วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

สวัสดีครับพี่น้องชาวพลังจิต

ผมเป็นผู้ศรัทธา ศึกษา และสะสมวัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนา จังหวัดเพชรบุรีมาเป็นเวลาพอสมควร กระทู้นี้ตั้งมาเพื่อเผยแพร่ แบ่งปันบารมี แห่งองค์หลวงพ่อ

ยินดีให้คำปรึกษาเชิงสะสม รับเช่า-ให้เช่าบูชา และจัดหา วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนา ทุกประเภท

การรับประกันวัตถุมงคลที่ออกจากมือผมไปรับประกันแท้ตลอดชีพแบบ VIP
หากเช่าบูชาไปแล้วนำไปตรวจสอบแล้วว่าไม่แท้ จะคืนเงินบูชาให้ท่านเต็มจำนวน และเพิ่มค่าเสียเวลาให้

ในส่วนของช่องทางการติดต่อสามารถติดต่อได้ทาง
Line ID : ibaipai
หรือเบอร์โทรศัพท์ 083-6692691(ไผ่)

สำหรับบัญชีที่ใช้ในการโอนค่าวัตถุมงคลต่างๆในกระทู้
บัญชีธนาคารกรุงเทพ
เลขบัญชี 0880525902
ชื่อบัญชี ปานเทพ ครองเมือง

ในกระทู้นี้ท่านจะได้เจอ...
1. วัตถุมงคลที่แบ่งให้บูชา
2. ประวัติ-ปฏิปทา-เรื่องเล่า และประสบการณ์ต่างๆของหลวงพ่อตัด วัดชายนา จังหวัดเพชรบุรี

ขอบารมีหลวงพ่อตัด วัดชายนา ปกปักษ์รักษาให้ทุกท่านพบแต่ความดีครับผม

ด้วยจิตคารวะพระพุทธวิริยากร หลวงพ่อตัด วัดชายนา

 

ปฏิปทาหลวงพ่อตัด

1. ไม่สนใจลาภสักการะ
เงินที่หลวงพ่อตัดท่านได้รับการถวายมาจากญาติโยม ท่านก็จะนำไปพัฒนาทั้ง ถาวรวัตถุภายในวัด เช่นสร้างเจดีย์ กุฏิสงฆ์ โบสถ์ ฯลฯ ไม่เพียงแค่ภายในวัดชายนาเพียงเท่านั้น ยังมีวัดอื่นๆ ที่ท่านได้รับการนิมนต์ไปปลุกเสกอีกด้วย เวลาได้รับกิจนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลตามที่ต่างๆที่กำลังจะสร้างถาวรวัตถุ ก็จะได้รับเงินใส่ซองมา หลวงพ่อตัดท่านก็จะรับไว้ แล้วก็มอบคืนให้กับวัดนั้นๆ แถมยังให้เงินเพิ่มไปอีก เพราะวัดเหล่านั้นกำลังจะสร้าง หลวงพ่อตัดท่านก็ไม่อยากจะไปเบียดเบียนเขาเพิ่มเติมอีก นอกจากวัดแล้ว ก็ยังมีโรงเรียน, สถานีอนามัย, หน่วยราชการ หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่มีเงิน ก็ได้รับการช่วยเหลือเรื่องเงินจากหลวงพ่อตัด จวบจนกระทั่งหลวงพ่อท่านมรณะ มีเงินอยู่ในบัญชีส่วนตัวเพียงไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งเงินนี้เป็นเงินเดือนประจำตำแหน่งของท่าน เคยมีคนคิดเลขคร่าวๆว่า หลวงพ่อท่านได้ใช้เงินไปกับการสร้างและบำรุง บ้าน วัด โรงเรียน อันเป็นฉายาของท่านคือ “บวรกิจโกศล” ไปไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท

2. ปฏิบัติตนสมกับสมณเพศ

หากคนที่เคยเข้าไปกราบหลวงพ่อตัดสมัยท่านยังดำรงสังขารอยู่จะเห็นได้ว่าภายในกุฏิของหลวงพ่อท่านจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเลย ไม่ว่าจะเป็นแอร์ ทีวี ตู้เย็น ที่จำวัดของท่านก็มีเพียงจีวร หมอน และพื้นที่เล็กๆที่พอสำหรับคนหนึ่งคนนอนเท่านั้น เคยมีลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่ออยู่ท่านนึง เห็นว่าหลวงพ่อมักจะฟังข่าวจากวิทยุเก่าๆของท่านทุกวัน เลยไปเสนอกับหลวงพ่อว่าจะซื้อทีวีมาถวาย หลวงพ่อตัดก็ตอบกลับมาว่า ”มึงซื้อมาสิ กูจะทุบให้ดู ไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่จะมานั่งดูทีวงทีวี”

2. ชอบทดสอบจิตใจ กำลังใจของผู้เข้าไปหา
เรื่องที่ได้ยินจนติดหูจากคนที่เคยไปกราบหลวงพ่อตัด ก็จะเจอท่านทักทายประโยคเดียวกันคือ “พวกมึงจะมากันทำไมที่นี่ วัดแถวบ้านพวกมึงไม่มีกันรึไง” ด้วยเสียงอันดัง หรือจะเป็นประโยคอื่นๆที่อาจจะทำให้คนที่จิตใจไม่มั่นคงถึงขั้นเสียน้ำตากันเลยทีเดียว

3. ไม่อวดตัว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงปี พ.ศ. 2549-2551 ในช่วงที่หลวงพ่อตัดยังดำรงสังขารอยู่ ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ “หลวงพ่อตัด วัดชายนา” ช่วงนั้นก็มีลูกศิษย์ และสื่อต่างๆ อย่างจะมาสัมภาษณ์หลวงพ่อ เพื่อที่จะเอ้าข้อมูลท่านไปลงหนังสือ, ออกโทรทัศน์ แต่ทุกสื่อถูกหลวงพ่อปฏิเสธกันทุกราย จะมีก็เพียงรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่หลวงพ่อตัดอนุญาตให้ถ่าย โดยขณะนั้น หลวงพ่อท่านดำริให้สร้างเจดีย์ ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก หลวงพ่อท่านเลยอนุญาตให้รายการมาถ่ายเพื่อที่จะให้คนรู้ว่าทางวัดกำลังจะสร้างเจดีย์นี่เอง เป็นเทปแรกและเทปเดียวที่หลวงพ่อตัดท่านอนุญาตให้ถ่ายไว้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ

4. ชอบแจกวัตถุมงคล
หลวงพ่อตัดท่านไม่ชอบจำหน่ายวัตถุมงคลแต่ชอบแจก ในสมัยก่อนหากวัดมีโครงการจะสร้าง หรือบูรณะอะไรสักอย่างภายในวัด หลวงพ่อตัดท่านก็จะให้มีการจำหน่ายวัตถุมงคลที่ตู้ของวัด หากได้รับเงินเพียงพอแล้ว หลวงพ่อตัดท่านจะสั่งปิดตู้วัตถุมงคลทันที ในสมัยก่อนจะมีตู้บริจาคตั้งอยู่ข้างๆที่นั่งของหลวงพ่อ เวลาหลวงพ่อตัดท่านแจกวัตถุมงคลไม่ว่าจะเป็นตะกรุดในบาตร ขุนแผนรุ่นสอง ลูกแก้ว ปลัดขิก ผ้ายันต์ฯลฯ ศิษย์ก็จะนำเงินไปหยอดตู้นั้นตามชอบใจ หรือจะไม่หยอดก็ได้ หลวงพ่อท่านก็ไม่เคยว่าอะไร จนมีช่วงปี 2549 ที่ทางวัดเริ่มแบกรับค่าใช้จ่ายของตะกั่วที่นำมาทำตะกรุดไม่ไหว เนื่องจากมีคนเข้ามากราบ มาขอตะกรุดจากหลวงพ่อเป็นจำนวนมาก จึงกำหนดมีป้ายกำหนดให้ช่วยค่าตะกั่วดอกละ 100 บาทเท่านั้น นอกจากนี้เวลาหลวงพ่อตัดท่านได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกตามวัดต่างๆ ศิษย์จะเห็นภาพประจำคือ หลวงพ่อตัดจะหิ้วกระป๋องสังฆทานที่ด้านในเต็มไปด้วยตะกรุดที่นำมาแจกผู้คน จากการประมาณคร่าวๆ หลวงพ่อตัดท่านแจกตะกรุดไปไม่ตำกว่า 100,000 ดอก

5. เป็นตัวอย่างให้กับพระด้วยกันและพุทธศาสนิกชน
หลวงพ่อตัดเป็นพระที่เคร่งในพระวินัย ท่านให้ความสำคัญกับการนุ่งห่มผ้าเป็นอย่างมาก เวลาหลวงพ่อตัดท่านจะออกไปไหน ท่านมักจะนุ่งห่มอย่างเรียบร้อย ลูกศิษย์ลูกหาจะรู้กันดีว่าหลวงพ่อตัดท่านไม่ชอบให้คนถ่ายรูปท่านเวลาท่านห่มผ้าไม่เรียบร้อย เคยมีคนแอบถ่ายหลวงพ่อตัดตอนที่ท่านอยู่ในวัดแบบสบายๆ ปรากฏว่าโดนหลวงพ่อตัดท่านเอ็ดซะจนหน้าเสีย เวลาท่านว่างจากกิจนิมนต์ ก็จะถือกระป๋องเปล่าหนึ่งใบ เดินเก็บขยะ, ก้นบุหรี่ที่คนสูบแล้วทิ้งไม่เป็นที่รอบๆวัด เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพระสงฆ์ในวัด ในส่วนของพุทธศาสนิกชน ผู้ที่ไปร่วมพิธีสำคัญเช่นเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ ก็จะเห็นหลวงพ่อตัดท่านสวดมนต์เสียงดัง อักขระชัดเจน ซึ่งหลวงพ่อท่านก็ได้อธิบายว่าภาษาของพระพุทธเจ้า พูดให้ดังให้ชัดเป็นเรื่องดี หากมีความรู้เรื่องความหมายก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก นอกจากนี้ หลวงพ่อจะให้ความสำคัญกับเรื่องกาลเทศะมาก ท่านบอกว่าถ้าคนไม่มีกาลเทศะมันก็ไปไม่ถึงไหน

6. เป็นผู้คงแก่เรียน
หลวงพ่อตัดท่านสนใจใฝ่รู้ด้านอักขระ เลขยันต์ คาถาอาคมตั้งแต่สมัยบวชใหม่ๆ จากสมุดบันทึกของท่าน ที่ท่านเขียนด้วยตัวเอง รวมๆแล้วที่เกี่ยวกับวิชาต่างๆที่ท่านรู้ที่ท่านเรียนมานั้นมีจำนวนร่วม 10 เล่มที่จดด้วยลายมือท่านเอง ยังไม่รวมตำรับตำราจากบันทึกเก่าๆที่สืบทอดกันต่อมาอีก วิชาที่เราเห็นเรารู้นั้นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยที่ท่านเรียนมาเท่านั้น

7. มั่นใจแล้วจึงแจก
เวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงพ่อท่านจะต้องมั่นใจจริงๆว่าวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกนั้นสามารถคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆให้ผู้ที่จะนำไปพกพา เมื่อคราวหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรกบริเวณหน้ากุฏิ หลังจากปลุกเสกเสร็จแล้วท่านก็บอกกับคณะผู้สร้างว่า เนื้ออื่นเต็มหมดแล้ว(ทองแดง, เงิน, ตะกั่ว) แต่เนื้อเจ้าน้ำเงินยังไม่เต็ม เนื้อมันแข็ง จึงสั่งให้คณะศิษย์ยกเข้าไปในห้องปลุกเสกต่อจนกระทั่งท่านมั่นใจว่าท่านอัดปราณและพุทธคุณเข้าไปเต็มที่แล้วจึงเรียกศิษย์มารับกลับไป ผู้ที่แขวนรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรกนี้ก็ประสบพบเจอประสบการณ์ดีๆต่างๆเป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหา นอกจากนี้อะไรที่ท่านปลุกเสกไม่เป็น ท่านก็จะบอกตามตรงว่าท่านเสกไม่เป็น มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกจตุคาม ท่านก็ยังไปถามพระรูปหนึ่งว่า “จตุคามนี่มันเสกยังไง” เราจึงมั่นใจได้ว่าวัตถุมงคลที่หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกนั้น ท่านรู้จริง เจนจบในวิชานั้นๆแล้วท่านจึงปลุกเสกให้ด้วยความมั่นใจ

8. ไม่แสดงความอ่อนแอให้ศิษย์เห็น
แม้ว่าช่วงท้ายๆชีวิตของหลวงพ่อตัดท่านจะอาพาธจากอาการอัมพฤกษ์(มีเขียนเรื่องที่มาของอาการนี้ในหนังสือ) ท่านก็มักจะไม่แสดงความอ่อนแอว่าท่านเจ็บป่วยจากโรคนี้อยู่ จะเห็นได้จากรายการที่ได้ไปอัดไว้ก่อนที่ท่านจะมรณะ หลวงพ่อตัดจะพยายามเอาผ้าคลุมแขนของท่านข้างที่ขยับไม่ได้ไว้เสมอ อาจจะเป็นด้วยเหตุผลที่ว่าท่านไม่อยากให้ใครมาเห็นอกเห็นใจหรือเป็นห่วงท่านมากนัก ท่านยังเคยพูดติดตลกกับลูกศิษย์ไว้ว่า “กูเป็นโรคคนรวย นั่งกิน นอนกิน” แล้วก็หัวเราะ จริงๆแล้วท่านก็บอกกับศิษย์ใกล้ชิดอยู่เสมอว่าสังขารท่านมันไม่ไหวแล้ว แต่ต้องอยู่ทำอะไรที่ท่านวางแผนไว้ให้เสร็จก่อน ก่อนวันที่หลวงพ่อตัดท่านจะมรณะท่านก็ไปทำภารกิจที่วัดหนองหงษ์ และก็ได้นั่งแจกตะกรุดแบบไม่มีทีท่าว่าท่านจะเจ็บป่วยหรืออะไร แต่พอเสร็จสิ้นภารกิจวัดหนองหงษ์แล้ว เช้าวันถัดมาท่านก็มรณภาพอย่างสงบ

9. เป็นห่วงศิษย์ รักศิษย์ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ไกล
เมื่อปี พ.ศ. 2540 มีการสร้างวัตถุมงคลเนื่องในวาระที่หลวงพ่อตัดท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์ ในครั้งนั้นหลวงพ่อตัดท่านก็ดำริให้สร้างรูปหล่อเท่าองค์จริงขึ้น โดยที่ท่านบอกกับศิษย์ไว้ว่า “ถ้ากูไม่อยู่แล้ว มีอะไรให้มาบอกที่รูปหล่อนี้ เดี๋ยวกูจะทำให้” นี่แสดงถึงความรักความเป็นห่วงศิษย์กลัวว่าศิษย์จะไม่มีที่พึ่งเมื่อยามลำบาก มีลูกศิษย์หลวงพ่ออยู่ท่านนึง ศิษย์ท่านนี้เป็นทหารและมักจะคาดปลัดขิกที่หลวงพ่อปลุกเสกให้จนเต็มเอว จะสามารถพบเจอท่านได้ที่วัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งวันสำคัญ เช่น งานไหว้ครู โดยศิษย์ท่านนี้ก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคราวแกไปอยู่ใต้ ก็พกปลัดขิกเต็มเอวเหมือนกัน มีอยู่วันหนึ่งต้องออกไปเดินลาดตระเวนสำรวจพื้นที่ เดินไปสักพักก็ได้ยินเสียงตะโกนมาว่า “หมอบ” ศิษย์ท่านนี้ก็ตกใจและก็หมอบลงตามเสียงนั้น ผ่านไปไม่กี่วินาทีก็มีเสียงระเบิดดังอยู่ไม่ไกลจากที่ๆหมอบอยู่ โดยทหารคนอื่นๆส่วนใหญ่ก็โดนสะเก็ดระเบิดกันไป ศิษย์ท่านนี้ก็ไปถามในหมู่เพื่อนทหารว่าได้ยินเสียงที่บอกให้หมอบหรือไม่ แต่ก็ปรากฏว่าม่มีใครได้ยินเสียงนั้น และเสียงที่ศิษย์ท่านนี้ได้ยินและจำได้ติดหูก็คือ “เสียงของหลวงพ่อตัด” นี่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความเมตตา ความเป็นห่วงแก่ศิษย์ไม่ว่าอยู่ใกล้หรือไกลอย่างแท้จริง

​

 

การศึกษาพุทธาคม

หลวงพ่อตัด ท่านสนใจใคร่รู้ในเรื่องวิชาอาคม เครื่องราง ของขลังต่างๆ เมื่อท่านบวชแล้ว ท่านก็เพียรพยายาม ไปเล่าเรียนวิชาต่างๆ ใครว่าที่ไหนมีวิชาดี อาจารย์ที่ไหนดัง ท่านดั้นด้นไปขอเรียนมาจนหมด ดังรายนามอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาของหลวงพ่อ ตามที่มีการสอบถามและบันทึกไว้ได้มีดังนี้

- หลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อทองท่านก็สืบทอดวิชามาจากหลวงพ่อกริช เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดเขากระจิว หากกล่าวถึงหลวงพ่อกริชนั้น ท่านก็ได้สืบทอดวิชามาจาก หลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี เจ้าของตำนานตะกรุดไมยราพสะกดทัพอันโด่งดังอันดับต้นๆของเมืองไทย นอกจากวิชาทำตะกรุดของวัดเขากระจิว หลวงพ่อตัดท่านยังได้ศึกษาวิปัสสนา กัมมัฏฐานกับหลวงพ่อทอง ซึ่งหลวงพ่อทองท่านมีความสนิมสนมกับท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส ในฐานะเคารพเป็นครูบาอาจารย์ อีกทั้งตำราเก่าๆที่รวบรวมสรรพวิชาต่างๆมากมาย ที่ตกทอดสืบมาจากหลวงพ่อกริช หลวงพ่อก็ได้ศึกษาจนแตกฉานหมดสิ้น



- หลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิ บางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี

พระอาจารย์องค์สำคัญอีกองค์หนึ่ง หลวงพ่อท่านมีความศรัทธาหลวงพ่อชุ่มมาก หลังจากที่ได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาท่านเอง เมื่อครั้งที่หลวงพ่อชุ่มท่านได้มาพุทธาภิเษก วัตถุมงคลที่วัดเขากระจิว เมื่อปี ๒๔๙๖ หลวงพ่อตัดจึงตามไปขอเรียนวิชาทำปลัดขิกจากหลวงพ่อชุ่มจนสำเร็จ



- พระเทพวงศาจารย์หลวงพ่ออินทร์ วัดยาง

หลวงพ่ออินทร์ ช่วงวัยเด็กท่านศึกษาวิชาอยู่กับหลวงพ่อกุน วัดพระนอน และเคยจำพรรษาเพื่อเล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม หลวงพ่อตัดท่านได้ไปกราบท่านเจ้าคุณอินทร์เพื่อปรึกษาเรื่องการสร้างวัด และขอเรียนวิชาทำตะกรุดไร้โรคา วิชาโภคทรัพย์และเคล็ดวิชาอีกบางประการ



- หลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์

หลวงพ่อเทพท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่คนในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีนับถือมาก โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ท่านเชี่ยวชาญเรื่องการดูฤกษ์ยาม การเจิมรถ วิชาเกี่ยวกับการค้าขายเรียกคนเรียกทรัพย์ หลวงพ่อตัดท่านได้ไปเรียนวิชา นะเมตตา วิชาประสบเนตรและเกร็ดวิชาอื่นๆเกี่ยวกับเมตตามหานิยม



- หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร

ท่านเป็นเกจิยุคเก่าที่เชี่ยวชาญเรื่องการปลุกเสกปลัดขิกมาก เวลาท่านทำปลัดเสร็จ ท่านจะให้ลูกศิษย์ยกไปเทใส่กองไฟ ตัวไหนไม่ไหม้ไฟจึงจะใช้ได้ หลวงพ่อตัดท่านได้ไปเรียนวิชาทำปลัดขิกเพิ่มเติมจากศิษย์หลวงพ่อบุศย์ ที่เป็นฆารวาสที่สืบทอดวิชา รวมทั้งตำราเก่าต่างๆ



- หลวงพ่อเทียบ วัดมาบปลาเค้า

ท่านเป็นศิษย์อธิการชัน เกจิยุคเก่าอีกองค์ที่ไม่ธรรมดา สายวิชาหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว หลวงพ่อตัดได้เรียนวิชาตะกรุดทองคำและเคล็ดวิชาอื่นๆ



ในที่นี้ผู้เขียนขอเล่าถึงหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อทองศุขท่านถือได้ว่าเป็นเกจิอาจารย์ใหญ่แห่งยุคในจังหวัดเพชรบุรี ผู้เขียนได้เรียนถามกับหลวงพ่อตัดท่านโดยตรงว่าท่านได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อทองศุขหรือไม่ หลวงพ่อตัดท่านเล่าว่าท่านไม่ได้ศึกษากับหลวงพ่อทองศุขโดยตรง เพียงแต่ได้ไปกราบนมัสการ และสอบถามเคล็ดวิชาบางประการเท่านั้น ซึ่งหลวงพ่อทองศุขก็เมตตาบอกเคล็ดวิชาบางประการให้ พร้อมพูดกับหลวงพ่อตัดด้วยประโยค ซึ่งหลวงพ่อท่านจำได้ดี

หลวงพ่อทองศุข ท่านพูดว่า " ถ้ามึงทำได้จริงเมื่อไหร่ มึงจะเดือดร้อน " ซึ่งในภายหลังก็ตรงกับกับพูดของหลวงพ่อทองศุขจริงๆ เพราะช่วงหลังในบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อตัด ท่านก็มีลูกศิษย์มากราบนมัสการมากมายตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันดึกดื่น แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย


- โยมพุฒ บ้านบางเก่า อ.ชะอำ

หลวงพ่อได้เรียนวิชามนต์จินดามณี หรือมนต์พระสังข์เรียกเนื้อเรียกปลา และวิชาการทำพระขรรค์ ได้รับ การถ่ายทอดจากโยมพุฒ เป็นอาจารย์ฆราวาส บ้านอยู่เขต อ.ชะอำ วิชามนต์จินดามณีวิชานี้เด่นทางเรียกคน เรียกทรัพย์ วิชานี้เป็นวิชาอาถรรพ์ สืบทอดกันได้แค่คนต่อคนเท่านั้น คือเมื่อเจ้าของเดิมเลือกที่จะถ่ายทอดให้ใครไปแล้ว ก็ต้องเสียชีวิตลงภายในเวลาไม่นานนัก และโยมพุฒ ก็เสียชีวิตลงภายใน ๓ วัน หลังจากมอบให้กับหลวงพ่อตัด


- อาจารย์พงษ์ บ้านหนองจอก

เป็นอาจารย์ฆราวาสที่มีชื่อเสียงทางด้านการสักยันต์ บ้านอยู่ที่ ต.หนองจอก วิชานางโลมของอ.พงษ์นี้เป็นสรรพวิชาที่รวมเอาทั้งคงกระพัน มหาอำนาจ แคล้วคลาด และเมตตาอยู่ในหนึ่งเดียว ซึ่งอาจารย์พงษ์ หวงวิชานี้มาก แต่ถ่ายทอดให้กับหลวงพ่อตัดมา อาจารย์พงษ์ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง และลูกศิษย์หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง ก่อนที่อาจารย์พงษ์จะเสีย ท่านได้ให้คนไปตามหลวงพ่อเพื่อจะถ่ายทอดวิชาฝังเข็มทอง แต่หลวงพ่อท่านไม่ขอไปเรียน ตำราฝังเข็มทองในเพชรบุรีจึงขาดการถ่ายทอดไป


- โยมมอญ

เรียนวิชานะมหาอ่อนใจ ซึ่งโยมมอญท่านหวงมาก หลวงพ่อตัดใช้ความพยายามเรียนอยู่ถึง ๓ ปี จึงจะสำเร็จ โยมมอญเป็นอาจารย์ฆราวาสและท่านเป็นอาจารย์หญิงท่านเดียว ที่หลวงพ่อตัดไปขอเรียนวิชาด้วย ซึ่งวิชานี้หลวงพ่อตัด ท่านใช้สร้างและปลุกเสกสีผึ้งเมตตาค้าขายของท่าน


- อาจารย์หวั่น บ้านปราณบุรี

หลวงพ่อท่านไปเรียนวิชาขุนแผนชมตลาด ทั้งบทย่อและบทเต็ม วิชานี้เด่นทางมหาเสน่ห์กับเพศตรงข้าม มหานิยม เมตตาค้าขาย และหลวงพ่อตัดท่านได้ใช้วิชานี้ มาสร้างและปลุกเสกพระขุนแผนของท่านด้วย


- หมอพรหม บ้านเขากระจิว

ท่านเป็นอาจารย์ฆราวาสที่มีเชื้อสายลาวโซ่ง ซึ่งมีวิถีชีวิต วัฒนธรรมเกี่ยวกับภูตผี หลวงพ่อท่านได้เรียนวิชา กันคุณไสย ลมเพลมพัด วิชาขับไล่ผี


อันวิชาที่ท่านเรียนมานี้ ยังมีอีกมากที่เราไม่ทราบว่าท่านเรียนมา จากที่ใด อาจารย์องค์ไหน และรวมไปถึงการไปขอต่อวิชาเพิ่มเติมกับอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกแต่คิดว่ามีแน่ เพราะหลวงพ่อท่านชอบศึกษาเรียนรู้ในทางนี้มาก ตำรับตำราเก่าๆสายเพชรบุรีทั้งหลวงพ่อกุน วัดพระนอน หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวงและอื่นๆท่านก็ศึกษามาหมด แต่ท่านไม่ชอบพูดคุยหรือโอ้อวดให้ใครฟัง ทำให้เรารู้แต่เพียงคร่าวๆ เท่านี้ครับผม

 

หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี พูดถึงหลวงพ่อตัด วัดชายนา

 

"อะไรคือผงเยี่ยวชะนี?"

ถ้าเป็นศิษย์สายวัดชายนาแต่เก่าก่อนอาจจะรู้อยู่แล้ว
แต่มีหลายๆท่านที่ยังไม่ทราบ อาจจะสงสัยว่าผงเยี่ยวชะนีคืออะไร มาครับ เดี๋ยวบ้านพุทธคุณจะเล่าให้ฟัง

ผงเยี่ยวชะนีเป็นยาสเน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว จ.เพชรบุรี บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง

ยาสเน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิด เช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ยอดมะยม ดอกกาหลง และมวลสารลึกลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำราจนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี
หลวงพ่อตัดจึงนำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่นเพื่อให้เกิดผลทางมหาสเน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย และหลวงพ่อท่านจะปลุกเสกด้วยวิชาทางเมตตาต่างๆ เช่น วิชานะมหาอ่อนใจ วิชาขุนแผนชมตลาด วิชาประสบเนตร ซึ่งคนเก่าแก่ท่านบอกว่าหากได้สบสายตาแล้ว บ้านก็ยังยกให้ได้ และยังมีวิชามนต์จินดามณี(เกร็ดเพิ่มเติมมี แต่เกรงว่าจะยาวเกินไป) ซึ่งมนต์นี้มีแรงครูแรงมาก ใช้ทางเรียกลาภสักการะ แก้วแหวนเงินทอง วิชานี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจะได้ช่วยเหลือได้เต็มที่ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

จากที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นเหตุผลที่พระผงของวัดชายนาที่ผสมด้วยเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องเมตตามหานิยม มหาสเน่ห์ โชคลาภและโภคทรัพย์

"ตะวันออกมีผงพรายกุมาร ตะวันตกมีผงเยี่ยวชะนี"

ไผ่ บ้านพุทธคุณ

​

​

 

รายการที่ 1 ขุนแผนเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548

เนื้อบล็อกแรกนิยม องค์พระหนา หลังโรยผงเหล็กน้ำพี้เป็นเอกลักษณ์ของยุคปี 2548
ถ้าชอบแบบผงเยี่ยวชะนีเน้นๆ ก็ต้องยุคนี้ล่ะครับ รวมแล้วสร้างไว้เพียงหลักร้อยองค์เท่านั้น หายากแล้วครับผม

องค์นี้พระอาจารย์ทินเมตตาจารคาถานะเมตตาด้วยหมึกทองรอบองค์
มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

**** สำหรับ 5 ท่านแรกที่บูชาพระจากผมไป ขอมอบหนังสือชีวประวัติและวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ไปให้ท่านละ 1 เล่ม ครับผม

 

รายการที่ 2 ล็อกเก็ตรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2547

ดีนอกดีใน เป็นวัตถุมงคลที่แขวนไว้สื่อสารกับท่านได้อย่างดีที่สุด
ด้านหลังติดแผ่นเงินจารมือหลวงพ่อ และ ตอกโค๊ดกำกับ
พระอาจารย์ทินเมตตาจารนะเมตตาให้แล้วครับผม

ผงที่อุดด้านหลังล็อกเก็ตประกอบด้วย

1. พระผงสมเด็จครูบาชุ่มและครูบาขันแก้ว 15 องค์
2. ผ้ายันต์ครูบาชุ่ม ปี 2517 2 ผืน
3. ผ้ายันต์ชายธง หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม 1 ผืน
4. พระผงพระครูนนท์ 4 องค์
5. พระผง 5 เมตตา หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค 4 องค์
6. พระผงสมเด็จหลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว 2 องค์
7. พระผงสังกัจจายน์องค์ใหญ่ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม 1 องค์
8. พระผงสมเด็จหลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง 4 องค์
9. พระผงสมเด็จ หลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาส 20 องค์
10. พระผงหลวงพ่อเกษร วัดท่าพระ 20 องค์
11. พระผงเสด็จกลับ หลวงปู่สุภา 20 องค์
12. พระผงพุทธนิมิตร อ. ชุม ปี 2496 20 องค์
13. ผงลูกอมหลวงพ่อโอด วัดจันเสน 5 ลูก
14. ผงลูกอม หลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน 5 ลูก
15. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง
16. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่
17. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อเกรียง วัดวังน้ำเย็น
18. ผงพุทธคุณ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
19. ผงพระธาตุพนม ปี 2518
20. ผงธูปบูชาพระวัดต่างๆ
21. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อตัด วัดชายนา
22. เกศาหลวงพ่อตัด วัดชายนา

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

**** สำหรับ 5 ท่านแรกที่บูชาพระจากผมไป ขอมอบหนังสือชีวประวัติและวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ไปให้ท่านละ 1 เล่ม ครับผม

 

รายการที่ 3 ตะกรุดพอกครั่ง วันเพ็ญปี 2551 หลวงพ่อตัด วัดชายนา

สาเหตุการสร้างตะกรุดชุดนี้ เพื่อนำปัจจัยจากการร่วมบุญไปบูรณะซ่อมแซมหอระฆังของวัดชายนา ด้านในเป็นแผ่นจารมือ ยันต์มหาอุด และ ยันต์ตรีนิสิงเห หลวงพ่อตัดปลุกเสกหลายเดือนก่อนจะไปปลุกเสกวันปิดท้ายคือวันเพ็ญเดือน 12 ปี 2551
ที่หลวงพ่อท่านเน้นจบที่วันเพ็ญเนื่องจากเพิ่มพุทธคุณทางเมตตาเข้าไปด้วย ตะกรุดชุดนี้มีจำนวนไม่มากครับ ประมาณ 300 ดอก เท่านั้น

ดอกที่ลงเป็นดอกที่สวยสมบูรณ์มาก พระอาจารย์ทินเมตตาจารหมึกทองกำกับแน่นๆ
ตอนนี้หายากแล้วครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

**** สำหรับ 5 ท่านแรกที่บูชาพระจากผมไป ขอมอบหนังสือชีวประวัติและวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ไปให้ท่านละ 1 เล่ม ครับผม

 

รายการที่ 4 สมเด็จชนะมาร หลวงพ่อตัด วัดชายนา

เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่หลวงพ่อตัดท่านดำริให้สร้างขึ้น
มาดูมวลสารคร่าวๆ อันมี
ลูกอมผงพรายฯ ของหลวงปู่ทิม
ผงพระธาตุพระสีวลี ถ้ำเอราวัณ จ.ลพบุรี
ผงจิตรลดา
ผงสมเด็จวัดระฆัง
ยาจินดามณีของหลวงปู่เพิ่ม และหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
ผงทองจากงานบูรณะพระพุทธชินราช องค์จริง จาก จ.พิษณุโลก
น้ำมันพญาไก่แดง และอื่นๆที่หลวงพ่อตัดท่านดำริให้ใส่ไปด้วย

จากนั้น คณะผู้สร้าง ก็ได้นำผงมวลสารชุดนี้ไปกราบขอเมตตาครูบาอาจารย์อธิษฐานจิตโดยการจุดธูปบอกกล่าว
ขอให้ได้พบ ได้รับเมตตา จากครูบาอาจารย์ที่พบท่านได้ยากนักหนา
อันมี หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน พระผู้อยู่เหนือกาลเวลา จาก จ.เพชรบูรณ์ ท่านได้สัมผัสมวลสารชุดนี้ แล้วบอกว่า
"โอ้ย สุดยอดแล้ว ไม่ต้องทำอะไรแล้ว"

จากนั้น ขึ้นเหนือไปหา ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร - ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิต และมอบพระธาตุสีดำๆ ให้มาเป็นมวลสารด้วยอีกจำนวนหนึ่ง

จากนั้น โค้งสุดท้าย คณะทำงานได้นำมวลสารมาให้หลวงพ่อตัดพิจารณา หลวงพ่อตั้งท่าจะอธิษฐานจิต ก็สะดุ้ง แล้วบอกกับกลุ่มผู้ที่หลวงพ่อดำริให้ไปสร้างว่า
"โห พวกมึงเอากันขนาดนี้เชียวรึ!"

โดยพระชุดนี้ทำจากมวลสารล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นปนเลย เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่น่าใช้ครับผม

คัดสวยทั้งสององค์ แบ่งให้บูชาเบาๆองค์ละ 450 บาทพร้อมส่งครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วทั้งสององค์ครับผม

**** สำหรับ 5 ท่านแรกที่บูชาพระจากผมไป ขอมอบหนังสือชีวประวัติและวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ไปให้ท่านละ 1 เล่ม ครับผม

 

รายการที่ 5 พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก(พระผงขาโต๊ะ) หลวงพ่อตัด วัดชายนา

"นี่รูปกู กูทำเอง พวกมึงเก็บกันไว้ให้ดีนะ ต่อไปจะหาไม่ได้"

เป็นคำพูดของหลวงพ่อตัดที่ท่านพูดถึงพระพิมพ์นี้ครับ

มวลสารจากการที่หลวงพ่อตัด พระที่บวชช่วงนั้นและเณรในวัดช่วยกันหามา
เริ่มทำตั้งแต่ช่วงปี 2518 เรื่อยมา จนมาแจกอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2525 เนื่องในวันผูกพัทธสีมาของวัดชายนาครับ

เคยถามศิษย์รุ่นเก่าหลายคนเลือกห้อยพระผงรุ่นนี้เพราะว่ามีทั้งรูปหลวงพ่อตัด เกศาหลวงพ่อ(เห็นบ้างไม่เห็นบ้างแต่มีทุกองค์) และฉายาหลวงพ่ออยู่ด้านหลัง("ปวโร" ที่อยู่แถวกลาง)

ข้างหลังด้านซ้ายคือคาถา "พุทธะสังธัมมังโลเก" มีคนเคยสอบถามหลวงพ่อตัดท่านว่ามีอุปเท่ห์อย่างไร ท่านตอบว่า "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุ้มครองโลก" คือตราบใดที่เราเหยียบอยู่บนโลก พระรัตนตรัยก็จะคุ้มครองเรา
ส่วนด้านขวาคือคาถา "อุสะหะสะปะสะอุ" มีคนเคยถามหลวงพ่อตัดเหมือนกัน ท่านยิ้มๆแล้วก็บอกว่า เป็นคาถาเสกเบี้ยกันแมงกินฟัน แต่ความจริงแล้วคือ เป็นคาถาแรกๆ วิชาแรกๆที่หลวงพ่อตัดท่านสำเร็จตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ โดยหลวงพ่อท่านถากเปลือกไม้แล้วเสกคาถาบทนี้แล้วให้คนเอาไปลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออกเป็นมหาอุดกันภัยชั้นยอด

ศิษย์ที่เคยบวชกับหลวงพ่อตัดที่ทำตะกรุดฉายาหาย(ตะกรุดที่หลวงพ่อตัดท่านจารให้พระที่บวชกับท่านทุกองค์) ก็แขวนรุ่นนี้แทน ไปไหนเหมือนมีท่านไปด้วย

องค์นี้หากไม่ขอบด้านขวาองค์พระไม่หลุดไปซักนิดนึงก็ต้องมี 1500 บาทขึ้นไปล่ะครับ
เพราะหน้าตาก็ติดชัด ถ้าเอาไปเลี่ยมแขวนก็ไม่อายใครครับ

มีผู้บูชาแล้วครับผม

**** สำหรับ 5 ท่านแรกที่บูชาพระจากผมไป ขอมอบหนังสือชีวประวัติและวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ไปให้ท่านละ 1 เล่ม ครับผม

 

รายการที่ 3 ตะกรุดพอกครั่ง วันเพ็ญปี 2551
จองครับ

 

รับทราบการจองครับ โอนแล้วแจ้งชื่อที่อยู่จัดส่งทาง PM ได้เลยครับผม
ขอบพระคุณครับ

 

โอนแล้วครับเวลา 06:48 น.ที่จัดส่งแจ้งทาง กล่องข้อความแล้วครับ

 

รับทราบการจองครับผม
โอนแล้วส่งชื่อและที่อยู่จัดส่งทาง PM ได้เลยครับผม
ขอบพระคุณครับ

 

ถ้าจะพูดถึงพระมหาเถระที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดหลวงพ่อตัด วัดชายนามากที่สุด ก็คงจะไม่พ้นที่จะเป็นท่านเจ้าคุณ "พระพินิตสมณการ"หลวงพ่อผล เตชธัมโม แห่งวัดสหธรรมมิกการาม(หนองแขม) ศิษย์พี่ศิษย์น้องกับหลวงพ่อตัด วัดชายนา หลวงพ่อผลท่านบวชมาจากวัดเขากระจิวเหมือนกับหลวงพ่อตัด เป็นศิษย์หลวงพ่อทอง วัดเขากระจิวเหมือนกัน
นอกจากนี้หลวงพ่อตัดท่านก็เคยเอ่ยไว้ว่า "หลวงพ่อผล ศีลสมบูรณ์"

เนื่องด้วยทางคณะศิษย์หลวงพ่อตัด วัดชายนาได้มีโอกาสเข้ากราบนมัสการท่านในวันทำบุญครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงพ่อตัด วัดชายนา(วันที่ 3 พค. 2558) ท่านได้เมตตาให้สัมภาษณ์แก่คณะศิษย์หลวงพ่อตัด วัดชายนา จึงสรุปใจความสำคัญดังนี้

กลุ่มศิษย์ : "อยากกราบขอเมตตาหลวงพ่อช่วยเล่าเรื่องในอดีตของหลวงพ่อตัด ในสมัยที่ท่านยังอยู่ที่วัดเขากระจิวครับ"

หลวงพ่อผล : "หลวงพ่อตัดท่านอาวุโสว่าหลวงพ่อ 4 พรรษา ท่านเป็นคนเสียงดังแต่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เหมือนคนดุ เพราะท่านมีหน้าที่ที่ต้องคอยสอนและอบรมพระเณรรวมทั้งเด็กวัดด้วย ในบางทีเจอเด็กวัดที่เกเรมากๆก็ถึงขนาดต้องใช้ไม้เรียว ท่านเป็นพระที่สนใจในเรื่องของคาถาอาคม เรื่องวิปัสสนากรรมฐานตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่ม"**

กลุ่มศิษย์ :"อยากทราบว่าหลวงพ่อตัดท่านเริ่มทำปลัดแจกตั้งแต่ตอนไหนครับ?"

หลวงพ่อผล :"ท่านเริ่มทำแจกตั้งแต่ท่านยังอยู่ที่วัดเขากระจิวแล้ว โดยท่านจะใช้ไม้จากต้นไม้ที่มีคนผูกคอตายมาจัดสร้างเป็นปลัดขิกสมัยนั้นยังแกะได้ไม่สวย รูปทรงขนาดก็ไม่แน่นอน แต่ท่านจะลงอักขระด้วยตัวท่านเองทุกตัว สมัยนั้นท่านทำแต่ปลัดขิก ส่วนตะกรุดมาทำในยุคหลัง"

กลุ่มศิษย์:"โดยส่วนตัวหลวงพ่อแล้ว หลวงพ่อคิดว่าหลวงพ่อตัดท่านชำนาญหรือเชี่ยวชาญด้านใดที่สุดครับ?

หลวงพ่อผลท่านเงียบไปสักครู่แล้วตอบว่า

หลวงพ่อผล :**"หลวงพ่อตัดท่านเก่งเรื่องการสร้างวัด พัฒนาวัด สร้างคน พัฒนาคนมากที่สุด ท่านต้องสร้างวัด สร้างคนให้ดีที่สุด"**

กลุ่มศิษย์ : "วันนี้เป็นวันครบรอบฯของหลวงพ่อตัด อยากทราบว่าที่พวกเราทำบุญให้ท่าน ท่านได้รับหรือรับทราบไหมครับ?

หลวงพ่อผล : "หลวงพ่อตัดท่านรับทราบ รับรู้ตลอด ท่านอยู่ที่วัดนั่นล่ะ"

กลุ่มศิษย์ : "ท่านอยู่ที่รูปหล่อใหญ่ที่ท่านหล่อเอาไว้ข้างกุฏิหรือครับ?"

หลวงพ่อผล : "ไม่เจาะจง ท่านอยู่ทั่วไป"

กลุ่มศิษย์ : "แบบนี้ถ้าลูกศิษย์คิดถึงท่านหรืออยากขอเมตตาจากท่านก็สามารถขอหรือจุดธูปขอได้ใช่ไหมครับ?"

หลวงพ่อผล : "ได้ ไม่ต้องจุดธูปก็ได้ ท่านอยู่ที่วัดชายนานั่นละ ระลึกถึงท่านก็ใช้ได้ แค่นึกถึงท่านก็มาแล้ว"

กลุ่มศิษย์ : "หลวงพ่อคิดถึงหลวงพ่อตัดไหมครับ"

หลวงพ่อผล : "ก็คิดถึงอยู่ ระลึกถึงอยู่"

กลุ่มศิษย์ : "อยากทราบว่าถ้าพวกเราคณะศิษย์ฯ คิดถึงหลวงพ่อตัด เราควรทำอย่างไรถึงจะดีครับ?"

หลวงพ่อผล : "ก็ให้สร้างความดีและทำบุญให้ท่าน แค่นี้ก็พอแล้ว"

สุดท้ายนี้ก่อนที่จะกลับ หลวงพ่อผลท่านได้ฝากให้คณะศิษย์ฯ ให้อย่าลืมเรื่องการไหว้พระสวดมนต์ท่านบอกว่าสวดบทใดก็ได้ จะภาวนาพุทโธก็ได้ ท่านบอกให้สวดก่อนนอนทุกวันโดยเฉพาะบทพุทธคุณ(อิติปิโสฯ)ท่านบอกว่าสามารถช่วยผู้ที่ดวงตก ชะตาขาด ดวงไม่ดีท่านบอกให้สวดทุกวัน ไม่ต้องรอดวงไม่ดีแล้วจึงสวด สวดทุกวันสร้างบุญทุกวัน ต่อชะตาทุกวัน

**** ผมมาลองทบทวนดู คิดกี่ทีผมก็แปลกใจนะ ผมพยายามหาความวิเศษจากคำตอบของหลายๆคนและคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่วิจิตร พิสดารเพื่อมาตอกย้ำความวิเศษของหลวงพ่อตัด แต่สุดท้าย ทุกคำตอบก็วนกลับมาที่เดิม คือว่า หลวงพ่อตัดท่านเป็นพระธรรมดาที่วิเศษมากๆ ไม่วิเศษจนไม่เหลือธรรมดาใดๆ

 

รายการที่ 6 รายการนี้บอกเลยว่า Limited Edition ครับ
รูปถ่ายหลวงพ่อตัด วัดชายนา หลวงพ่อตัดเมตตาเซ็นต์ลายเซ็นต์

รูปชุดนี้จัดทำมาในช่วงปี 2547-48
ผู้รู้ท่านว่าสิ่งที่จะใช้สื่อสาร คุยกับหลวงพ่อได้ดีที่สุดก็คือรูปถ่าย
ใบนี้เรียกกันว่าพิเศษมากจริงๆที่มีลายมือหลวงพ่อเซ็นต์ด้วยปากกาให้
เนื่องจากสมัยหลวงพ่อตัดยังอยู่ หากเข้าไปไม่รู้กาลเทศะแล้วขอให้หลวงพ่อท่านทำอะไรให้ก็ไม่แคล้วจะโดนเอ็ดตะโรเอาแน่ๆ

ต้องบอกว่าลายมือของหลวงพ่อตัด มีคุณค่ามากแล้วนะครับตอนนี้
ท่านใดที่ศรัทธาหลวงพ่อ อยากให้เก็บรูปใบนี้ไว้บูชา ใบเดียวจบครับ ยากหน่อยนะครับที่จะหาใบต่อไป มีไม่มากแน่นอนแถมศิษย์ที่มีไว้บูชาก็ต่างรักและหวงแหนกันมาก

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

**** สำหรับ 5 ท่านแรกที่บูชาพระจากผมไป ขอมอบหนังสือชีวประวัติและวัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ไปให้ท่านละ 1 เล่ม ครับผม
ส่วนของรายการนี้ผมขอมอบเศษจีวรแผ่นเล็กๆของหลวงพ่อให้ไปด้วยนะครับ จะได้เอาไว้บูชาแบบจบๆ

 

รายการที่ 7 ล็อกเก็ตเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548

ชุดเลื่อน 48 ประสบการณ์ด้านก้าวหน้าทางอาชีพโดดเด่นมากครับ องค์นี้พระอาจารย์ทินเมตตาจารหมึกทองนะขึ้นยอดให้ด้านหลัง หาวัตถุมงคลที่ใช้สื่อกับหลวงพ่อได้ดีที่สุดและติดตัวได้ก็ต้องล็อกเก็ตนี่แหละครับ แขวนเดี่ยวได้เลย

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 8 ของเก่าปีลึกสภาพนิ้งๆครับ

ตะกรุดพระเจ้า 16 พระองค์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2545
โดยยันต์นี้ท่านกำหนดให้นำมาใช้ในเหรียญรุ่น 3 ซึ่งท่านบอกเองว่า ยันต์นี้ครบทุกทาง สร้างไว้ราว 100 ดอก หายากมากนะครับ ในรอบเกือบ 10 ปี ผ่านตามาเพียง 2-3 ดอกเท่านั้น
ตะกรุดดอกนี้สภาพสวยแชมป์สมบูรณ์สุดๆ พระอาจารย์ทินเมตตาจารหมึกทองกำกับให้แน่นๆ เอาไปบูชาแขวนเดี่ยวได้เลยครับผม ขนาดตะกรุดยาว 3.7 นิ้ว กำลังพกพาเลยครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 9 ตะกรุดแคล้วคลาดกันภัย หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 เนื้อทองเหลือง ยาว 2.5 นิ้ว
ด้านในจารมือยันต์แคล้วคลาดกันภัย
ตอกโค๊ด วชน.กระโดด 3 โค๊ด
โค๊ดลพ.ตัด และโค๊ดเสาร์๕ รวมทั้งหมด 5 โค๊ดนิยม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

จองครับผม