รบกวน ผู้รู้ ช่วยตอบด้วยครับ เรื่อง เกล็ด พญานาค ครับ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย ผู้ศึกษา, 17 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. ผู้ศึกษา

    ผู้ศึกษา เจ้าชายสีฟ้าคราม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +167
    เกร็ด พญานาค มีจริงไหมครับ หาได้จากไหนบ้าง ใครรู้ช่วยตอบด้วยครับ
    ใช้ในด้านไหน มีคาถาอะไรใช้คู่กันบ้าง-วิธีใช้ครับ
    และต้องทำอะไรบ้างครับ ถ้ามีหน่ะครับ
    ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
    [b-wai] [b-wai] [b-wai] ​
     
  2. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,589
    มีครับ ใช้ฝึกสมาธิ เดินพลังจิตให้ไหลเวียนทั่วร่าง พระคาถาที่ใช้บริกรรมร่วมเมื่อฝึกสมาธิ " อะ งะ สะ" บริกรรมไปเรื่อยๆ จนจิตจดจ่ออยู่ในคำบริกรรมเท่านั้น ทำให้สม่ำเสมอทุกวัน เมื่อสะสมกำลังแห่งจิตมากพอ ก็จะสามารถรับรู้ ในบางสิ่งได้
     
  3. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +1,411
    อืม...เรื่องเกล็ดพญานาคนั้นเคยได้ยินมาเหมือนกันครับ แต่ว่าไม่ช่ายจะได้มาง่ายๆเหมือนกันนะครับ ส่วนเรื่องพุทธคุณต่างๆนั้นย่อมคิดอยู่กับสีของเกล็ดพญานาคที่เราได้มาครับ
     
  4. tantanz3

    tantanz3 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +11
    เกล็ดพญานาคสีทองให้พุทธคุณด้านไหนครับ
     
  5. กั๊กรังสิต

    กั๊กรังสิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +33
    เกล็ดพญานาคเป็นของอาถรรณ์มีคุณและโทษ ถ้าบูชาไม่ดีจะเป็นโทษ เอามาแช่น้ำแก้พิษได้ทุกชนิด พกติดตัวเป็นมหาอำนาจและป้องกันงูได้ วิธีได้มาให้ไปขอพญานาค ถ้าเขาอนุญาตเกล็ดก็จะหลุดมาหนึ่งเกล็ด ขอได้ง่ายกว่าลูกแก้วพญานาค ส่วนเรื่องลูกแก้วพญานาค หนึ่งตนจะมีลูกแก้วเพียงลูกเดียว ถ้าเขาให้มาเขาก็จะหมดฤทธิ์เรียกว่าลูกแก้วสารพัดนึก นึกได้ตามใจปราถนาตามบารมีของพญานาคตนนั้น เป็นศูนย์รวมของอิทธิฤทธิ์ ไม่เชื่อให้ไปถามท่านหมื่นผู้ปกครองเมืองบาคาลที่ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา หรือไปถามพญาอินทรชิตที่ใต้แม่น้ำโขง
     
  6. กั๊กรังสิต

    กั๊กรังสิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +33
    เรื่องเมืองบาดาลเหล่าพญานาคนั้นยังเป็นผู้ที่ติดอยุ่ในเรื่องกามคุณ มีการรบราฆ่าฟัด แย่งชิงทรัพย์สมบัติ เมือง สตรี เป็นสังคมที่อยู่กันด้วยฤทธิ เบ่งกันด้วยบารมี มีทรัพย์สมบัติเงินทองและมีสตรีงดงาม เหล่าพญานาคนั้นเป็นผู้ที่รักพระพุทธศาสนา ชอบกรรมฐาน รักพวกพ้อง แต่ติดที่กามคุณและกรรม แต่ก็มีบางพวกที่ไม่ติดกามคุณ เมืองบาดาลนี้เป็นมืองที่มีเสน่ห์น่าหลงไหล กระทั้งแม้เหล่าเทวายังไม่อยากผ่านเพราะกลัวหลงในเสน่ห์นั้น
     
  7. กั๊กรังสิต

    กั๊กรังสิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +33
    ป.ล. ท่านหมื่นท่านลาไปเกิดแล้วเมื่อสองปีก่อน ผมลืมไป ถ้ามีปัญหาอะไรกรุณาติดต่อผ่านเลขาท่าน
     
  8. desparado

    desparado สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    เกร็ดพญานาคไม่เคยเห็นเหมือนกัน

    ผมเคยเห็นดวงแก้วพญานาค

    ลองมาหาตาริมฝั่งโขง ไม่แน่ท่านก็อาจจะได้พบก็เป็นได้คับ
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    แล้วคุณ desparado เคยเห็นดวงแก้วพญานาคป่ะครับ ลักษณะเป็นสีอะไรครับ
     
  10. desparado

    desparado สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    เคยเห็นครับลักษณะทรงกลม หลายขนาดใหญ่เล็กต่างกันไป
    มีหลายสีนะคับ ที่เห็นมามีสี เขียว น้ำเงิน แดง มวง เหลือง

    ขอเพิ่มเติมเรื่องคาถา เท่าที่ศึกษามาคาถาที่ใช้กับดวงแก้วพญานาค ไม่มีนะคับ
    เราจะใช้การอธิฐานจิตแทน ผ่านทางดวงแก้วพญานาค

    เพิ่มเติมหลายท่านอาจจะเรียกว่าลูกแก้วพญานาค แต่ผมขอเรียกดวงแก้วพญานาคแทน เพราะดวงแก้วเหมือนดวงจิตของพญานาค เราสามารถสื่อถึงได้โดยผ่านดวงแก้วนั้นเอง (งงมั้ยครับ)
     
  11. azuminami

    azuminami เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +230
    ดวงแก้วพญานาคครับ

    photo : desparado
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG0505A.jpg
      IMG0505A.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.6 KB
      เปิดดู:
      802
  12. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    สาธุ เห็นรูปก็เป็นบุญแล้ว สาธุ สาธุ ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ
     
  13. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    เอาไปทำไรครับ ผมรู้ว่ามีนาคเอาเกร็ดนี้ไปให้พระอรหันต์องค์หนึ่ง นาคแท้ ๆ พระอรหันต์ท่านยังเขวี้ยงออกไปนอกกุฏิ นาคถามท่านว่าทำไมทำอย่างงั้น พระอรหันต์ตอบว่า ข้านับถือพระพุทธเจ้าอย่างเดียว (นาคเป็นบริวารของพยานาค พยานาคมีตนเดียว ตนสวย ๆ เพชรเยอะ ๆ ตัวใหญ่ ๆ ถ้าเจอตัวเล้ก ๆ มีหงอน อันนั้นนาคเฉยๆ)
     
  14. azuminami

    azuminami เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +230
    ตามแต่นับถือคับ บางท่านพกติดตัวไว้ป้องกันภัย หรือเพื่อความเป็นมงคล

    ส่วนท่านจะนับถือนาคตนไหน หรือพญานาคตนไหนก็แล้วแต่ท่าน

    ควาทศรัทธาก็ต่างกันไป นาคนับถือพระพุทธเจ้าก็มี

    พญานาคนับถือพระพุทธเจ้า

    พระอรหันต์นับถือพระพุทธเจ้า แล้วเราจะนับถือท่านพระผู้มีพระภาคเจ้ามิได้รือ
     
  15. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    อุ้ย...ขออภัยด้วย ๆ ผมกระโดดข้ามความคิดของคนเรามากเกินไปครับ..
     
  16. กั๊กรังสิต

    กั๊กรังสิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +33
    บ้านคุณเคยสักเคมั้ยที่เขาชุมนุมเทวดาก็เพราะให้ท่านช่วยรักษา
    นี่ก็เหมือนกัน
    ไม่ควรลบหลู่ความคิดของผู้อื่น
    นาคก็มีคุณของนาคบูชาเค้าเค้าก็ช่วยเรา
    เจ้าที่ก็มีคุณของเจ้าที่
    เทวดาก็มีคุณของเทวดา
    ข้าวปลาอาหารก็มีคุณของข้าวปลาอาหาร
    พ่อแม่ก็มีคุณของพ่อแม่
    ครูบาอาจารย์ก็มีคุณของครูบาอาจารย์
    พระรัตนไตรก็มีคุณของพระรัตนไตร
    ถ้าลบหลู่คุณเบื้องต้นท่านหาดีได้ที่ไหน
    (เด็กน้อย)
     
  17. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    คืออย่างงี้ครับผมไม่ได้ลบหลู่อะไรนะครับ เพียงแต่ผมกำลังหาข้อเท็จจริง ของพระพุทธเจ้าที่ท่านสอนไว้ครับ จากพระไตรปิฏก เพราะผมเคารพพระพุทธเจ้ามากครับ ถ้าเป็นจริงอย่างที่ท่านสอนไว้ ผมก็จะนำสิ่งที่พระไตรปิฏกมาใช้กับชีวิตเพราะผมใช้อยู่ทุกวัน เอาง่าย ๆ คุณ คุณทำบุญบ้านคุณให้พระเอาน้ำมดรดบ้านไหมครับ หลังจากนั้น คุญเอาเงินใส่ซองให้พระไหมครับ ถ้าคุณทำเยี่ยงนั้น คุณก็ไม่ได้ทำตามคำสั้งสอนของพระพุทธเจ้า หรืออีกอย่างถ้าผมยอมรับในทุกเรื่องที่ชาวบ้าน เขาทำ เพราะทำกันมาแต่ปางไหน แสดงว่าในพระไตรปิฏกนั้นคำสั่งสอนของพระพุทธะเจ้านั่นไม่จริง


    รูปเหมือนพระพุทธเจ้าไม่มี เล่ม 32 หน้า 214

    อปฺปฎิโม (ไม่มีผู้เปรียบ) ความว่า อัตภาพ ( ความเป็นตัวตน ) เรียกว่ารูปเปรียบ
    ชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบ เพราะรูปเปรียบอื่นเช่นกับอัตภาพของท่านไม่มี
    อีกอย่างหนึ่ง มนุษย์ทั้งหลายกระทำรูปเปรียบใดล้วนแล้วด้วยทองและเงินเป็นต้น
    ในบรรดารูปเปรียบเหล่านั้น ชื่อว่าผู้สามารถกระทำโอกาสแม้สักเท่าปลายขนทราย (แม้เพียงนิ๊ดนึง)
    ให้เหมือนอัตภาพของพระตถาคต ย่อมไม่มี
    เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีผู้เปรียบแม้โดยประการทั้งปวง.

    อปฺปฎิสโม (ไม่มีผู้เทียบ) ความว่า ชื่อว่าไม่มีผู้เทียบ
    เพราะใคร ๆ ชื่อว่าผู้จะเทียบกับอัตภาพของพระตถาคต นั้นไม่มี

    แสดงว่าพระพุทธเจ้าไม่ยินดีในการสร้างภาพเหมือนของท่าน ไม่ให้ยึดติดในวัตถุใด ๆ จึงมีสติกเกอร์ ที่เขียนว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เมื่อก่อนเคยเห็นบ่อย ๆ ตามรถเมลล์เก่า ๆ เดียวนี้หายไปหมดแล้ว บทว่าตามข้างล่าง ขนาดท่านไม่ให้ยึดตดิในรูปพระพุทธเจ้า แล้ว เราจะยึดติดอะไรเหนือท่านเล่า

    วัตถุทั้งหลายทั้งปวงพระพุทธเจ้าไม่ให้ท่านทั้งหลายเอาเป็นที่พึ่งหรอกนะ เล่ม 27 หน้า 90

    บทว่า อตฺตทีปา ความว่า ท่านทั้งหลายจงทำตนให้เป็นเกาะ เป็นที่ต้านทาน เป็นที่เร้น
    เป็นคติที่ไปในเบื้องหน้า เป็นที่พึ่งอยู่เถิด.

    อนญฺญสรณา นี้ เป็นคำห้ามพึ่งผู้อื่น ด้วยว่าผู้อื่นเป็นที่พึ่งไม่ได้
    เพราะคนหนึ่งจะพยายามทำอีกคนหนึ่งให้บริสุทธิ์หาได้ไม่

    สมจริงดังที่ตรัสไว้ว่า ตนนั่นแลเป็นที่พึ่งของตน คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้

    เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า อนญฺญสรณา ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะ

    ถามว่า ก็ในที่นี้ อะไรชื่อว่าตน ?
    ตอบว่า ธรรมที่เป็นโลกิยะและเป็นโลกุตตระ (ชื่อว่าตน).

    ด้วยเหตุนั้นนั่นแล พระองค์จึงตรัสว่า
    ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นสรณะ ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะ



    การรับเงินผิด หมวดวินัยพระ เล่ม 11 หน้า 310 – 311

    ...13. เธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน.
    14. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหาร ( ข้าว ) ดิบ.
    15. เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ
    16. เธอเว้นขาดจากการรับสตรี และกุมารี.
    17. เธอเว้นขาดจากการรับทาสี( ทาสหญิง ) และทาส.
    18. เธอเว้นขาดจากการรับแพะ และแกะ.
    19. เธอเว้นขาดจากการรับไก่ เละสุกร.
    20. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.
    21. เธอเว้นขาดจากการรับไร่นา และที่ดิน.
    22. เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรม ( การนำข้อความไปแจ้ง ) และการรับใช้.
    23. เธอเว้นขาดจากการซื้อ การขาย...


    ผมอ่านเจอ ว่ากุศลที่ให้เงินพระกับมือท่าน เป็นไฟไปหาคนที่เราอุทิศให้



    นาคก็สามารถช่วยเราได้นะ ถ้าได้อุทิศบุญให้พวกเขา เล่ม 41 หน้า 156

    ...แม้บุรุษนอกนี้ ก็โปรยภัต (อาหาร) ลงในน้ำกำมือหนึ่ง บ้วนปากแล้ว ประกาศขึ้น ๓ ครั้ง
    ด้วยเสียงอันดังว่า " ขอพวกนาค ครุฑและเทวดา ผู้สิงอยู่ในประเทศแห่งแม่น้ำนี้ จงฟังคำของข้าพเจ้า
    พระราชาทรงปรารถนาจะลงอาญาแก่ข้าพเจ้า ทรงบังคับข้าพเจ้าว่า
    เธอจงนำเอาดินสีอรุณกับดอกโกมุทและดอกอุบลมา ก็ภัตที่ข้าพเจ้าให้แก่มนุษย์เดินทางแล้ว
    ทานที่ข้าพเจ้าให้แล้วนั้นมีอานิสงส์ตั้งพัน, ภัตที่ข้าพเจ้าให้แก่ปลาทั้งหลายในน้ำ, ทานที่ข้าพเจ้า
    ให้นั้นมีอานิสงส์ตั้งร้อย, ข้าพเจ้าให้ผลบุญประมาณเท่านี้ ให้เป็นส่วนบุญแก่ท่านทั้งหลาย
    ท่านทั้งหลายจงนำดินสีอรุณกับดอกโกมุทและดอกอุบลมาให้แก่ข้าพเจ้าเถิด."

    พระยานาค ผู้อาศัยอยู่ในประเทศ (สถานที่) นั้น ได้ยินเสียงนั้น จึงไปสู่สำนักบุรุษนั้น
    ด้วยเพศ (การจำแลง) แห่งคนแก่ กล่าวว่า " ท่านพูดอะไร ? "
    บุรุษนั้น จึงกล่าวซ้ำอย่างนั้นนั่นแหละ
    เมื่อพระยานาค กล่าวว่า " ท่านจงให้ส่วนบุญนั้นแก่เรา "
    จึงกล่าวว่า " เราให้ นาย "
    เมื่อพระยานาคกล่าวแม้อีกว่า " ท่านจงให้ "
    ก็กล่าว (ยืนยันคำ) ว่า "เราให้ นาย"
    พระยานาคนั้น ให้นำส่วนบุญมาอย่างนั้นสิ้น ๒ - ๓ คราวแล้ว
    จึงได้ให้ดินสีอรุณกับดอกโกมุทและดอกอุบล (แก่บุรุษนั้น)….



    ผมให้อย่างงี้ครับ ไม้ได้ เอาอะไรมาแขวนให้ยึดติด แล้วหวังว่าเขาจะช่วย
    เพราะพวกนี้ฤทธิน้อย ต้องทำบุญหรือเบิกบุญส่งให้ตรง ๆ เขาช่วยแน่ๆ ถึงแม้พวกนาคจะเอามาให้กับมือท่าน เพราะเขาหวังว่าท่านจะตอบแทนเขาเพราะเขานำเกร็ดนั้นมาให้ไม่รู้จะเอาอะไรให้ท่านเพื่อตอบแทน กลายเป็นนำมาบูชายึดติด กับสิ่งนั้นไม่ได้ให้บุญอย่างพระพุทธเจ้าบอก สิ่งที่ท่านสอน เป็นการเกี่ยวพันกัน ในโลกทิพย์
    แค่ผมลองพิมพ์ความคิดที่ผิดกับที่ท่านคิด เพียงเล็กน้อย ผมกลายเป็นคนบ้าในสายตาท่านทันที


    ชะตากรรมในโลกหน้าของผู้ไม่มีพระรัตนตรัย...เป็นที่พึ่ง เล่ม 18 หน้า 28

    บทว่า โย สตฺถริ ปสาโท โส น สมฺมคฺคโต ความว่า

    ก็ศาสดา (ผู้สั่งสอน) ในศาสนาที่ไม่เป็นเครื่องนำสัตว์ออกจากทุกข์ (ที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า)
    ทำกาละ (ตาย) แล้ว เป็นสีหะ (สิงโต) บ้าง เสือโคร่งบ้าง เสือเหลืองบ้าง หมีบ้าง เสือดาวบ้าง.
    ส่วนสาวกทั้งหลายของศาสดานั้น เป็นเนื้อบ้าง สุกร (หมู) บ้าง กระต่ายบ้าง.
    มันไม่ทำความอดทน หรือความหวังดี หรือความเอ็นดูว่า
    สัตว์เหล่านี้ เคยเป็นอุปัฏฐาก ผู้ให้ปัจจัย (เครื่องดำรงชีวิต) แก่เรา
    ฆ่าสัตว์เหล่านั้นแล้ว ดูดเลือดบ้าง กินเนื้อสันทั้งหลายบ้าง.

    ก็อีกประการหนึ่ง ศาสดาเกิดเป็นแมว. สาวกทั้งหลายเป็นไก่หรือหนู.
    ลำดับนั้น แมวก็จะไม่ทำความอนุเคราะห์
    ย่อมกินไก่หรือหนูเหล่านั้นโดยนัยกล่าวแล้วนั้นเทียว.

    อนึ่ง ศาสดาเป็นนายนิรยบาล สาวกทั้งหลายเป็นสัตว์นรก.
    นายนิรยบาลนั้น จะไม่ทำความอนุเคราะห์ว่า
    สัตว์เหล่านี้ เคยให้ปัจจัยแก่เรา ย่อมทำกรรมกรณ์ (เครื่องลงอาชญา) ต่างๆ
    ใส่ในรถที่ร้อนจัดบ้าง ให้ขึ้นภูเขาไฟบ้าง
    ทิ้งศีรษะลงในหม้อโลหะบ้าง ประกอบด้วยทุกขธรรมหลายอย่างบ้าง.

    ก็หรือสาวกทั้งหลายตายไปเป็นสัตว์มีสีหะเป็นต้น. ศาสดาเป็นสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งมีเนื้อเป็นต้น.
    สัตว์เหล่านั้นไม่ทำความอดทน หรือความหวังดี หรือความเอ็นดูในสัตว์นั้นว่า
    เราเคยอุปัฏฐากสัตว์นี้ด้วยปัจจัยสี่ สัตว์นี้เคยเป็นศาสดาของพวกเรา ดังนี้
    ย่อมให้ถึงความพินาศ โดยนัยกล่าวแล้วนั้นเทียว.

    ในศาสนาที่ไม่เป็นเครื่องนำสัตว์ออกจากทุกข์ด้วยประการฉะนี้ ความเลื่อมใสในศาสดาใด
    ความเลื่อมใสนั้นไม่ไปแล้วโดยชอบ แม้ไปสู่กาละ (ตาย) อย่างไรแล้ว
    จะพินาศในภายหลังนั้นเทียว.

    บทว่า โย ธมฺเม ปสาโท ความว่า

    ก็ธรรมดาความเลื่อมใสในธรรม ในศาสนาที่ไม่เป็นเครื่องนำสัตว์ออกจากทุกข์
    เป็นความเลื่อมใสในตันติธรรม (ประเพณี) เพียงเรียน เล่าเรียน ทรงไว้และบอกแล้ว
    แต่ความพ้นจากวัฏฏะ (การเวียนว่ายตายเกิด) ไม่มีในความเลื่อมใสนั้น
    เพราะฉะนั้น ความเลื่อมใสในธรรมนั้นใด ความเลื่อมใสนั้นรังแต่จะทำวัฏฎะให้ลึกบ่อย ๆ
    เพราะฉะนั้นเรากล่าวว่าไม่ไปแล้วโดยชอบ คือ ไม่ไปแล้วโดยสภาวะ.


    อันตรายของน้ำมนต์ เล่ม 39 หน้า 227

    ...ดังนั้น ในวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึงกรุงเวสาลีนั่นเอง รัตนสูตร นี้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสใกล้
    ประตูกรุงเวสาลี เพื่อกำจัดอุปัทวะ (ความอุบาทว์) เหล่านั้นท่านพระอานนท์ก็เรียนเอา
    เมื่อจะกล่าวเพื่อเป็นปริตร [ป้องกัน] จึงเอาบาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำมา
    เดินประพรมไปทั่วพระนคร.

    พอพระเถระกล่าวว่า ยงฺกิญฺจิ เท่านั้น พวกอมนุษย์ที่อาศัยกองขยะและที่ฝาเรือน เป็นต้น
    ซึ่งยังไม่หนีไปในตอนแรก ก็พากันหนีไปทางประตูทั้ง 4 ประตูทั้งหลาย
    ก็ไม่มีที่ว่าง อมนุษย์บางพวก เมื่อไม่ได้ที่ว่างที่ประตูทั้งหลาย ก็ทลายกำแพงเมืองหนีไป......


    เกี่ยวเนื่องจาก ในศาสนาที่ไม่เป็นเครื่องนำสัตว์ออกจากทุกข์ (ที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า) เล่ม 18 หน้า 28 เพราะพระพุทธองค์ไม่เคยซ้ำเติมใครมีแต่ช่วยให้เขาพ้นทุกข์


    ข้อนี้พระพุทธะเจ้ามิได้ให้ทำ แต่ท่านให้รู้ว่าการทำน้ำมนต์อันตรายต่อพวกนี้ที่อาศัยอยู่ในบ้านท่าน ที่เขาอยู่ก่อนแล้วก็ดี มาขออาศัยก็ดี จงระวังเพราะพวกนี้จะกลายเป็นนายเวรแทน แล้วท่านคิดจะให้พระเอามาพรมที่บ้านหรอ

    และข้อสุดท้าย จบละ ที่ ท่านบอกว่า
    บ้านคุณเคยสักเคมั้ยที่เขาชุมนุมเทวดาก็เพราะให้ท่านช่วยรักษา

    ตามกระทู้ข้างบน

    ท่านเรียกเขามาทำไม เรียกโดยการสวด ให้เขามา มีอะไรให้จะเขาหรือ ถ้าท่านเรียกมาแล้ว ท่านบอกว่าบุญที่ข้าพเจ้านั่งสมาธินี้ให้เทวดาที่มาหาข้าพเจ้านี้นะ บุญเกิดแน่ แต่ถ้าท่านเรียกมา แล้วไม่มีอะไรให้ อย่าง สักเคเสร็จ แล้วนั่งเฉย ๆ คงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น... ผมคิดว่าน่าจะด่ากันตับแล็ป

    แล้วอีกอย่าง

    คำสั่งพระพุทธเจ้าให้กล่าวธรรม – วินัย ด้วยภาษาที่เข้าใจ เล่ม 23 หน้า 329

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในอรณวิภังค์นั้น การปรักปรำภาษาชนบทและการล่วงเลยคำพูดสามัญ
    นี้เป็นธรรมมีทุกข์ มีความคับใจ มีความแค้นใจ มีความเร่าร้อน เป็นความปฏิบัติผิด


    เพราะฉะนั้น ธรรมนี้จึงยังมีกิเลสต้องรณรงค์ แต่การไม่ปรักปรำภาษาชนบท และการไม่ล่วงเลยคำพูดสามัญ
    นี้เป็นธรรมไม่มีทุกข์ ไม่มีความคับใจ ไม่มีความแค้นใจ ไม่มีความเร่าร้อน เป็นความปฏิบัติชอบ
    เพราะฉะนั้น ธรรมนี้จึงไม่มีกิเลสต้องรณรงค์


    ไม่ต้องสวดสักเคก็ได้ เพราะผมคนไทย ตามที่ท่านบอกไว้ว่า ภาษาไดก็ได้ ผี ยัน เทวดา ฝังได้ อยากชุมนุมหรอ ก็บอกซิ " เทพเทวาใดที่อยู่บริเวณบ้านข้า ข้าขอให้มาชุมนุมที่ข้าอยู่นี้ เพื่อข้าจะอุทิศบุญให้ แล้วก็ทำการเลย " ผมทำมา 2 ปีแล้ว ผมชอบลอง และมันได้ผลดีกว่าที่ผมทำแบบชาวบ้าน ๆ เขาทำกันลองอย่างคำสอนพระพุทธเจ้าไง และถ้าว่าผมบ้า และ (เด็กน้อย) เด็กน้อยนั้นก็คือคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า








     
  18. ชนณพัฒน์

    ชนณพัฒน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2008
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +72
    เรียนท่านผู้มีบารมีทั้งหลาย
    เคยฟังมานาแล้วแต่ไม่เคยเห็นเกล็ดพยานาคว่ามีลักษณะเช่นไรรบกวนถ้ามีภาพกรุณานำมาให้ดูเป็นบูญตาบ้าง
    ขอบพระคุณ
     
  19. nukrap

    nukrap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +105
    ผมมีองค์พญานาคครับ http://www.sanyana.com/nak.html ลองดูนะครับ เป็นVDO ครับ ขอขอบคุณขอมูลจาก www.sanyana.com ครับ อนุโมทนา สาธุ .
     
  20. บารเมศวร์

    บารเมศวร์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +21
    อยากทราบว่าจะไปพบได้อย่างไร
    ท่านหมื่นผู้ปกครองเมืองบาคาลเห็นอีกข้อความว่าไปจุติแล้ว งั้นพญาอินทรชิตถ้ายังอยู่ที่เดิมถิ่นเดิม เราจะไปหาท่านยังไงครับ ช่วยอธิบายหน่อย อยากรู้...


    เห็นดวงแก้วพญานาคแล้ว นับเป็นบุญตา ขอ อ นุ โ ม ท น า . . .ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...