ถ้าภัยพิบัติมาถึง

ฮือๆ.. โดนคุณครูดุแย้ว

มาทำดีไถโทษนะฮับ คุณครู

อุณหภูมิที่อันตรายมากๆสำหรับคนไม่มีประสบการณ์
คืออุณหภูมิระดับ sub zero ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสีย
ร้ายแรงต่อร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นพิการและ
เสียชีวิต ขั้นพิการก็หิมะกัด ซึ่งแม้ไม่มีหิมะแต่อยู่ใน
อุณหภูมิ sub zero นานๆก็เกิดอาการได้ มีสาเหตุ
จากน้ำเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำแข็งในระดับเซลล์ ทำลาย
เซลล์อย่างถาวร จึงมักรักษาไม่ได้ ต้องตัดทิ้งให้
หมดจรด ที่สำคัญคือแพทย์ไทยไม่มีประสบการณ์
รักษา

อาคารบ้านเรือนก็ต้องสร้างขึ้นอย่างมีความรู้และ
เตรียมรับอากาศหนาวตั้งแต่ต้น บ้านในเมืองไทย
ทั้งหมดเป็นบ้านที่สร้างเพื่อรองรับอากาศร้อนแต่
ประการเดียว หากอากาศหนาวจัดขึ้นมาจะใช้ไม่ได้
ซ้ำจะเป็นโทษ เพราะอยู่ในบ้านอุณหภูมิจะต่ำกว่า
อยู่นอกบ้าน ด้วยออกแบบอย่างมีเป้าหมายเช่นนั้น

 

เตรียมใจพร้อมพอสมควรแล้ว (หลังวิตกกังวลได้พักใหญ๋ เพราะบังเอิญฝันกลายเป็นจริง) แต่ก็ไม่ประมาทยังคงเตรียมใจอยู่ตลอดเวลา
บัดนี้...ได้เวลาเตรียมกาย และเตรียมแผนแล้ว ...
ส่วนเตรียมข้าวของขอเวลาอีกสักพัก...หากได้รับสัญญาณล่วงสัก 1 เดือน ก็คงเตรียมทัน
(ใครจะว่างมง่ายก็ช่าง...ถ้าไม่เกิดเหตุก็นำมาหมุนเวียนใช้ทุก 3 เดือนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ)
...คนเราส่วนใหญ่ หากอยากตายมักจะไม่ตาย...แต่ไม่อยากตาย มักต้องตาย..
จึงต้องเตรียมการไว้เผื่อมีชีวิตอยู่ต่อ...ไม่ต้องทุกข์ทรมานมากค่ะ...
...ขออนุโมทนากับจิตที่เป็นกุศลของคุณ sutatip_p และทุกๆท่านด้วยนะคะ...

 

(deejai) (deejai)

 

เหตุการณ์ภัย มักจะมาถึงตัวเราแบบไม่รู้ เล่นงานเราตอนเผลอ หรือเราไม่ระวังตัว ประสบการณ์ของผม คือ ทุกครั้งที่ออกลาดตระเวน เมื่อพักแรมในป่า ปกติเราจะวางกับดักพวกสัญญาณเตือนภัย และกับระเบิดควบคุมด้วยคน แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งวันนั้นฝนตก กินข้าวเสร็จนอนเลย มีแต่ยามลาดตระเวนรอบที่พัก จึงไม่วางกับดักสัญญาณเตือนภัยและกับระเบิดเพื่อป้องกันในเวลากลางคืน ปรากฏคืนนั้น ถูกผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีที่พักแรม ผมเองและพรรคพวกต้องถอนตัวและลอยคอข้ามลำน้ำกลางดึกคืนนั้น เพื่อหนีการปิดล้อมของผู้ก่อการร้าย

 

เมื่อคืนประมาณตี สอง อุณหภูมินอกบ้าน ลดต่ำลงไปถึง 22 องศาครับ นับว่าไม่ธรรมดาเลย

กรุงเทพนะครับ

การที่อุณหภูมิมีค่าต่างกันมากๆ ทำให้เกิดมีโอกาสที่จะมีพายุได้

 

คุยกับแฟนกระทู้นี้

เมื่อวานได้ไปรับประทานอาหารกับหลายท่าน
มีท่านสมาชิกผู้ใหญ่เป็นเจ้าภาพ บอกว่าให้น้องๆได้พบหน้าและแลกข่าวสารกัน ขอกราบอนุโมทนาบุญท่านค่ะ

สองสามท่านฝันแปลกๆในคืนวันพระ (พุธที่ผ่านมา)
คนหนึ่งเห็นภาพการแถลงข่าวหลุมน้ำท่วมในประเทศจีน มีแผนที่ด้วย
<table id="post1313529" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 12:17 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1762 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> nuttadet <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1313529", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 12:33 PM
วันที่สมัคร: Mar 2007
อายุ: 24
ข้อความ: 649
Groans: 1
Groaned at 5 Times in 4 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 3,256
ได้รับอนุโมทนา 8,649 ครั้ง ใน 629 โพส
พลังการให้คะแนน: 397


</td> <td class="alt1" id="td_post_1313529" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> คืนวันก่อน ฝันเหมือนกับเรานั่งดูข่าวตามทีวี แล้วมีพิธีกร รายการมาอธิบาย แผนผัง
ซึ่งแผนผังที่เห็น เป็นภูมิประเทศของประเทศจีน โดยในภาพจะมีบอกด้วยว่าแม่น้ำที่
เคยเป็นสาย แผ่นดินไหวทำให้ดินไปกลบทางไหลของน้ำ ขาดเป็นช่วงๆ แล้วช่วงที่
น่ากลัวที่สุดคือ ช่วงที่อพยพประชาชนในพื้นที่แถวนั้นไปแล้ว ล้านกว่าคน ซึ่งมีแนวโน้ม
ว่าน้ำจะทะลักออกมา แล้วพิธีกรก็บอกอีกว่าตอนนี้มีพายุอีกลูกหนึ่งที่กำลังจะมาเพิ่ม
ปริมาณน้ำให้เพิ่มขึ้นได้
</td></tr></tbody></table>
อีกคนหนึ่งเห็นภาพภูเขาเลื่อน ยุบตัวลง แล้วน้ำก็ท้นออกมา

ตามสภาพการณ์จากที่หลวงพ่อในป่าพูดไว้ น่าจะเป็นน้ำบ่าจากเมืองจีน
วันก่อนลุกศิษย์หลวงพ่อส่งข่าว ท่านไปตามญาติจากอุดรให้มาอยู่เพชรบูรณ์ด่วน บอกว่าเดี๋ยวน้ำล้นโขง

รวมทั้งคุณธนพลเจ้าของโรงหล่อพระฝันเห็นชายชุดขาว มาบอกว่าต้องหล่อพระอุปคุตไปไว้ที่สามเหลี่ยมทองคำและหนองคายจึงจะถูกที่ (ริมโขงทั้งสองแห่ง) องค์สามเหลี่ยมทองคำขาดปัจจัยอีกราวหนึ่งหมื่นบาท อีกองค์ยังไม่ได้เริ่มบอกบุญเลย (จะทันไหมนี่)

ปีนี้ยังไม่ทันเริ่มจริงๆน้ำก็เยอะมากแล้ว
น.เจ้าพระยาน้ำเป็นตะกอนโคลนสีเหลืองมาร่วมเดือนแล้ว เป็นน้ำเหนือชะดินลงมา
ดินชุ่มน้ำแล้ว เกิด land slide ได้ง่ายมากเพราะรับน้ำหนักไม่ได้เลย
อาจเป้นน้ำล้นโขง ฝนตกดินเลื่อน หรือ megastorm ก็ได้

ดร. สมิทธก็เติอนเรื่องแผ่นดินไหวกับพายุ
ถามสมาชิกว่า เตรียมเป้หนีน้ำไว้บ้างหรือยังคะ

 

อย่างนี้อุดรต้องระวังนะครับอาจารย์
ผมอยู่อุดรซะด้วยสิ ไม่รู้ว่าผลกระทบแค่ไหน
นานเท่าไร?
แต่ช่วงนี้ผมฝันเห็นน้ำเยอะมาก และจระเข้ตัวหย่ายๆ ด้วยสิ ???

 

ที่บ้านผมมีเรื่องแบบนี้ แอร์บ้านผมตั้งไว้ที่ 25 องศา แต่ปรากฏว่ากลางดึก เวลาประมาณ 02-03 น. ปรากฏหนาวมากจนผมคลุมโปง จนแฟนสะกิดบอกหนาวก็ไปปิดแอร์ พอเงยดูแอร์ ปรากฏตัวเลข 23 องศา ผมงง ทำไมอุณหภูมิถึงต่ำกว่าที่ตั้งไว้

 

เมื่อคืนแม้ไม่มีเมฆฝน แต่อุณหภูมิสูงขึ้นเพื่อยกขึ้น

[music]http://203.130.131.118/sound/Untitle3.mp3[/music]

 

เล่าเรื่องฝันให้ฟังหน่อยขา

ว่าแต่ว่า ตอนนี้กำลังทำโปรเจคหล่อหลวงปู่อุปคุตทองเหลือง ๕ นิ้ว สัก ๑๐๐ องค์
คงให้บูชาราว ๑๒๐๐ บาท
จะเอารายได้ไปสร้างหลวงปู่อุปคุตกันน้ำล้นโขงที่หนองคาย
อาทิตย์หน้าจะลงรูปและเปิดกระทู้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญณรงค์คนต้นคิด
ชวนเพื่อนฝูงมาเช่าบูชาด้วยน้อ

 

พักนี้เดินแบกของสักพักก็เหนื่อย (เวลาหิ้วถุงอาหารสดและของจากแมคโครจากรถขึ้นบ้าน)
เห็นคุณยาล้างตาพูดว่า จะแบกของกันอย่างไร

วันก่อนไปโลตัส เห็นกระเป๋าสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีล้อใบเขื่อง ราคาแค่ ๒๔๙ บาท
เลยซื้อมาใบหนึ่ง จะใส่อาหารแห้ง เผื่อเด็กๆ
ถ้าน้ำมันหมด เงินหมด (เพราะมีน้อย) ก็คงต้องเดิน
ลากล้อก็ยังดี

เดี๋ยวนี้แถวประตูน้ำมีถุงพลาสติกติดล้อใบโตๆ ราคาไม่แพง ลายมิกกี้เมาส์และอื่นๆ
เขาไว้ใส่เสื้อผ้าที่ซื้อไปขาย
มีหลายขนาด
แต่คงรับน้ำหนักไม่ได้มาก
ลองพิจารณากันดูนะคะ

 

ข้อมูลจากคุณ Well rider นานแล้ว

"ครูบาอาจารย์บางท่าน ซึ่งเป็นฆราวาส และเป็นผู้ปฏิบัติธรรมให้ความเห็นรุนแรงว่า ต้องอพยพออกจากรุงเทพฯ ภายในเดือนมีนาคม 2551 เพื่อไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ที่ปลอดภัย โดยท่านขอให้เตรียมอุปกรณ์ ของกิน ของใช้กักตุนให้มาก พอ 3 – 6 เดือน และต้องเตรียมสถานที่อยู่อาศัยให้พร้อมในพื้นที่ซึ่งฝนตก 7 วัน 7 คืน น้ำก็ไม่ท่วมขัง เพียงไหลผ่าน โดยต้องเตรียมให้พร้อมภายในเดือนมกราคม 2551 ถ้าไม่มีภารกิจใดๆ ในกรุงเทพฯ หรือสละอาชีพเก่าในกรุงเทพฯ ไปหาอาชีพใหม่ หรือ โอนย้ายไปอยู่ในภาคอิสาน หรือภาคเหนือ อย่างน้อยภาคกลางตอนบน ถ้าทำได้ ก็จะเป็นการดีให้เริ่มอพยพหรือโยกย้ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2551 จะเป็นการเหมาะสมกว่า (แต่ระวังการเดินทางโดย เครื่องบิน เพราะกระแสแม่เหล็กโลก กำลังปรวนแปร พายุสุริยะกำลังเข้ามาในบรรยากาศของโลก โปรดติดตามข่าวเครื่องบินตกจะมีมากขึ้น)

แต่ถ้ารั้งรอการอพยพโยกย้าย ถึงเดือนพฤษภาคม 2551 ทุก ถนนที่ออกจากกรุงเทพฯ จะมีรถจำนวนนับล้านคันจอดติดตาย ช่วงแรกได้แต่ขยับทีละเมตร แต่วิ่งไม่ได้ ทำได้แบบคลานช้าๆ ตามๆ กันไป เสียงบีบแตรไล่รถคันหน้าแผดดังไปทั่วทุกถนนในกรุงเทพฯ ในที่สุดน้ำมันหมดบ้าง เครื่องร้อนเกินขนาด (OVER HEAT) บ้างในที่สุดก็จอดนิ่งอยู่กับที่ ในช่วงเวลานั้น ฝนก็ตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนกระแสน้ำสูงเข้าภายในรถ ถึงกระจกรถ และในที่สุดท่วมมิดหลังคารถในกรุงเทพฯ เป็นภาพที่อนาถอย่างยิ่ง..."

พักนี้เครื่องบินตกบ่อย ดูจากกระทู้คุณเกษม <table id="post1314130" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> เมื่อวานนี้, 05:54 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #9427 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> เจนัย <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1314130", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: เมื่อวานนี้ 06:24 PM
วันที่สมัคร: Oct 2006
ข้อความ: 165
Groans: 3
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 1,187
ได้รับอนุโมทนา 2,335 ครั้ง ใน 163 โพส
พลังการให้คะแนน: 84


</td> <td class="alt1" id="td_post_1314130" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> เดี่ยวนี้เครื่องบิน,เฮลิคอปเตอร์ ประสบอุบัติเหตุบ่อยจัง หรือเป็นเพราะสนามแม่เหล็กโลก???

พบศพ 15 ศพจากซากเครื่องบินทหารอินโดนีเซีย
จาการ์ตา 28 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่กองทัพอินโดนีเซียเปิดเผยว่า พบศพ 15 ศพจากซากเครื่องบินของกองทัพอากาศอินโดนีเซียที่ตกในแถบภูเขาที่เป็นป่าทึบ แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของคนอีก 3 คนบนเครื่องแต่อย่างใด

เครื่องบินดังกล่าวประสบอุบัติเหตุในระหว่างปฏิบัติการลาดตระเวนทางอากาศ เพื่อทดสอบกล้องตัวใหม่ ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางใต้ 100 กม. เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และในจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 3 คน ได้แก่ ชาวสิงคโปร์ ชาวอินเดีย และชาวอังกฤษ ทีมหน่วยกู้ภัยเพิ่งเดินทางถึงจุดที่เครื่องบินตกในวันเสาร์นี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุศพที่พบทั้ง 15 ศพ แต่ทีมแพทย์และรถพยาบาลได้เตรียมรอที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ใกล้เคียงเพื่อเคลื่อนย้ายศพออกมา.-สำนักข่าวไทย

<table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="headline" valign="baseline" align="left">รมต.มหาดไทยกัวเตมาลาเสียชีวิต จากเหตุ ฮ.ตกวานนี้</td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td bgcolor="#cccccc" height="1"></td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td><td class="date" valign="baseline" align="left">28 มิถุนายน 2551 13:17 น.</td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="center" align="middle"></td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="top" align="middle"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left">เฮลิคอปเตอร์ ตกท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายทางตอนเหนือของกรุงกัวเตมาลา ซิตี้ เมืองหลวงของกัวเตมาลาเมื่อวานนี้ ทำให้คนบนเครื่องรวม 4 คนเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้มีนายวินิซิโอ โกเมซ รัฐมนตรีมหาดไทยของประเทศ และนายเอดการ์ อูมานา รัฐมนตรีช่วยจากกระทรวงเดียวกันรวมอยู่ด้วย
อุบัติเหตุเกิดขึ้นขณะที่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวกำลังเดินทางไปยังเขตเปเตน ทางตอนเหนือ เพื่อนำรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยเข้าร่วมการประชุมความมั่นคง ก่อนประสบอุบัติเหตุตก เจ้าหน้าที่รายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศเมื่อเวลาประมาณ 13.58 น. ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ หรือราว 02.59 น.ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย

</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table> รดน้ำ10ศพจากเฮลิคอปเตอร์ตก ก่อนนำส่งภูมิลำเนา

รดน้ำศพทหารและพลเรือน ที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ตกที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพุทธภูมิ อ.เมือง จ.ยะลา มีการจัดพิธีรดน้ำศพ
ร.อ.ปราโมทย์ ภู่รักษ์ นักบินที่ 1 ร.ท.ราเชนทร์ สุขะ นักบินที่ 2 จ.ส.อ.รณชิต แก้วประสิทธิ์ ส.อ.นพรัตน์ วรแสน ช่างเครื่อง ร.อ.สามารถ ปลัดภูมิ จ.ส.อ.นรินทร์ เนื้อนุ่ม จ.ส.อ.อัครเดช จันทรกุล ส.อ.ทวีศักดิ์ พงษ์ศาปาน ร.ต.อ.วรพงษ์ พุฒินิล และน.ส.มณีรัตน์ บรรเทา
ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่จ.ยะลา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสำนักนิติวิทยาศาสตร์ พล.ท.จีรพันธ์ เกษมศานติสุข ผู้อำนวยการพลเรือน ทหารและตำรวจ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งขาติ ข้าราชการตำรวจ และประชาชนเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีรดน้ำศพแล้ว จะมีการเคลื่อนย้ายศพไปยังสนามบินบ่อทอง ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อนำขึ้นเครื่องบิน ซี 130 ส่งกลับไปยังภูมิลำเนาเดิมของผู้เสียชีวิตต่อไป

พระราชทานเพลิงศพทหารกล้าพลีชีพเพื่อชาติ

พัทลุง 28 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้(28 มิ.ย.) พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางไปที่วัดสุนทราวาส หมู่ 9 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.อ.ทวีศักดิ์ พงศาปาน ทหารประจำหน่วยเฉพาะกิจทักษิณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก โดยกองทัพบกได้ปูนบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ และขอพระราชทานยศจากสิบเอกให้เป็นร้อยเอก พร้อมมอบเหรียญบางระจันให้กับครอบครัว เพื่อเป็นการสดุดีความกล้าหาญ สำหรับ ร.อ.ทวีศักดิ์ อายุ 32 ปี มีพี่น้องจำนวน 7 คน เป็นบุตรคนที่ 6 ของนายสุขและนางพริ้ม พงศาปาน เป็นชาวตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง.-สำนักข่าวไทย
<!-- / message --> <!-- edit note --> <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เจนัย : เมื่อวานนี้ เมื่อ 06:24 PM.
<!-- / edit note --> </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> <script type="text/javascript"> vbrep_register("1314130")</script> </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> <!-- controls --> </td></tr></tbody></table>คุณ chdhorn ถามไว้นานแล้วราวปลายมีนาคม ว่าถ้ามีเวลา ๓๐ วันจะทำอะไร คุณคณานันท์ถามในกระทู้ว่าสงสัยเจ้าของกระทู้มีญานหยั่งรู้ เจ้าของกระทู้ตอบว่า ครูบาอาจารย์มาสงเคราะห์ต่างหาก ถ้านับวันตามคุณ chdhorn เวบา ๓๐ วันคือเดือนพฤษภาคม จำได้ไหมคะนาร์กิสเข้าพม่า ต้นพฤษภาคม บ้านเราก็เกือบไป ถ้าไม่ได้ในหลวงทำฝนเทียม เกจิและผู้ประพฤติธรรมหลายท่านช่วยกันผ่อนปรนกรรม ก็อาจเกิดเหตุร้ายแรงตามข้อความข้างต้น

ตัวเองคิดว่าเหตุการณ์แค่เพียงเลื่อนเวลาออก แต่จะสุกงอมเองเพราะหลวงปู่เคราบอกเมื่อ กพ ๕๑ ว่ามันเป็นกรรมของโลก (ฟังจากปากท่าน) สุดท้ายน้ำจะกลับมาที่เก่า (สมัยเพชรบูรณ์อยู่ชายทะเล) แต่ท่านไม่ได้บอกว่าเมื่อไร

เคยเขียนว่าหลวงพ่อใหญ่วัดแจ้งเมืองเก่าเล่าเมื่อ พย ๕๐ ว่า หลวงปูู่เทพโลกอุดรพาท่านไปเที่ยว (ท่านจะบอกว่า คิดเสียว่าเล่านิทานนะ) เห็นน้ำท่วมตึกใบหยกเหลือแต่ยอด ท่านบอกว่าถ้าพระแก้วมรกตย้ายที่อยู่ก็ถึงเวลาทิ้งกรุงเทพฯ เราก็มาตีความว่าจะย้ายได้อย่างไร ถามท่านว่าน้ำจะท่วมทีเดียวสูงมิดพระแก้วเชียวหรือ ท่านบอกมันค่อยๆสูงขึ้นๆ เลยสงสัยว่า แค่น้ำท่วมวัดพระแก้ว ระดับน้ำไม่ลด เขาก้ต้องย้ายพระแก้วแล้ว ก่อนจะเกิดขนาดนั้นคงต้องกั้นกระสอบทรายกันน่าดู กว่าจะปล่อยท่วมวัดพระแก้วข้างนอกคงแย่แล้ว ...

มาสัปดาห์ก่อนมีนักวิชาการกลัววัดพระแก้วถูกน้ำท่วม ...
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman
เก็บจากข่าวที่ได้ฟังเมื่อเช้ามาค่ะ
------------------
สมิทธ ฟันธง ส.ค.-ต.ค. พายุใหญ่ถล่มประเทศไทย ทำให้กทม.จมบาดาล ระบบประปาพินาศ คนเมืองหลวงไม่มีน้ำใช้ จี้หน่วยงานรัฐเร่งหามาตรการรับมือโดยด่วน ขณะที่อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานฯ หวั่น วัดพระแก้ว เสียหายหากเกิดน้ำท่วมพระบรมมหาราชวัง


ดร.สมิทธ ธรรมสโรช
ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ การออกมาแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวรับมือกับ
ภ ัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ในการเสวนาเรื่อง แผนรับมือวิบัติภัยในมหานครกรุงเทพ ซึ่งจัดโดยสถาบันพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร การเสวนาครั้งนี้มี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์

หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเสวนา

ดร.สมิทธ กล่าวว่า จากการศึกษาและติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติมาโดยตลอด พบว่า ภัย พิบัติที่จะกระทบ กทม.และปริมณฑล มีอยู่ 2 ประเภท คือ ภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง ซึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อน

โดยภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นภัยที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อ
มนุษย์จำนวนมาก ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 13 รอย และจากการศึกษาพบว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รอยเลื่อนทั้งหมดเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ซึ่งการเกิดรอยร้าวดังกล่าวทำให้อาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรงใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีโอกาสถล่มลงมาได้

ดร.สมิทธ กล่าวต่อว่า ในพื้นที่ กทม.อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อน 2 รอย คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก เชื่อ ว่าจะส่งผลให้เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตก และทำให้น้ำปริมาณกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลทะลักเข้าสู่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และ กทม.

"กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนดินเลน เมื่อได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว ระยะสั่นสะเทือนจะขยายตัว 2-3 ริกเตอร์ ทำให้อาคารที่สูงไม่เกิน 6 ชั้น อาจแตกร้าวและพังทลายลงมา ส่วนอาคารสูงไม่น่าเป็นห่วง เพราะวิศวกรได้ออกแบบอาคารไว้รองรับอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการรับมือกับแผ่นดินไหว โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภั ยพิบัติ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงอาจทำให้เกิดความเสียหายมาก" ดร.สมิทธ กล่าว

ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า ภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้นนั้น จากสถิติไม่เคยปรากฏมา ก่อนว่าพายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดียจะมี แรงลมสูงมากถึงขนาดเป็นไซโคลน แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว คือ พายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นฝั่งในลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า แรงลมสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงถึงระดับ 4

"ผมขอทำนายว่าในเดือนสิงหาคมถึง เดือนตุลาคมนี้ จะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทย ทางด้านอ่าวไทย ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี เข้ามา ซึ่งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์ สตรอม เสิร์ช (Strom Search) หรือ น้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น

ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าว
เจ้ าพระยา และเข้าท่วมพื้นที่ กทม. โดยกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ และหากท่วมเหนือคลองประปาจะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำในการอุปโภค
บริโภค" ดร.สมิทธ กล่าว

ด้าน นายต่อตระกูล กล่าวว่า มีความเป็นห่วงว่าหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นจริงจะทำให้อาคารและสิ ่งปลูกสร้างที่สำคัญหลายแห่งเสียหายโดยเฉพาะวัดพระแก้ว ซึ่งก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ไม่ได้มีการฝังเสาลงดิน หากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่พระบรมมหาราชวังก็จะทำให้เสื่อมความแข็ งแรงลงอย่างรวดเร็ว

หลังการเสวนา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ดร.วัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการฝ่ายอุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดพายุใหญ่พัดถล่มประเทศไทยตา มที่

ดร.สมิทธ กล่าวในการเสวนา ดร.วัฒนา ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ช่วงเดือนสิงหาคม - ตุลาคม อาจจะเกิดพายุใหญ่ถล่มประเทศไทย เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงฤดูฝน อยู่ระหว่างช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าประเทศไทย จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าช่วงดังกล่าวมีพายุพัดถล่มประเทศไทยมาแล ้วหลายครั้ง อย่างเช่น พายุไต้ฝุ่นเกย์ พายุไต้ฝุ่นลินดา ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนก็เกิดขึ้นใ นช่วงนี้

ดร.วัฒนา กล่าวต่อว่า สภาวะโลกร้อนอาจส่งผลให้ความรุนแรงของพายุเพิ่มมากขึ้นจากเดิมถ ึง 2 เท่า หากพายุพัดเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นเมืองก็อาจทำให้เกิดความเสียหา ยอย่างหนัก

โดยเฉพาะหากพายุเคลื่อนเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคตะวันออกจะทำให้ เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ กทม.โดยตรง ซึ่งมีความเป็นห่วงว่า หากมีพายุพัดเข้าบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาจะสร้างความเสียหายอย ่างรุนแรงให้แก่ กทม.
เนื่องจากขณะนี้แม้จะมีการสร้างเขื่อนกั้นริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพร ะยาในหลายจุด แต่การสร้างเขื่อนที่ผ่านมาทำเพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจา กน้ำเหนือไหลหลาก ไม่ได้มีไว้รองรับพายุที่พัดเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้บริเวณปากแม่น้ำยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อน หากเกิดพายุพัดกระหน่ำจริง เขื่อนที่มีอยู่ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมได้

ดร.วัฒนา กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วงว่าหากช่วงเวลาที่เกิดพายุตรงกับช่วงที่ระดับน้ำ ทะเลขึ้นสูงสุดจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวอาจทำให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์พัดกระหน่ำบ ริเวณชายฝั่ง หากอาคารบ้านเรือนตามแนวชายฝั่งไม่แข็งแรงก็จะสร้างความเสียหาย ร้ายแรงทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยามีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมไว้ด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอพยพผู้ประสบภัย เพราะขณะเกิดเหตุภัยพิบัติหากมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประ สบภัยได้รวดเร็ว ความเสียหายต่อชีวิตของประชาชนก็จะลดน้อยลง

ช่วงนี้พุงไม่สบายใจ เริ่มจี้ให้จัดของอีกรอบแล้ว ถ้าไม่เกิดงวดนี้ (สิงหาคม) คงได้ทานกล้วยตากเยอะเลย จึงเรียนมาเพื่อทราบกับแฟนกระทู้ค่ะ

 

ผู้รู้แจ้งมา ว่าที่เรือล่มที่ฟิลิปปินส์ คนเหล่านั้นมีกรรมร่วมกัน สมัยค้าทาส
สมัยนี้ คนมีกรรมร่วมกัน
เช่นคอร์รัปชั่น
ค้าประเวณี
ค้ายาเสพติด
จะไปพร้อมกันอย่างไรล่ะคะ
ที่เขาว่าเดี๋ยวนี้กรรมติดจรวดน่ะจริงไหมหนอ

 

<table id="post1331446" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 05:59 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #800 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> chdhorn <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1331446", true); </script>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 06:50 PM
วันที่สมัคร: Oct 2007
ข้อความ: 592
Groans: 4
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 5,346
ได้รับอนุโมทนา 10,628 ครั้ง ใน 580 โพส
พลังการให้คะแนน: 423


</td> <td class="alt1" id="td_post_1331446" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> วันนี้ได้อ่านบทความหนึ่งจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เห็นว่าน่าสนใจดีค่ะ... เลยเอามาให้อ่านกัน...

(ฉบับวันเสาร์ที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ หน้า๙)

<form id="aspnetForm" name="aspnetForm" action="default.aspx?CategoryID=74&NewsType=2" method="post" _initialaction="default.aspx?CategoryID=74&NewsType=2">

​

หนทางรอดชีวิตในภัยพิบัติต่างๆ
<table style="width: 480px;"><tbody><tr><td valign="top">
</td><td valign="top">นับ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ 9/11 เป็นต้นมา ก็ได้เกิดภัยพิบัติใหญ่ ๆ อีกหลายเหตุการณ์ด้วยกัน เช่น สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนในจีน พายุไซโคลนในพม่าเป็นต้น ซึ่งล้วนแต่ทำให้มีผู้ต้องเสียชีวิตจำนวนมากมายรวมกันเป็นแสน ๆ คน ดังนั้นในวันนี้เราจะลองมาศึกษาวิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญศึกษาไว้ว่าเราควรจะ เรียนรู้ และเตรียมตัวของเราให้ดีที่สุดได้อย่างไรบ้าง ในการที่จะหาทางเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติเหล่านี้หากเกิดขึ้นกับตัวเองในวัน ใดวันหนึ่งข้างหน้าซึ่งไม่มีผู้ใดคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

ก่อนอื่น เราควรมาดูเหตุการณ์ร้ายแรงที่ได้เคยเกิดขึ้นแล้วเป็นกรณีศึกษาไปก่อนสัก 2-3 กรณี กรณีแรกที่อยากยกถึงก็คือเหตุการณ์เมื่อเรือโดยสารข้ามฟากระหว่างเอสโตเนีย กับสวีเดนจมลงเมื่อ 28 กันยายน ค.ศ. 1994 ซึ่งนับได้ว่าเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุโรป ในคืนวันนั้นเรือ M.V. Estonia ได้ออกจากท่าเมือง Tallinn ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเอสโตเนีย เพื่อการเดินทาง 15 ชม. ข้ามทะเลบอลติกไปกรุงสตอกโฮล์มเมืองหลวงของสวีเดนตามปกติ ซึ่งในคืนนั้นแม้จะมีพายุแต่ก็ไม่ได้รุนแรงนัก ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ มีผู้โดยสารที่ยังไม่นอนไปนั่งกินเหล้าที่บาร์ 50 กว่าคน และหลายคนกำลังหัวเราะสนุกสนานกับการร้องเพลงคาราโอเกะ แต่ทันใดเมื่อเวลาหลังตี 1 เล็กน้อย อยู่ดี ๆ เรือก็เอียงวูบไปถึง 30 องศาในฉับพลัน ทำให้ผู้โดยสารและข้าวของต่าง ๆ ถูกเทกระจาดไปรวมอยู่อีกข้างหนึ่งของกราบเรือพร้อมกับเสียงกรีดร้อง เสียงร้องไห้คร่ำครวญของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หนึ่งในผู้โดยสารขณะนั้น คือนาย Kent Harstedt อายุ 29 ปีซึ่งเคยได้รับการฝึกทหารมาก่อนและปัจจุบันเป็นผู้แทนราษฎรของสวีเดน นาย Harstedt ไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะสามารถยึดราวเหล็กไว้ได้ ในวินาทีนั้น เขาเล่าว่าเขาไม่ได้คิดว่าเรือกำลังจะจม แต่คิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป ในขณะที่เขาคลานมาที่ทางออก เขาสังเกตว่าคนส่วนใหญ่ในห้องนั้นกลับนั่งมึนงงอยู่ เฉย ๆ เหมือนกับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนเราส่วนใหญ่มักเชื่อกันว่าเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น คนจะแตกตื่นโกลาหลถึงขนาดเหยียบกันตาย แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับยืนยันว่าความโกลาหลถึงขั้นเหยียบกันตายเกิดขึ้นน้อยมาก และส่วนใหญ่มนุษย์เราจะมีปฏิกิริยาตรงกันข้าม คืองงงวยไม่ขยับเขยื้อนเสียมากกว่า และจะกำจัดอาการนี้ได้ก็ต่อเมื่อนึกถึงลูกหลานและคนที่รักเท่านั้น นาย Harstedt พยายามปีนบันไดขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าและก็ยังเห็นคนยืนกันอยู่เฉย ๆ เป็นส่วนใหญ่ บางคนถึงกับควักบุหรี่ออกมาจุดสูบก็มี ในที่สุดเรือ M.V. Estonia ก็คว่ำและจมลงเมื่อเวลา 01.50 น. และจากผู้โดยสารทั้งหมด 989 คน มีผู้รอดชีวิตได้เพียง 137 คนเท่านั้น สำหรับนาย Harstedt นั้นได้โดดทะเลก่อนเรือจะจม และสามารถขึ้นเรือยางเล็กได้ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลืออีก 5 ชั่วโมงต่อมา ผู้เชี่ยวชาญกล่าวต่อไปว่าอาการหยุดชะงักหรือการแช่แข็งนี้มีในสัตว์ทั่ว ๆ ไปเมื่อเกิดความกลัว และถ้าเราสามารถลดความกลัวลงไปได้ เราก็จะมีความสามารถตอบโต้สถานการณ์คับขันได้ดียิ่งขึ้น

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นบทเรียนที่ดีก็คือเหตุการณ์ที่ตึกแฝดของ World Trade Center ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตีเมื่อวันที่ 11 เดือนกันยายน ปีค.ศ. 2001 Rick Rescorla เป็นบุคคลที่กล่าวได้ว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของการรอดตาย เขาทำงานเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัท Morgan Stanley ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกบริษัทหนึ่ง และเป็นลูกค้าที่สำคัญที่สุดของตึก World Trade Center เพราะเช่าชั้นที่ทำงานอยู่ถึง 22 ชั้นในตึกสอง และอีกหลายชั้นในตึก 1 ด้วย เขาเป็นคนอังกฤษโดยกำเนิดแต่ได้ย้ายมาอยู่อเมริกาและได้อาสาสมัครไปรบที่ เวียดนามเพราะ “ต้องการที่จะสู้กับคอมมิวนิสต์” ที่นั่นเขาได้รับเหรียญกล้าหาญถึง 3 เหรียญด้วยกันคือทั้ง Silver Star, Bronze Star และ Purple Heart และได้เคยนำทหารภายใต้บังคับบัญชาของเขาฝ่าวงล้อมของเวียดกงตลอดคืนมาแล้ว ดังนั้น เขาได้เคยเรียนรู้โดยประสบการณ์มาแล้วว่าในขณะที่คนมีความกลัว สมองมักจะไม่ทำงานได้ดีตามที่คิด ในคืนที่ต้องหลบหนีจากวงล้อมของเวียดกง เขาจึงพยายามปลุกขวัญและกำลังใจของทหารลูกน้องด้วยการร้องเพลงปลุกใจให้ฟัง และก็สามารถพาลูกน้องฝ่าวงล้อมออกมาได้สำเร็จ เขาเข้าใจดีถึงการที่ผู้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับอันตรายจะมีอาการมึนงงไม่รู้ จะทำอะไรต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็เชื่อด้วยว่าจะกระตุ้นให้คนธรรมดาทั่วไปปรับตัวให้เข้ากับ สถานการณ์ได้ดีขึ้น ในปี ค.ศ. 1988 เมื่อมีการวางระเบิดเที่ยวบินเที่ยว 103 ของ Pan Am เหนือ Lockerbie เขาได้ทำจดหมายเตือน Port Authority of New York and New Jersey ซึ่งเป็นผู้ดูแล World Trade Center ให้ระวังการลอบวางระเบิดที่ตึก แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ จนอีก 3 ปีต่อมาก็ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นจริง ๆ เมื่อ Ramzi Yousef ขับรถบรรทุกระเบิดเข้าไปก่อการที่ตึกซึ่งได้ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาล หลังจากนั้น Rescor la ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของ Morgan Stanley ทุกคนไม่ต้องให้ความสนใจกับมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์ร้ายแรงของ Port Authority อีกต่อไป แต่ได้พยายามวางมาตรการและมาตรฐานของตนเองขึ้นมาให้เจ้าหน้าที่ของ Morgan Stanley ปฏิบัติตาม

มาตรการหนึ่งที่เขานำมาใช้อยู่บ่อยครั้งก็คือ การฝึกการหนีไฟโดยไม่มีการเตือนเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า หลังจากทำไปได้สองสามครั้ง เขาก็ยังรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ยังมีปฏิกิริยาช้าเกินไป เขาจึงถึงกับใช้นาฬิกาจับเวลาการเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มด้วยจนทุกคนสามารถ ทำเวลาได้ดีขึ้น นอกจากนั้นเขาก็ยังหาเวลาบรรยายข้อควรกระทำในเหตุการณ์ฉุกเฉินให้เจ้า หน้าที่ได้รับฟังด้วย โดยได้ย้ำว่าการหนีไฟขึ้นไปบนดาดฟ้าชั้นบนนั้นมีอันตรายเกี่ยวข้องมาก และแนะนำว่าการหนีลงข้างล่างจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งถ้าคนอื่น ๆ ในตึกได้ทราบถึงข้อนี้ก็คงจะรอดตายกันอีกเป็นจำนวนมาก เพราะได้เลือกหนีขึ้นข้างบนแต่ที่สุดก็ค้นพบว่าประตูขึ้นดาดฟ้าถูกใส่ล็อก กุญแจอยู่ คงทราบกันดีว่าบริษัท Morgan Stanley เป็นบริษัทใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเงินชั่วโมง ๆ หนึ่งเป็นเงินหลายล้านหรือพัน ๆ ล้านดอลลาร์ การซ้อมหนีไฟบ่อย ๆ ย่อมเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจและสูญเสียเวลาและเงินทองไปมากมาย แต่ผู้บริหารของบริษัทก็มีความเชื่อมั่นในตัวนาย Rescorla และอนุมัติให้เขาดำเนินการฝึกตามมาตรการของเขาต่อไป

ในวันที่ 11 กันยายน ที่เกิดเหตุ Rescorla อยู่ในตึกสองเมื่อเครื่องบินลำแรกพุ่งเข้าชนตึก 1 ฝ่าย Port Authority ก็ได้ออกประกาศเสียงตามสายให้ทุกคนอยู่นิ่ง ๆ กับที่ ที่โต๊ะทำงาน แต่ Rescorla ไม่ฟัง เขาสั่งให้เจ้าหน้าที่ของ Morgan Stanley หาทางออกมาจากตึกโดยเร็วที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่แทบทุกคนก็ได้ปฏิบัติตามได้อย่างดียิ่ง ไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่ของ Morgan Stanley เท่านั้น แม้แต่ลูกค้าที่กำลังติดต่องานอยู่อีกประมาณ 250 คนก็ได้รับการชี้แนะว่าบันไดหนีไฟอยู่ที่ไหน ซึ่งก็นับว่าสำคัญอย่างยิ่งเพราะหลายคนก็มาสารภาพภายหลังว่าในช่วงเวลานั้น สมองไม่สั่งการไปแล้ว ขณะที่นาย Rescorla กำลังบัญชาการอพยพผู้คนลงมาชั้นล่างที่ชั้น 44 เครื่องบินลำที่ 2 ก็พุ่งเข้าชน ตึก 2 สูงขึ้นไปอีก 38 ชั้น ซึ่งทำให้ตึก 2 สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและผู้คนถูกแรงกระแทกกระจายกันไปคนละทิศทาง แต่ Rescorla ก็ยังคุมสติได้ดีและดำเนินการอพยพผู้คนลงบันไดต่อไป ในช่วงนั้นเขาได้พูดโทรศัพท์กับภรรยาของเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วย โดยกล่าวว่า “หยุดร้องไห้เสียที ผมมีหน้าที่ที่จะต้องพาคนเหล่านี้ไปสู่ความปลอดภัย ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมอยากให้คุณรู้ด้วยว่าผมมีความสุขที่สุดที่ได้ร่วมชีวิตกับคุณ” อีกสักครู่หนึ่งต่อมา เขาก็นำพนักงานของ Morgan Stanley ลงไปถึงชั้นล่างโดยปลอดภัย แล้วก็หันกลับขึ้นไปใหม่ มีคนที่รอดตายเห็นเขาเป็นครั้งสุดท้ายที่ชั้น 10 อีกไม่นานตึกก็ถล่มและไม่มีใครพบร่างเขาอีกเลย แต่ในวันนั้น คนงานของ Morgan Stanley ถึง 2,687 คนสามารถรอดชีวิตมาได้ และมีเพียง 13 คนซึ่งรวมถึง Rescorla และลูกน้องของเขาอีก 4 คนเท่านั้นที่ต้องเสียชีวิตในมหันตภัยครั้งนั้น

ทั้งหมดนี้ พอเป็นบทเรียนในการหาหนทางรอดชีวิตจากหายนะต่าง ๆ ได้ไม่มากก็น้อย

1. อย่างแรกก็คือ ท่านต้องมีสติสัมปชัญญะ และความเชื่อมั่นในตัวเองว่า “ฉันทำได้” และต้องไม่เป็นพวกที่คิด ว่า “ถ้าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับฉัน ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร” เป็นอันขาด

2. ท่านต้องหมั่นหาความรู้ เช่นเมื่อขึ้นเครื่องบิน ก็กรุณาให้ความใส่ใจสักนิด กับการอธิบายของเจ้าพนักงานเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ บนเครื่องบิน เพราะจริง ๆ แล้ว จากสถิติเครื่องบินตกหรือมีปัญหาระหว่างปี ค.ศ. 1983-2000 ทั้งหมด มีผู้รอดชีวิตได้ถึงร้อยละ 56

3. ท่านต้องอย่าลุกลี้ลุกลนหรือกระวนกระวายจนเกินควร ให้หายใจเข้า หายใจออกยาว ๆ สมองท่านจะสั่งการได้ดีขึ้น

4. ท่านต้องไม่อ้วนหรือมีน้ำหนักมากเกินไป เพื่อที่จะสามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ในเหตุการณ์ 9/11 ปรากฏว่าคนอ้วนต้องตายหรือบาดเจ็บมากกว่าคนที่เคลื่อนไหวได้สะดวกถึง 3 เท่า

5. ท่านต้องทำการฝึกหัดตัวเองอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการฝึกหนีไฟของนาย Rescorla หากท่านทำงานอยู่ในตึกสูงก็ควรจะเดินลงบันไดมาชั้นล่างปีละ 2-3 ครั้ง เป็นต้น

ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เกิดความแตกต่างได้อย่างแน่นอน.

สาโรจน์ ชวนะวิรัช​

</td></tr></tbody></table>

.........................................................

ขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ค่ะ

เยี่ยม


:z10
</form>
</td></tr></tbody></table>

 

<table id="post1336688" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> เมื่อวานนี้, 11:16 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> whitenaga <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1336688", true); </script>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 12:57 AM
วันที่สมัคร: Jan 2007
อายุ: 34
ข้อความ: 244
Groans: 0
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 20
ได้รับอนุโมทนา 2,697 ครั้ง ใน 243 โพส
พลังการให้คะแนน: 196


</td> <td class="alt1" id="td_post_1336688" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- icon and title --> หากน้ำท่วมกรุงเทพ แล้วจะอพยพไปไหนได้บ้างค่ะ
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> มี เพื่อนและญาติอยู่กรุงเทพฯ หลายคน เฝ้าติดตามกระทู้ภัยพิบัติมาตลอด รวมทั้งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ หากเกิดน้ำท่วมกรุงเทพจริง มีท่านผู้รู้ท่านใดที่มีข้อมูล พอจะแนะนำได้ไหมค่ะ ว่ามีที่ ที่เราจะอพยพไปอยู่ได้ (เป็นที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมและแผ่นดินไหว) ที่อยู่ใกล้ กทม.ที่สุดอ่ะค่ะ

อ้อ เพื่อนอยู่แถวๆ อ่อนนุช สวนหลวงอ่ะค่ะ

ถามอีกนิด บริเวณสุวรรณภูมิจะท่วมและมีภัย อะไรบ้างหรือเปล่า(หากท่านได้ทราบข้อมูลขอคำแนะนำค่ะ)
</td></tr></tbody></table>ขอเชิญอ่านกระทู้นี้และกระทุ้อื่นๆด้วยค่ะ

 

เคยเสนอไว้ว่าเส้นทางที่ควรใช้ คือ สระบุรี - ลพบุรี - เพชรบูรณ์ เพราะเป็นที่สูง
ส่วนเส้นทางหลวงสายเอเซียขึ้นเหนือนั้น ตามลักษณะภูมิศาสตร์เดิมเป็นเส้นทาง
น้ำหลากไปตลอดทางจนเขตภาคเหนือเลยครับ อาจมีที่สูงเป็นย่อมๆ ซึ่งก็เหมือน
ติดเกาะ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆของประเทศได้โดยสะดวก

เส้นทางสระบุรี - ลพบุรี - เพชรบูรณ์จะเป็นส่วนของแผ่นดินปลอดน้ำท่วมต่อเนื่อง
เป็นผืนใหญ่ยันภาคเหนือตอนบนและภาคอีสานครับ การคมนาคมสะดวก สามารถ
เข้าถึงสาธารณูปโภคได้อย่างกว้างขวาง

 

ขอบคุณเส้นทางและอนุโมทนาบุญพี่ติ๊กค่ะ

;k03

 

คนมาใหม่ ก็ตั้งกระทู้กันขึ้นมาใหม่
คนมาก่อนบอกว่า เขาเขียนถึงไปหมดแล้ว

คนมาใหม่ ถามว่าจะแพ็คอะไร จะไปไหน
คนมาก่อนบอกว่า อ่านกระทู้เก่าๆบ้างสิคะ

คนมาใหม่ ถามว่าจะเกิดภัยอะไรก่อน
คนมาก่อนบอกว่า ไม่รู้จริงๆจ้า ไม่ใช่คนกดสวิทระเบิดภัยพิบัตินี่...

มีอาหาร มีน้ำ มีเป้..
ที่สำคัญที่สุดคือ มีสติ
หมั่นดูแลสติให้อยู่กับตัว..แล้วยิ้มได้เมื่อภัยมา

เข้าพุท..ออกโธ...
เข้าเป็นแพรวไหม... ออกเป็นแพรวไหม...
เจอกันข้างบนนะคะ

 

จากคุณ Wellrider
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"><!-- / icon and title --><!-- message --> ครูบาอาจารย์บางท่าน ซึ่งเป็นฆราวาส และเป็นผู้ปฏิบัติธรรมให้ความเห็นรุนแรงว่า ต้องอพยพออกจากรุงเทพฯ ภายในเดือนมีนาคม 2551 เพื่อไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ที่ปลอดภัย โดยท่านขอให้เตรียมอุปกรณ์ ของกิน ของใช้กักตุนให้มากพอ 3 – 6 เดือน และต้องเตรียมสถานที่อยู่อาศัยให้พร้อมในพื้นที่ซึ่งฝนตก 7 วัน 7 คืน น้ำก็ไม่ท่วมขัง เพียงไหลผ่าน โดยต้องเตรียมให้พร้อมภายในเดือนมกราคม 2551 ถ้าไม่มีภารกิจใดๆ ในกรุงเทพฯ หรือสละอาชีพเก่าในกรุงเทพฯ ไปหาอาชีพใหม่ หรือโอนย้ายไปอยู่ในภาคอิสาน หรือภาคเหนือ อย่างน้อยภาคกลางตอนบน ถ้าทำได้ ก็จะเป็นการดีให้เริ่มอพยพหรือโยกย้ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2551 จะเป็นการเหมาะสมกว่า (แต่ระวังการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะกระแสแม่เหล็กโลก กำลังปรวนแปร พายุสุริยะกำลังเข้ามาในบรรยากาศของโลก โปรดติดตามข่าวเครื่องบินตกจะมีมากขึ้น) แต่ถ้ารั้งรอการอพยพโยกย้าย ถึงเดือนพฤษภาคม 2551 ทุกถนนที่ออกจากกรุงเทพฯ จะมีรถจำนวนนับล้านคันจอดติดตาย ช่วงแรกได้แต่ขยับทีละเมตร แต่วิ่งไม่ได้ ทำได้แบบคลานช้าๆ ตามๆ กันไป เสียงบีบแตรไล่รถคันหน้าแผดดังไปทั่วทุกถนนในกรุงเทพฯ ในที่สุดน้ำมันหมดบ้าง เครื่องร้อนเกินขนาด (OVER HEAT) บ้างในที่สุดก็จอดนิ่งอยู่กับที่

ในช่วงเวลานั้น ฝนก็ตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนกระแสน้ำสูงเข้าภายในรถ ถึงกระจกรถ และในที่สุดท่วมมิดหลังคารถในกรุงเทพฯ เป็นภาพที่อนาถอย่างยิ่ง...

ผู้เขียนได้ฟังคำบอกเล่าแล้ว ก็ได้แต่ปลงสังเวชว่า ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง ก็ย่อมช่วยคนที่ประมาท ไม่เตรียมการล่วงหน้าไม่ได้ เป็นกรรมของพวกเขาเอง แต่ก็หวังว่า ครูบาอาจารย์ในด้านจิตวิญญาณคงจะคลี่คลายสถานการณ์ระงับ และเลื่อน มหันตภัยนี้ออกไปได้ โดยความรุนแรงร้ายกาจไม่ถึงขนาดที่มีการเล่าขานดังกล่าว ผู้เขียนขอให้เป็นเรื่องเล่าแบบ แต่งเติมสีสันจนเกินเลย ผู้เขียนต้องการให้ผังเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น

ผู้เขียนขอพลังแห่งคุณงามความดีของพวกเราทุกคน จงแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวสำเร็จ ขอให้ท่วมเพียง 50 เซนติเมตร อย่าได้ท่วมถึง 2 เมตรทั่วพื้นที่กทม. เลย

"ผู้เขียน (อ.มงคล กริชวิทยาวุฒิ) ได้ดำเนินการภาวนา และเข้าร่วมด้วยช่วยกันในการหาวิธีการลดความรุนแรงของมหันตภัย ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมในการหาวิธีการเลื่อนระยะเวลาที่จะเกิด มหันตภัยให้ห่างออกไปจากผังเหตุการณ์ล่าสุดให้มากที่สุด
ความสำเร็จ คือ ต้องลดความรุนแรง และเลื่อนระยะเวลาของมหันตภัย ออกไปให้ได้ แต่ต้องได้รับผลถูกด่าว่าจากฝ่ายนักวิทยาศาสตร์ หรือผู้คนที่มีจิตบอด หรือจิตมืดมัว" ที่เขากล่าวว่า "ไอ้พวกที่พูดถึงมหันตภัย มันเป็นพวกเพ้อเจ้อเหลวใหล เห็นไหมว่า ไม่มีมหันตภัยรุนแรงอะไรเกิดขึ้นเลย" แต่หารู้ไหมว่า ขณะที่พวกเขาอยู่อย่างสุขสบาย พวกเราและครูบาอาจารย์จำนวนมาก จะต้องบำเพ็ญเพียรและเสียสละทุกวิถีทาง ที่จะทำให้เกิดความสุข สงบ และมีสันติแก่มนุษยชาติ ทำให้พวกเขาทั้งหลายอยู่อย่างสุขสบายต่อไปได้อีกช่วงหนึ่ง
แต่ถ้าโชคร้าย หากครูบาอาจารย์ช่วยเหลือไม่ได้ ความพินาศฉิบหายก็จะมาเยือน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจ กลับกลายเป็นว่าผู้เขียนได้รับคำชมเชยคำสรรเสริญเยินยอว่า "แม่น" เพราะเป็นความจริง ตามที่ผู้เขียนบอกกล่าวมาล่วงหน้าแล้ว ผู้เขียนเห็นว่า ไม่มีประโยชน์ใดๆ กับสิ่งที่ผู้เขียนกระทำไป ผู้เขียนไม่ต้องการคำสรรเสริญว่า พยากรณ์เหตุการณ์ได้แม่น เพราะผู้เขียนมิใช่โหราพยากรณ์ ผู้เขียนไม่มีความสามารถที่จะทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้า เพียงแต่ผู้เขียนได้รับการสื่อความมา เพื่อให้ช่วยเตือนมนุษย์ที่อยู่ในความประมาท ให้พึงสังวรระวังเท่านั้น ผู้เขียนมิได้หวังผลตอบแทนในทางธุรกิจ (ไม่คิดทำธุรกิจจากความกลัวของคน) มิได้หวังว่าจะหารายได้จากการขายเครื่องรางของขลัง (ไม่คิดจะเอามาขาย) ผู้เขียนไม่มีธุรกิจพุทธพานิช ทุกชนิดทุกประเภท ผู้เขียนเพียงรับการถ่ายทอดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ผู้เขียนต้องการคำด่าว่าในเรื่องนี้มากกว่า คือ ไม่มีมหันตภัยเกิดขึ้นตามการบอกกล่าว ไม่มีเรื่องอะไรที่เลวร้ายรุนแรงในช่วงชีวิตของพวกเราตามที่ได้บอกกล่าวไป

ผู้เขียนขอยืนยันว่า หากผังเหตุการณ์ที่อยู่ในกรอบข้อความที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ผู้เขียนจะดีใจเป็นที่สุด แม้จะถูกด่าว่า แต่สุขใจที่ได้มีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน ในการลดและเลื่อนมหันตภัยในช่วงปี 2551 ในคราครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ
หากท่านผู้อ่าน อยากมีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน ในการลดและเลื่อนมหันตภัยในช่วงปี 2551 เพื่อช่วยตัวเราเอง ช่วยครอบครัวของพวกเรา ช่วยสังคมชุมชนของเรา ช่วยเพื่อนร่วมชาติของเรา และช่วยเพื่อนร่วมโลกของเรา ขอให้ท่านผู้อ่านครอบครัวของท่านผู้อ่าน รวมทั้งเชิญชวนญาติสนิทและมิตรสหายของท่านผู้อ่าน ปฏิบัติตามบทความในสารชมรมฯ ฉบับก่อนๆ