เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

วาดภาพนู๋ด้วยนะคะหัวหน้า เอาให้สวย ๆ เลย ถ้าไม่สวยม่ายยอมจริง ๆ ด้วย
:VO:VO:VO

 

:z12 หัวหน้าร้อนเปล่าคะ เดี๋ยวเอาพัดลมไปช่วยเป่าค่ะ....ตึ๊กตั๊กๆๆ ใจเต้นแรงแล้วเนี่ย อยากดูรูปเร็วๆๆๆ (ห้ามจดจ่อมากนะ แว๊บไปแว๊บมามันจี๊ดๆที่ใจค่ะ):VO

 

โห..เข้าแถวรอวาดรูปกันใหญ่เลย :-O
รูปคุณโซลเสร็จแล้วครับ ที่เห็นในฝันประมาณนี้น่ะครับ (เหมือนบ้างมั๊ย?)
จะเป็นรูปตัวตนในปัจจุบันรึเปล่านะ?..โทษฐานที่เอาแต่อ่านไม่ยอมโพส อิอิ

 

วาดให้ครบๆคนนะค่ะ หัวหน้า ตกหล่นใครไปละมีประท้วงแหงๆ...อิอิ
โปรเจคหญ่ายซะ ไม่มีอะ

ปล.อย่าลืมของดิฉันด้วยนะค่ะ..หุหุ(ขอด้วยคน)

 

WoW...ขั้นเทพจริงๆ ด้วย...........AAAAAA ++++ ไปเลยค่ะ

 

มะ..มะ..เหมือนมาก...โอ้ว์ มายกอด...ทำได้ไง?????????? ขออนุญาติขยายหน่อยนะค่ะ
สวยยยยยยย....มากกกกกกก....เรยยยยยย

 

สงสัยต้องทำบัตรคิวแล้วล่ะครับ...555
จะทยอยวาดให้แล้วกันนะครับ..นานๆจะได้วาดรูป..สนุกดี
ขอบคุณที่ให้ตั้ง AAAAAA ++++++ เหมือนตรงไหนบ้างล่ะครับคุณโซล?

:VO

 

ขอบคุณคุณ avatar_boy ที่มาแชร์ความรู้

ขอบคุณคุณ veggieGuy ที่พยายามแปลเป็นไทย

คุณ Mead วาดจากฝันจริงๆ หรือเปล่าครับนั่น ยังกะไปเห็นของจริงมายังงั้นแหล่ะ สุดยอด

วันนี้อ่านหนังสือของดร.ไบรอันไปได้อีกบท ก็ไปเจอประเด็นน่าสนใจมาแชร์อีกแล้ว

ส่วนมากเราจะรู้จักดร.ไบรอันในแง่ของการบำบัดรักษาโรค แต่ในประเด็นนี้ก็คือเป็นการทำให้ยกระดับจิตใจด้วย และทำให้เห็นว่า ความเป็นไปได้ที่เป็นอนันต์ของอนาคตนั้น เราจะเอามาใช้ประโยชน์อย่างไรบ้างนอกเหนือจากการรู้ว่าเราสามารถเป็นไปได้ทุกอย่าง แต่ประเด็นนี้บางคนอาจจะรู้แล้วก็ได้นะ

เป็นเคสเคสนึงที่มีคนไข้ที่มีปัญหากับความโกรธของเขา ตัวเขาในปัจจุบันโกรธเกลียดชาวอาหรับที่ทำร้ายชาวยิว คนคนนี้เป็นชาวยิวในอเมริกา แต่ครอบครัวเขาก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับอิสราเอลเท่าไหร่ยกเว้นเขา ขอบอกชื่อของคนไข้คนนี้ละกันจะได้เขียนอธิบายง่ายขึ้น ^_^ เขาคนนี้ชื่อเอวิลีน (แน่นอนไม่ใช่ชื่อจริง ด้วยจรรยาบรรณแพทย์ทำให้ดร.ไบรอันต้องปกปิดชื่อคนไข้) เอวิลีนเกลียดสามีตัวเองด้วยเช่นกันที่เขาอ้างว่าเป็นชาวยิวแต่ไม่เคยสนใจชาวยิวในอิสราเอลเลย ความเกลียดของเอวิลีนทำให้เอวิลีนสูญเสียความสุขไปซะทุกๆ เรื่อง

เมื่อใช้การสะกดจิตไปยังวันเวลาและสถานที่ที่ความโกรธเริ่มขึ้นครั้งแรก เอวิลีนเป็นเจ้าหน้าที่นาซี มีหน้าที่ตรวจตราขนชาวยิวขึ้นรถไฟ และก็ไม่ใส่ใจกับความเป็นความตายของชาวยิวเท่าไหร่นัก

ดร.ไบรอันคิดว่า การทำเอวิลีนเกิดมาเข้าข้างชาวยิวในชาตินี้ก็เพราะว่าเป็นการชดเชยกับการต่อต้านยิวเมื่อครั้งนั้น แต่เอวิลียชดเชยมากไปหน่อย

ความเกลียดชังต่อชาวยิว กลับกลายเป็นการเกลียดชังต่อชาวอาหรับแทน

หลังจากออกภวังค์ ดร.ไบรอันได้ลองสะกดจิตให้ไปยังอนาคตของเอวิลีน ที่เป็นอนาคตในเส้นทางที่เอวิลีนยังเป็นอย่างนี้อยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ตามเส้นทางปัจจุบัน

ชาติหน้านั้นเอวิลีนเห็นตัวเองเป็นชาวอาหรับ มีความเกลียดชังต่อชาวยิวที่รวยแล้วไม่เคยช่วยเหลืออะไรพวกเค้าเลย

และเอวิลีนก็เห็นชาติต่อไปจากชาตินี้ ในชาติต่อไปเธอเป็นชายคริสเตียนในอัฟริกาตะวันออก มีความโกรธเคืองที่ประชากรฮินดูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในส่วนนี้ของโลกของเขา พอถึงตรงนี้ดร.โบรอันเขียนให้ความเห็นไว้ว่า ช่างน่าทึ่งจริงๆ ที่อคติไม่มีวันหมดสิ้น

เมื่อออกจากภวังค์ในการสะกดจิตครั้งนี้ ทำให้เอวิลีนเรียนรู้ได้ว่า เธอต้องเปลี่ยนสมมุติฐานเกี่ยวกับคนอื่นและวัฒนธรรมอื่น เธอจำเป็นต้องแทนที่ความเกลียดด้วยความเข้าใจ

ในการสะกดจิตครั้งต่อไป ได้ลองสะกดจิตไปยังชาติหน้าที่อดติทั้งหลายได้หายไปหมดแล้ว เอวิลีนเห็นว่าอนาคตเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เป็นผู้จัดการโรงแรมที่ฮาวาย มีสปาที่สวยงาม มีแขกจากทั่วโลก

มาถึงตรงนี้ ดร.ไบรอันเขียนเสริมหน่อยว่า สิ่งที่เอวิลีนเห็นอาจจะเป็นความเพ้อฝันที่สะท้อนถึงภายในออกมาก็ได้ ในการย้อนอดีต ดร.ไบรอันมีความลำบากในการแบ่งแยกความจำที่เป็นจริงออกจากการอุปมาอุปมัย จินตนาการแหรือสัญญลักษณ์ แต่สิ่งนึงที่ดร.ไบรอันเอามาใช้อ้างอิงว่าการย้อนอดีตนั้นเป็นของจริงคือภาษาต่างประเทศที่พูดออกมาโดยที่เจ้าตัวนั้นก็ไม่เคยเรียนมาก่อนในชาตินั้น ดังนั้นในเรื่องของอนาคตที่ไม่สามารถเอาอะไรมาอ้างอิงได้ ดร.ไบรอันจึงไม่เขียนระบุไปว่าเป็นเรื่องจริง แต่อันนี้ก็ไม่รู้ว่าดร.ไบรอันเขียนเพื่อป้องกันตัวเองหรือเปล่า หรือเขียนจากมุมมองของวิทยาศาสตร์ที่ต้องสามารถอ้างอิงได้ เพราะมีอีกหลายครั้งที่ดร.ไบรอันใช้การสะกดจิตไปอนาคตเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาคนไข้ แต่สิ่งนึงที่ดร.ไบรอันใช้การสะกดจิตไปอนาคตเพราะพบว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตามมันสามารถทำให้คนไข้อาการดีขึ้นได้

มาต่อเรื่องของเอวิลีนกันดีกว่า หลังจากนี้เอวิลีนได้ตระหนักได้ เอวิลีนได้ปล่อยวางความโกรธและอคติของเธอไปแล้ว เพราะว่าได้เห็นอนาคตเปรียบเทียบกันสองทางระหว่างอนาคตที่ยังยึดอยู่กับความเกลียดและอนาคตที่ได้ปล่อยวางมันไปแล้ว

จบ.... ที่เขียนไปก็พยายามบรรยายความเข้าใจของดร.ไบรอันต่ออนาคตออกมา ดร.ไบรอันนี่ก็เก่งนะ เรียนรู้จากคนไข้ซะส่วนมาก และก็เรียนรู้มาได้เยอะด้วย ถึงแม้บางครั้งจะมีจิตวิญญาณที่สูงส่งมาสอนบ้าง

จากเรื่องนี้ทำให้เข้าใจได้ว่า การมองไปยังอดีตก็ทำให้รู้ได้ว่าปัญหาที่เราเป็นนั้นมาจากไหน การมองไปยังอนาคตก็ทำให้เรียนรู้ได้ว่าถ้าเรายังเป็นอย่างนี้ต่อไปเส้นทางอนาคตจะเป็นยังไง

แต่นี่ก็เป็นการอธิบายในเรื่องกาลเวลาที่เราเข้าใจกัน แต่ถ้าจะอธิบายกันตามที่อ. โนวา อนาลัยสอนมาแล้ว อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต อยู่พร้อมกันเสมอ อนาคตที่เห็นนั้น ก็เป็นเส้นทางที่เป็นไปสืบเนื่องจากจิต ณ ปัจจุบัน ปัจจุบันเอวิลีนมีความคิดเกลียดชังและอคติต่ออีกฝ่ายอยู่ในจิตเสมอ จึงได้เจอแต่เรื่องราวที่มีแต่อคตินั้น และก็ได้เห็นว่าถ้าปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป อนาคตจะเปลี่ยนไปดีร้ายขนาดไหน

การย้อนไปยังอดีตทำให้เห็นว่าตัวเองทำพลาดเรื่องอะไรมา การมองไปอนาคตทำให้เห็นผลของความผิดพลาดดีขึ้น เมื่อเห็นว่าตัวเองก็ยังประสบกับปัญหาเดิมๆ

หลังๆ รู้สึกว่าเขียนวกไปวนมาหน่อยนะเนี่ย -_-''

 

เดาว่าที่เหมือนคือดูดีครับ อิอิ มีแอบยอเล็กน้อย :555:

(ขอค่ายอด้วยนะ)

 

;4;4
เหมือนเกือบทุกอย่างเลยค่ะ คุณมี๊ด สุดยอด ขั้นเทพ วาดจากจินตนาการนะเนี่ย ไม่เคยเจอกันจริงๆ ...ขอขอบคุณสำหรับภาพวาดเหมือนของตัวเองที่สวยที่สุดจากหัวหน้าค่ะ ...จับไมค์ร้องเพลงหลังจากที่ไม่ได้ร้องมานานแหล๊ะ แทนคำขอบคุณจากใจค่ะ .....เดี๋ยวต้องเอาภาพวาดนี้แทนตัวแล้วซิ อิอิ ....

 

ขั้นเทพจริงๆ น่ะหัวหน้ามีด นับถือๆ

 

....ขอจากใครเนี่ยค่ายอ.. คุณมี๊ด หรือว่า โซลค่ะ คุณซิป...

;15​

​

​

 

เดี๋ยวใครที่ลึกลับไม่เผยตัว จับวาดให้หมด ใครน้า!

;5

 

กะหมายถึงคุณโซลนี่แหล่ะ แต่คุณมี๊ดจะให้ค่ายอด้วยก็ไม่เป็นไรนะครับ ;30

พอจะเดาได้ล่ะว่าใครจะเป็นรายต่อไป อิอิ ;5

 

Cheer up เอาเลยๆๆๆ คุณมี๊ด....อยากเห็นไอน์สไตน์..ซิปเปอร์...
อิอิ .เชื่อฝีมือคุณมี๊ด..ยืนยันว่าเยี่ยมยุทธ์จริงๆ ค่ะ ..

คุณซิปว่าแต่ค่ายอนี่จะเอาอะไรคะ ....

 

หหุหุ ถ้าคุณ mead จะวาดก็ขอลองดู แต่ว่าค่ายอนี่จะเอาอะไรก็นึกไม่ออกเลยแฮะ

 

คุณ MEAD งานเข้าซะแล้ว อิอิ
วาดสวยขั้นเทพขนาดนี้ brveงานล้นแน่ครับ ;17

 

สุดยอดเลยครับคุณ mead อดชมไม่ได้
อิอิ

 

Thank You, my friends
Thank You, VeggieGuy (Mr Chayutt Number 2

I just want to encourage VeggieGuy
to keep translating if your heart say so.
You are doing a good job so far

I just listen only 4 pages of audio book,
So I feel Nova Analai is an UNIVERSAL Spirit/Consciousness

If anyone ever read my writing,
you would pick up my energy as
DIRECT and STRONG and MASCULINE
and SCIENTIFIC and WARRIOR.

Because my trainning and learning are
from ancient Atlantis and Lemuria
and ancient Egypt and India
and most of all from
Spirit/Consciousness of Lord Rama

YES! VeggieGuy is RIGHT!
We are ALL pointed to the same thing,
but different in ENERGY and EXPRESSION!

Congratulation to Mead and Soul2006
I am not quite sure what technique that Mead did,
But from my own experience and trainning,
we call it REMOTE VIEWING.

Remote Viewing,
This is the power of Seeing
the Object/People/Information
Beyond Space and Time.

This power is showing us 3 things
1) We ARE ALL ONE. We are all connected.
2) We ARE ALL have power to access from WITHIN us.
3) Space and Time ARE ILLUSION,
there is ONLY Here and Now

If Mead or anyone has this wonderful skill,
and can accurately access this information/data
in object or people beyond space and time,
then I encourage him/her to develop this skill further.

Because it is the same skill,
to do wonderful things, such as...
levitation, bilocation, precipation,
becoming invisibilities,
accessing the knowledge of the universe,
healing the sick, raising the dead, etc...

The ability of ordinary is ONE and the SAME
with the ability of extraordinary.
It is just different direction

That wonderful picture is telling me that
when MEAD become ONE with Soul2006(Bam)

And I am waiting to see who is next
that mead become ONE with

 

ขอบคุณคุณ Avatar_Boy เช่นกันครับที่มาอธิบายเพิ่มเติม
และขอบคุณ คุณ VeggieGuy ที่แปลออกมาให้เพื่อนๆอ่านกันด้วยครับ
น่าทึ่งครับกับการใช้จิตกลับไปแก้ไขเรื่องในอดีตที่คุณ Avatar_Boy เล่าให้ฟัง
หากว่าเรามั่นใจว่า อดีต-ปัจจุบัน- อนาคต เกิดขึ้นพร้อมกันหมดในโลกของจิตวิญญาณ
เหตุการณ์เช่นนี้จึงเกิดขึ้นได้ แต่คนที่คิดจะทำเล่นเพื่อ Test ทดสอบคงทำคงไม่ได้แน่ นอกเสียจากมีเหตุที่จำเป็นจริงๆนะครับ

ส่วนที่คุณ Avatar_Boy พูดถึงเทคนิคที่เรียกว่า REMOTE VIEWING หรือการมองเห็นเป้าหมายที่เราจดจ่อจนสามารถวาดรูปบุคคลที่เราไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเชื่อว่าทุกๆคนทำกันได้ไม่ยากครับ เพราะเป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณที่เราทุกคนมีอยู่ ภาพที่วาดขึ้นมานี้เป็นการทดลองฝึกฝนการใช้ใจสัมผัสบุคลิกตัวตนนั้นๆด้วยอารมณ์ความรู้สึกและจินตนาการครับ แต่จะชัดสมจริงจนเหมือนตัวตนในอตีต-ปัจจุบันหรืออนาคตหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสติสัมปชัญญะกับทักษะในการถ่ายทอดของเราแต่ละคน..ไม่มีเคล็ดลับอื่นใดครับนอกจาก"แว่ปแรก"ที่เรารู้สึกกับบุคคลนั้นหรือสรรพสิ่งต่างๆ (ไม่ต้องเหมือน 100 %) ขอให้เรามีความสุขใจที่จะวาดเท่านั้นเองครับ
และที่คุณ Avatar_Boy กล่าวถึงไว้ทั้ง 3 ข้อเห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่า..

1.เราทุกๆคนเป็นหนึ่งเดียวกัน อยู่ในระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงกัน
2.เราทุกคนล้วนมีพลังในตัวเองในการเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่ง
3.ระยะทางช่องว่างและกาลเวลา เป็นเพียงมิติมายาเท่านั้น

และทักษะเหล่านี้เราอาจพัฒนาต่อยอดตามทิศทางที่เราปราถนาได้กันอย่างไม่มีขีดจำกัดได้จริงๆ
แต่ต้องอยู่ภายในเงื่อนไขกฎเกณฑ์ของโลกอย่างสมดุลย์ด้วยนะครับ เราอาสากันมาทำหน้าที่บนมิติโลกใบนี้ หากไม่ถึงเวลาจริงๆก็ไม่ควรฝืนธรรมชาติหากไม่จำเป็นนะครับ ดูจากพระศาสดาหลายๆท่านครับอย่าง พระพุทธเจ้า ตลอดกระทั่งอายุ 80 ปี..ท่านก็ไม่แสดงความเป็นยอดมนุษย์ออกมาให้ใครๆได้เห็น ท่านกลับแสดงออกถึงความเป็น"มนุษย์ที่สมบูรณ์"ให้เราได้เห็นเป็นแบบอย่าง..ส่วน พระเยซู ก็มีบันทึกถึงพลังแห่งความเหนือมนุษย์แสดงให้เห็นบ้างเช่น การแตะมือรักษาคนตาบอดให้มองเห็น การฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง ฯลฯ เหล่านี้คงแล้วแต่สถานการณ์ว่ามีเหตุจำเป็นเฉพาะกาลหรือไม่นะครับ..แต่ในที่สุดแล้วภาพความทุกข์ทรมานบนไม้กางเขนของท่านก็แสดงให้เราเห็นว่า "ร่างกายนี้เป็นเพียงสมมุติ จิตวิญญาณต่างหากที่เป็นอมตะ" (ท่านไม่แสดงฤทธิ์ทั้งๆที่ทำได้) เพื่อให้มนุษย์รู้ว่าความอดทด-อดกลั้น-ให้อภ้ย-รวมไปถึงความเพียร ล้วนเป็นประสบการณ์หนึ่งที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ด้วย ยังไงเรื่องราวเหล่านี้คงเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ให้เห็นความเป็นจริงของโลกแห่งจิตวิญญาณและโลกในมิติทางกายภาพ แล้วคำตอบจะกระจ่างชัดขึ้นในที่สุดนะครับ :-O