กๆน้อยๆ หลายครั้ง แต่เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในปี2224 และอีก200 ปีต่อมา วันที่ 20 พฤษภาคม 2426 ก็เกิดระเบิดเสียงดังกึกก้อง ปล่อยเถ้าถ่านควันไฟออกมาต่อเนื่องจนถึงวันที่ 26 สิงหาคมปีเดียวกันเกิดระเบิดรุนแรงอีกครั้งจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน
    ...เสียงกัมปนาทจากปล่องภูเขาไฟดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ยอดปล่องภูเขาไฟพังทลายลงมา ธารลาวาสีแดงเพลิงไหลท่วมหมู่บ้าน 163 แห่ง มีผู้เสียชีวิตราวๆ 36,000 คน
    "หากภูเขาไฟที่เกาะบาร์เรนระเบิดรุนแรงจนทำให้ภูเขาไฟถล่ม และมีบางส่วนพังทลายลงมาอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 1-2 เมตรเกิดขึ้นที่ชายฝั่งไทย แม้ว่าคลื่นจะดูไม่สูงมาก แต่อาจสร้างความเสียหายได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเฝ้าระวังการระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้อยู่" วรวุฒิบอก
    อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 มีรายงานการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนที่อยู่ห่างจากเกาะนิโคบาร์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 135 กิโลเมตร ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟระเบิดจากประเทศอินเดีย ลงไปสำรวจร่องรอยการระเบิดครั้งใหม่ในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบลาวาและหินระเบิดพุ่งออกมาอย่างรุนแรงจากปล่องภูเขาไฟ มีอุณหภูมิตั้งแต่ 900 ถึงมากกว่า 1,200 องศาเซลเซียส พร้อมด้วยฝุ่นหินของลาวาที่ร้อนแรงพุ่งออกมาจากปล่องสูงถึง 100 เมตร นานกว่า 15-30 วินาที หมอกควันที่ระเบิดออกมา มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดใหญ่ๆ ที่มีทิศทางพุ่งไปทางเหนือ
    นอกจากนี้วรวุฒิ ยังระบุถึง ภูเขาไฟอีกลูกที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิชายฝั่งอ่าวไทย นั่นคือ ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณปลายแหลมญวน หากระเบิดขึ้นมาอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ แต่ตอนนี้ยังสบายใจได้ เพราะภูเขาไฟลูกนี้ยังสงบเงียบอยู่ แต่ขณะเดียวกันภูเขาไฟกรากะตัวที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วย ยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะหากภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดอีกครั้งอาจทำให้เกิดสึนามิได้เช่นกัน
    "ภูเขาไฟใต้ทะเลอาจมีการปลดปล่อยพลังงานออกมาตลอดเวลา และอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะที่ภูเขาไฟรอบๆ ประเทศไทยก็ปล่อยเถ้าถ่านที่เป็นพิษปกคลุมพื้นที่ 3-4 จังหวัดภาคใต้ของไทย"ดร.สมิทธธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ย้ำถึงภัยพิบัติจากภูเขาไฟระเบิด
    แม้ว่าภูเขาไฟของไทยทั้ง8 แห่งจะดับสนิทหมดแล้ว แต่ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับภูเขาไฟที่อาจระเบิดได้ในทุกนาที รวมถึงภูเขาไฟใต้ท้องทะเลที่อยู่โดยรอบประเทศไทยด้วย
    ดร.สมิทธเล่าให้ฟังว่า มีนักสำรวจทะเลชาวรัสเซียให้ข้อมูลการค้นพบภูเขาดินหลายลูกใต้ทะเลแถวๆบังกลาเทศ มีขนาดเล็กและใหญ่ต่างกัน เกิดจากการตกตะกอนของแม่น้ำ อยู่ห่างจากประเทศไทย 340 กิโลเมตร พวกเขาเตือนว่าหากภูเขาดินเหล่านี้ถล่มอาจเกิดคลื่นสึนามิโดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร
    "ศูนย์เตือนภัยได้ของบประมาณปีนี้กว่า 100 ล้านบาทเพื่อซื้อทุ่นตรวจวัดการเกิดคลื่นสึนามิเพิ่มอีก 2 ทุ่น เมื่อเกิดคลื่นสึนามิจะได้เตือนทัน แม้ว่าการติดตั้งทุนจะเตือนภัยล่วงหน้าเพียงแค่ 30 นาทีก็ยังดีกว่าไม่มีการเตือนภัยใดๆ" ดร.สมิทธกล่าวทิ้งท้าย
    ----------------
    ภาพการระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะเธราหรือซานโตนีประเทศกรีก เมื่อราว 1,600 ปีก่อนคริสตกาล ถูกนำเสนอผ่านทรูวิชั่นส์-ยูบีซีช่อง 45 เมื่อค่ำวันหนึ่งกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทีมสำรวจของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ใช้เรือดำน้ำ ขนาด 2 ตัน ลงไปเก็บตัวอย่างซากหินและเศษตะกอนภูเขาไฟที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 3,600 ปีก่อน เพื่อค้นหาปริศนาของภูเขาไฟระเบิดครั้งประวัติศาสตร์ ที่มีความรุนแรงกว่าการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวหลายร้อยเท่านัก
    ทั้งนี้แรงระเบิดจากภูเขาไฟบนเกาะซานโตนี มีความรุนแรงมากจนทำให้ปล่องภูเขาไฟแตกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้ภูเขาไฟขนาดมหึมาจมสู่ก้นทะเลลึก และก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สูงร่วม 30 เมตรซัดถล่มเกาะครีทซึ่งอยู่ห่างออกไปร่วม 100 กิโลเมตร จนทำให้อาณาจักรไมนวลที่เคยเจริญรุ่งเรืองที่สุดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนต้องสิ้นสุดลง
    เมื่อย้อนกลับมาสู่ยุคปัจจุบันที่มนุษย์กำลังหาวิธีรับมือกับภัยธรรมชาติทุกรูปแบบที่กำลังถาโถมเข้ามาในศตวรรษนี้ และเริ่มมีข่าวลือหนาหูถึงเรื่องคำทำนายวันสิ้นโลก ท่ามกลางสถานการณ์แผ่นดินไหวถี่และรุนแรงขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับการเกิดภูเขาไฟระเบิด อาจกลายเป็นภัยพิบัติอีกชนิดที่สั่นคลอนชีวิตมนุษย์ได้
    ภูเขาหินยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยแมกม่าจากหินหลอมละลายใต้พิภพเกือบ200 แห่งทั่วโลกอาจกำลังถูกปลุกด้วยการขยับตัวของแผ่นเปลือกโลก ฤา...ใกล้ถึงวงรอบการระเบิดของภูเขาไฟครั้งประวัติศาสตร์ที่จะย้อนมากลืนอารยธรรมของมนุษย์อีกครั้ง!

    ทีมข่าวรายงานพิเศษ: เรื่อง
    เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก-อินเทอร์เน็ต: ภาพ
    -------------------
    Sidebar 1
    ภูเขาไฟในไทย

    ประเทศไทยเคยมีภูเขาไฟที่ปะทุและเกิดการระเบิดมาแล้ว8 แห่ง อยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ 6 แห่ง ได้แก่ ภูเขาไฟหินพนมรุ้ง ที่ตั้งของปราสาทหินพนมรุ้ง ภูเขาไฟอังคาร ภูเขาไฟหินหลุบ ภูเขาไฟกระโดง ภูเขาไฟไบรบัด และภูเขาไฟคอก ส่วนอีก 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ จ.ลำปาง ได้แก่ ภูเขาไฟดอยผาดอกจำปาแดด และภูเขาไฟดอยหินคอกผาฟู โดยภูเขาไฟทั้งหมดดับสนิทหมดแล้ว
    โดยภูเขาไฟลูกสุดท้ายของไทยสิ้นฤทธิ์ไปเมื่อ7 แสนปีก่อน!?!
    ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาบอกว่า การระเบิดของภูเขาไฟในไทยทั้ง 8 แห่งนั้น ไม่มีความรุนแรง เพราะลาวาชนิดบะซอลต์ มีส่วนประกอบของเหล็กและแมงกานีส ซึ่งมีความหนืดต่ำ ไหลง่าย เหมือนลาวาภูเขาไฟที่ฮาวาย แตกต่างจากภูเขาไฟที่อินโดนีเซียหรือกรีซ ซึ่งลาวาจะเป็นหินหนืดไหลช้า จะไปกีดขวางทางไหลของลาวาและมีการสะสมแรงดันเอาไว้ ทำให้มีการปะทุและระเบิดที่รุนแรงนั่นเอง
    อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตจากภัยภูเขาไฟระเบิดไม่ใช่ ลาวา แต่เป็นผ้าห่มแห่งหมอกควันพิษที่เรียกว่า "ไพโรคลาสติก" ที่ประกอบด้วยควันพิษและเศษหินร้อนเคลื่อนที่เร็วไหลลงมาถล่มทับหมู่บ้านเบื้องล่าง อย่างที่เคยเกิดขึ้นที่"เมืองปอมเปอี" คราวที่ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดเมื่อปี 622

    -----------------
    Sidebar 2
    บันทึก...ปฐพีเดือดครั้งสำคัญ

    - ปี622 ภูเขาไฟวิสุเวียส ประเทศอิตาลี มีผู้เสียชีวิตราว16,000 คน
    - ปี1712 ภูเขาไฟเอ็ตนาเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี มีผู้เสียชวิตราว15,000 คน
    - ปี2174 ภูเขาไฟวิสุเวียสประเทศอิตาลี มีผู้เสียชีวิตราว 4,000 คน
    - ปี2212 ภูเขาไฟเอ็ตนาเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี มีผู้เสียชีวิตราว 20,000 คน
    - ปี2315 ภูเขาไฟปาปันดายัง ประเทศอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตราว 3,000 คน
    - ปี2335 ภูเขาไฟอุนเซ็นดาเกะ ประเทศญี่ปุ่น มีผู้เสีนชีวิตราว10,400 คน
    - ปี2358 ภูเขาไฟแทมโบโลประเทศอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตราว12,000 คน และยังทำให้ปี2359 ไม่มีฤดูร้อนอีกด้วย
    - วันที่26-28 สิงหาคม2426 ภูเขาไฟกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตราว 36,000 คน
    - วันที่8 เมษาย 2445 ภูเขาไฟซานตามาเรียประเทศกัวเตมาลา มีผู้เสียชีวิตราว 1,000 คน
    - วันที่8 พฤษภาคม 2445 ภูเขาไฟปิเล เกาะมาร์ตินีกมีผู้เสียชีวิตราว 10,000 คน
    -->
    [​IMG]

    หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่เขย่าโลกใบนี้ด้วยความรุนแรงขนาด 9.3 ริกเตอร์ และก่อให้เกิดคลื่นสึนามิคร่าชีวิตผู้คนไปนับแสน เมื่อเช้าวันที่ 26 ธันวาคม2547

    [​IMG]


    อาจไม่ใช่ภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดที่มนุษย์โลกต้องเผชิญ...หากเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่นำไปสู่หายนะของโลกครั้งใหม่ที่ยากเกินจะคาดเดา!

    นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกตั้งข้อสังเกตว่าหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ผ่านมา อาจมีส่วนทำให้การเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกมีความถี่เพิ่มขึ้น ขณะที่ใต้พิภพยังคุกรุ่นไปด้วยธารหินหนืดหลอมละลายจากแผ่นเปลือกโลกที่มุดลงใต้เปลือกโลก อาจจะพร้อมใจกันปลดปล่อยพลังงานความร้อนที่รุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์หลายพันเท่าออกมาตามปล่องภูเขาไฟที่เคยหลับไหลมาหลายร้อยปีได้

    [​IMG]

    สแตนกูสบี ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวและสึนามิจากศูนย์ Pacifle Disaster Warning Center (PDC) ประเทศสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าการเกิดแผ่นดินไหวที่มีความถี่สูงมากเช่นปัจจุบัน เป็นอาการปกติของการปะทุของภูเขาไฟ โดยเฉพาะภูเขาไฟที่ใกล้กับจุดที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม2547

    ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวและสึนามิฯหมายถึงภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเกาะบาร์เรนนั่นเอง ซึ่งกำลังปลดปล่อยธารลาวาและควันพิษที่เกิดจากเศษหินหลอมละลายพวยพุ่งอยู่กลางทะเลอันดามัน หากรอบๆ ภูเขาไฟใต้น้ำลูกนี้มีตะกอนสะสมอยู่เป็นปริมาณมาก การระเบิดของภูเขาไฟอย่างรุนแรงหรือเกิดแผ่นดินไหว อาจทำให้ตะกอนปริมาณมหาศาลเหล่านี้พังทลายลงอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดคลื่นสึนามิได้ เฉกเช่นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี2541 เมื่อแผ่นดินไหวขนาด6.8 ริคเตอร์ทำให้เกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเลทางตอนเหนือของเกาะปาปัวนิวกินี เกิดคลื่นสึนามิสูง 7-10 เมตรซัดถล่มชายฝั่งทำให้ชาวปาปัวนิวกีนีเสียชีวิตเกือบ 3,000 คน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ส่วน"บาร์เรน" เป็น1 ใน 3 ของภูเขาไฟที่หน่วยงานเกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติของไทยกำลังจับตาดูอยู่ ได้แก่ภูเขาไฟบาร์เรน ภูเขาไฟกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย และภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บริเวณแหลมญวน เพราะภูเขาไฟระเบิดแต่ละครั้งความรุนแรงไม่ได้อยู่ที่ธารลาวาร้อน (แมกม่า) หรือหินเดือดหลอมละลายใต้พิภพ แต่อาจเป็นอันตรายจากควันพิษ (ไพโรคลาสติก) หรือคลื่นสึนามิก็ได้

    สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีเหลือง2 จุดบนแผนที่เหนือเกาะนิโคบาร์แทนที่ตั้งภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรน ปรากฏอยู่บนโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ของ "วรวุฒิ ตันติวนิช" ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี ซึ่งระบุว่าภูเขาไฟลูกนี้เคยระเบิดมาแล้วเมื่อครั้งอดีต แต่เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กไม่ค่อยมีความสำคัญในสายตาของนักวิทยาศาสตร์โลก แต่บังเอิญว่าเป็นภูเขาไฟที่อยู่ใกล้ประเทศไทย

    วรวุฒิอธิบายว่า ภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ไปทางทิศตะวันออก มีประวัติการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้เป็นระยะๆ แต่ไม่รุนแรง ล่าสุดปี 2538 มีรายงานการปะทุและมีรายงานการพ่นลาวาออกมา

    [​IMG]


    อย่างไรก็ตามวรวุฒิ บอกว่า บนเกาะบาร์เรนไม่มีคนอยู่อาศัย จึงไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดมากเท่าไรนัก แต่ภูเขาไฟลูกนี้ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กังวลว่าหากเกิดการระเบิดอาจจะเกิดสึนามิ ซึ่งประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟลูกนี้ เพราะอยู่ใกล้ประเทศไทยมากกว่าภูเขาไฟลูกอื่นๆ

    "โดยส่วนตัวผมมองว่าภูเขาไฟลูกนี้ อาจจะระเบิดไม่รุนแรงเหมือนภูเขาไฟกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีความสูงใหญ่และมีพลังมากจนยอดปล่องพังทลายลงมาเมื่อครั้งระเบิดใหญ่ปี 2426 มีผู้เสียชีวิตนับหมื่นคน และเกิดคลื่นสึนามิ ปัจจุบันภูเขาไฟกรากะตัวกำลังฟอร์มตัวขึ้นอีกครั้ง จากการพ่นหมอกควันที่ประกอบด้วยหินขึ้นมาปกคลุมปากปล่องจนมีขนาดเกือบเท่าของเดิมแล้ว และอาจจะระเบิดรุนแรงอีกครั้งก็ได้"

    ทั้งนี้ภูเขาไฟกรากะตัว ตั้งอยู่บนเกาะชื่อเดียวภูเขาไฟอยู่ระหว่างเกาะสุมาตรากับเกาะชวา เคยเกิดระเบิดเล็กๆน้อยๆ หลายครั้ง แต่เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในปี2224 และอีก200 ปีต่อมา วันที่ 20 พฤษภาคม 2426 ก็เกิดระเบิดเสียงดังกึกก้อง ปล่อยเถ้าถ่านควันไฟออกมาต่อเนื่องจนถึงวันที่ 26 สิงหาคมปีเดียวกันเกิดระเบิดรุนแรงอีกครั้งจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน

    [​IMG]


    ...เสียงกัมปนาทจากปล่องภูเขาไฟดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ยอดปล่องภูเขาไฟพังทลายลงมา ธารลาวาสีแดงเพลิงไหลท่วมหมู่บ้าน 163 แห่ง มีผู้เสียชีวิตราวๆ 36,000 คน

    "หากภูเขาไฟที่เกาะบาร์เรนระเบิดรุนแรงจนทำให้ภูเขาไฟถล่ม และมีบางส่วนพังทลายลงมาอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 1-2 เมตรเกิดขึ้นที่ชายฝั่งไทย แม้ว่าคลื่นจะดูไม่สูงมาก แต่อาจสร้างความเสียหายได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเฝ้าระวังการระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้อยู่" วรวุฒิบอก

    อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 มีรายงานการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนที่อยู่ห่างจากเกาะนิโคบาร์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 135 กิโลเมตร ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟระเบิดจากประเทศอินเดีย ลงไปสำรวจร่องรอยการระเบิดครั้งใหม่ในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบลาวาและหินระเบิดพุ่งออกมาอย่างรุนแรงจากปล่องภูเขาไฟ มีอุณหภูมิตั้งแต่ 900 ถึงมากกว่า 1,200 องศาเซลเซียส พร้อมด้วยฝุ่นหินของลาวาที่ร้อนแรงพุ่งออกมาจากปล่องสูงถึง 100 เมตร นานกว่า 15-30 วินาที หมอกควันที่ระเบิดออกมา มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดใหญ่ๆ ที่มีทิศทางพุ่งไปทางเหนือ

    นอกจากนี้วรวุฒิ ยังระบุถึง ภูเขาไฟอีกลูกที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิชายฝั่งอ่าวไทย นั่นคือ ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณปลายแหลมญวน หากระเบิดขึ้นมาอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ แต่ตอนนี้ยังสบายใจได้ เพราะภูเขาไฟลูกนี้ยังสงบเงียบอยู่ แต่ขณะเดียวกันภูเขาไฟกรากะตัวที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วย ยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะหากภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดอีกครั้งอาจทำให้เกิดสึนามิได้เช่นกัน

    "ภูเขาไฟใต้ทะเลอาจมีการปลดปล่อยพลังงานออกมาตลอดเวลา และอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะที่ภูเขาไฟรอบๆ ประเทศไทยก็ปล่อยเถ้าถ่านที่เป็นพิษปกคลุมพื้นที่ 3-4 จังหวัดภาคใต้ของไทย"ดร.สมิทธธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ย้ำถึงภัยพิบัติจากภูเขาไฟระเบิด แม้ว่าภูเขาไฟของไทยทั้ง 8 แห่งจะดับสนิทหมดแล้ว แต่ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับภูเขาไฟที่อาจระเบิดได้ในทุกนาที รวมถึงภูเขาไฟใต้ท้องทะเลที่อยู่โดยรอบประเทศไทยด้วย

    ดร.สมิทธเล่าให้ฟังว่า มีนักสำรวจทะเลชาวรัสเซียให้ข้อมูลการค้นพบภูเขาดินหลายลูกใต้ทะเลแถวๆบังกลาเทศ มีขนาดเล็กและใหญ่ต่างกัน เกิดจากการตกตะกอนของแม่น้ำ อยู่ห่างจากประเทศไทย 340 กิโลเมตร พวกเขาเตือนว่าหากภูเขาดินเหล่านี้ถล่มอาจเกิดคลื่นสึนามิโดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร

    "ศูนย์เตือนภัยได้ของบประมาณปีนี้กว่า 100 ล้านบาทเพื่อซื้อทุ่นตรวจวัดการเกิดคลื่นสึนามิเพิ่มอีก 2 ทุ่น เมื่อเกิดคลื่นสึนามิจะได้เตือนทัน แม้ว่าการติดตั้งทุนจะเตือนภัยล่วงหน้าเพียงแค่ 30 นาทีก็ยังดีกว่าไม่มีการเตือนภัยใดๆ" ดร.สมิทธกล่าวทิ้งท้าย

    บทความจากคุณ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ </SPAN>วันที่ 2007-08-29 20:59:49

    ที่มา http://www.waddeeja.com/index.php?l...how&Category=waddeejacom&thispage=4&No=393748
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2008
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    ถ้าเราเชื่อว่า... เราบังคับความโกรธ บังคับตัวเราไม่ให้โกรธไม่ได้
    ความเชื่อนี้... จะสร้างกำแพงปิดกั้น ความสามารถของเราเอง

    เมื่อก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้พบสัจจะ
    ข้าพเจ้าก็โกรธ โมโห เหมือนกัน
    แต่หลังจากมีสัจจะ นำชีวิต ไม่โกรธ วันละชั่วโมง ฝึกเป็นเดือน เป็นปีไปเรื่อยๆ
    ปัจจุบัน ข้าพเจ้าก็บังคับตัวเองไม่ให้โกรธได้
    เพราะ ไม่รู้จะไปโกรธทำไม ไม่มีประโยชน์ มีแต่ผลไม่ดีตามมา

    อยู่ที่เราเชื่ออะไร...อะไรน่าจะดีกว่า เป็นประโยชน์ ไม่มีพิษ ไม่มีโทษ ก็น่าจะทดลองทำ
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...