นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

“ เห็นกิเลสของคนที่สอนให้ ละกิเลส ”
นักบวชบางท่านไม่ทราบงานหลัก พอบวชแล้วแทนที่จะมุ่งเข้าป่าปฏิบัติ หาธรรมะ หาทางหลุดพ้น ก็มาหาเงินหาทอง มาเรี่ยไรญาติพี่น้อง สร้างความรำคาญใจให้กับผู้อื่น เพราะขอเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะในใจมีแต่ความโลภ ถึงแม้จะเป็นความโลภในทางบุญกุศลก็ยังเป็นความโลภอยู่ ทำให้คนเบื่อหน่ายได้ เจอหน้าทีไรก็พูดเรี่ยไรขอเงินทุกที จนไม่มีใครอยากจะเข้าวัด เพราะเข้าทีไรไม่เคยได้ธรรมะ ได้แต่กิเลส เห็นกิเลสของคนที่สอนให้ละกิเลส ก็เลยหมดกำลังใจ
ถ้ายังเกี่ยวข้องกับเงินทองอยู่ก็ให้บริจาคตามฐานะ แต่อย่าไปอยากบริจาคมากกว่า หรือเท่ากับคนที่บริจาคมากกว่าตน ถ้ามีฐานะด้อยกว่า ก็จะทำให้ต้องพยายามไปหาเงินมาทำบุญ ถ้ามีอุปสรรคเพราะการหาเงินไม่คล่องแคล้ว ก็ต้องพูดบิดไปบิดมา ถ้าพูดตรงๆจะไม่ได้ ทำให้มีปัญหาขึ้นมาว่า อยากจะทำบุญ แต่ต้องทำบาป ต้องพูดปดบ้าง อย่างนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของการทำบุญแล้ว เป็นเรื่องของการทำบาปโดยไม่รู้ตัว ถูกกิเลสความหลงหลอกและความโลภหลอกไป โลภอยากจะทำบุญให้มาก แล้วก็หลอกให้ไปทำบาปโดยไม่รู้ตัว
การทำบุญให้ทานมีอานิสงส์ด้อยกว่าการรักษาศีล ที่ทำให้ได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้ไปสู่สุคติ ชั้นเทพชั้นพรหม ชั้นอริยบุคคล ต้องมีศีลเป็นปัจจัยแรก ถ้าไม่มีศีลแล้ว ต่อให้ทำทานเป็นหมื่นล้านแสนล้าน ก็ไม่ได้ไปสู่สุคติ ต้องไปเป็นเปรตบ้าง ไปตกนรกบ้าง ไปเป็นเดรัจฉานบ้าง
ที่ทรงสอนให้ทำบุญนี้ หมายความว่าให้ทำตามฐานะ ทำในส่วนที่เหลือกินเหลือใช้ เก็บไว้ก็ไม่เป็นประโยชน์ ก็อย่าไปหวง ส่วนที่จำเป็นต้องเก็บก็ต้องเก็บ เผื่อในวันข้างหน้า ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วย ตกทุกข์ได้ยาก จะได้มีอะไรไว้รองรับ แต่ก็ต้องมีความกล้าหาญพอที่จะเก็บไว้เท่าที่จำเป็น อย่าไปกลัวจนต้องเก็บไว้หมด แล้วก็อ้างว่าต้องเก็บไว้เผื่อวันพรุ่งนี้ ก็จะไม่ได้ทำบุญ เพราะยังติดอยู่กับเงินทอง ทำให้ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ธรรมขั้นที่สูงกว่าได้ คือขั้นศีลและขั้นภาวนา.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๒ กัณฑ์ที่ ๓๗๘
วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๑

 

หลวงปู่ขาว อนาลโย ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในระหว่างที่ท่านจำพรรษาที่วัดป่าแก้วชุมพล
อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ว่า

คืนหนึ่งขณะที่หลวงปู่กำลังนั่งสมาธิภาวนาอยู่
จิตก็สว่างไสว ใจก็สงบ ก็มีเสียงกระซิบบอกท่าน
โดยระบุชื่อพระภิกษุในวัดว่าให้
"ไปซื้อซิ่นหลวงพระบางมานุ่ง"

หลวงปู่ได้พิจารณานิมิตนั้นก็ทราบเรื่องราว
ของพระที่ถูกระบุชื่อได้อย่างละเอียดชัดเจน
รวมทั้งจิตของท่านยกภาษาบาลีขึ้น
พร้อมทั้งแปลความหมายด้วยเสร็จ

รุ่งเช้าหลวงปู่ก็เรียกพระที่ถูกระบุชื่อในนิมิต
ให้ไปพบท่าน สอบถามเรื่องพระรูปนั้น
ที่ถูกสงฆ์สงสัยว่าต้องอาบัติ
แต่พระรูปนั้นได้ปฏิเสธโดยตลอด

หลวงปู่ได้กล่าวตักเตือนพระรูปนั้นด้วยความหวังดี
ขอให้พระพูดความจริง
แต่พระรูปนั้นก็ยังปฏิเสธและพูดยืนยันว่า
"ผมไม่เป็นตามที่ถูกสงสัย ผมบริสุทธิ์อยู่ขอรับ"

หลวงปู่ก็เลยพูดขึ้นว่า

"ท่านไม่ต้องมาโกหกผมหรอก
ผมนั้นรู้เรื่องท่านดี รู้ถึงตับไตไส้พุงของท่านด้วยซ้ำ
ว่ามีกี่ขดๆ ผมรู้หมดทั้งนั้น ผมรู้ทั้งทางนอกทางใน
ใครจะมาโกหกผมไม่ได้เป็นอันขาด
เมื่อคืนนี้ผมรู้ท่าน เห็นท่านอย่างแจ่มแจ้ง"

พระรูปนั้นแสดงอาการหน้าซีด
ตกใจกลัวอย่างที่สุด จึงก้มกราบหลวงปู่
ขอรับสารภาพจนหมดสิ้น พร้อมกับพูดว่า

"ผมมันเป็นคนโง่ ผมมันเป็นคนหลง ผมเป็นโจร"

หลวงปู่จึงพูดว่า

"คนจริงมันต้องพูดจริงทำจริง ผิดก็รับสารภาพผิด
ถูกก็บอกว่าถูก มันจึงจะถูกต้อง
แต่ถ้าตนผิดทั้งที่รู้แล้วยังปิดบังเอาความชั่วไว้อีก
มันเหมือนกับปกคลุมอุจจาระไว้"

หลวงปู่ได้ช่วยจัดการแก้ไขและดำเนินการให้กับพระรูปนั้น
จนเป็นที่เรียบร้อย นับเป็นความเมตตาอันยิ่งจากท่าน
(ในบันทึกไม่ได้บอกว่า พระรูปนั้นต้องอาบัติอะไร
และอาบัติระดับไหนและหลวงปู่ช่วยพระรูปนั้นอย่างไร)



วันต่อมา เมื่อหลวงปู่ทำกิจวัตรเสร็จแล้ว
ตอนพลบค่ำท่านลงไปเดินจงกรม
ท่านมองเห็นสิ่งแปลกสิ่งหนึ่ง
มาตั้งอยู่ที่ทางจงกรม
มีสีดำทะมึนเหมือนตอไม้ไผ่รวก

ท่านสงสัยว่าเป็นอะไรเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน
ท่านจึงบ้วนน้ำหมากใส่ เจ้าดำทะมึนยังนิ่งเฉยอยู่
ท่านจึงยื่นมือจะจับดู เจ้าดำทะมึนกลับหลบมือท่านไปมา
ดูลักษณะเหมือนตอไม้ ไม่มีหัว มีแต่คอ

หลวงปู่รู้ว่าเป็นอะไร จึงพูดว่า

"นี่หนายังไม่ตายดอก..แต่..(ชื่อพระ) ก็ตายเป็นเปรต
เป็นผีดิบแล้ว ร่างกายของเธอแสดงให้เราเห็นแล้ว
โดยไม่ต้องสงสัยแต่อย่างใด

พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวไว้ไม่ผิดว่า
'นัตถิโลเก รโห นามะ'*
ความชั่วปกปิดไว้เท่าไรใครจะรู้
กรรมมันเปิดออกให้เราดู

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมดีกรรมชั่วที่ตนทำไว้
คนดีถึงจะทำตัวเป็นใบ้ใครก็รู้
ถึงจะหลบหลีกปลีกตัวอยู่ถ้ำ ภูเขา
ถึงแม้มนุษย์ไม่รู้ เทวดาก็บอกเอง
กลิ่นของศีลย่อมฟุ้งขจรขจายไปทั่วทิศ
เป็นนิมิตหมายของคนดี"


อ้างอิงที่มา

แสดงกระทู้ - ชื่อว่าที่ลับไม่มีในโลก : หลวงปู่ขาว อนาลโย • ลานธรรมจักร

 

เครื่องราง ชิ้นแรก ...ที่ เล่าประสบการณ์ สะเก็ดดาว หรือ อุลกมณี หลวงปู่ประหยัด ท่าน เรียกว่า จันทคราส......

จุดเริ่มต้น จาก เสี่ยไว พวกในกลุ่ม ได้นำเครื่องรางหลายชนิด ให้ท่าน ดู หลวงปู่ ชม เป็นพิเศษ ชิ้นเดียว คือ สะเก็ดดาว ท่านเรียกจันทคราส ดีทางโชคลาภ...

บวกกลับ ประสบการณ์ส่วนตัว ที่ ญาติใกล้ชิดเสี่ยไว เคยประสบมา กับ ของสิ่งนี้...

จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เรา หากัน และพกติดตัว นอกจากพระเครื่องที่เรา นับถือ มาจนทุกวันนี้

 

.............................

 

รออ่าน ครับ
ขอบคุณ กับ เรื่องราวดีๆ
คติธรรมดีๆ

อนุโมทนา ครับ

อย่างน้อย
คนเข้ามาอ่าน
คง ได้ข้อคิดไปบ้าง ครับ​

 

ตามอ่านเหมือนกันครับ แต่ยัง งงๆ อยู่

 

เสี่ยไว พวกในกลุ่มได้ เล่าถึง คนใกล้ชิด ได้รับการแนะนำจาก นักโหราศาสตร์ท่านนึงให้ พก สะเก็ดดาวติดตัว ซึ่งในช่วงดวงชะตาดี ก็สามารถสร้างฐานะได้ดีมาก...

...แต่ หลังดวงชะตาตก ก็ ไม่มีอะไรต้านได้ แต่ทุกวันนี้ ก็ยังเชื่อมั่นในสะเก็ดดาวอยู่

ซึ่งเราก็ สั่งซื้อมาจาก เวบขายหิน นั่นละครับ หลวงปู่อริยเจ้าได้ตรวจดู ก็บอกว่าดีทุกทาง ไม่ต้องปลุกเสกยังได้เลย

ผมได้ส่งชิ้นที่ยังไม่เจียให้ เพื่อนใน ต่างจังหวัด เขาเล่าว่า วันแรกที่พก จะมีอาการเหมือน กัน คือ เพลีย อ่อนเพลียมาก ว่ากันว่ามาจากปรับธาตุ หลังจากนั้น จากที่ ตกงาน ก็ได้งานที่เคยสัมภาษณ์ไปแล้ว เขาก็เชื่อมั่น

 

ในภาพบน เป็นสะเก็ดดาวของไทย ที่ราคาไม่แพง ภาพล่าง โมดาไวท์ ของนอก ราคาแพง แต่อานุภาพเท่ากันนะครับ

 

รอติดตามครับ

 

จากประสบการณ์ที่หลวงปู่ พบมา โรคประหลาด ที่หมอรักษาไม่ได้มี 2 กรณีหลัก ๆ

1. ผู้อื่นกระทำ

2. กระทำตนเอง เช่นไป ทำเรื่องผิดศีลธรรม


โรคแบบนี้ รักษาไม่หาย
กรรมสนองกรรม

...

 

มี เพื่อนสอบถามปีนี้ พกเครื่องรางชิ้นใดดี จากประสบการณ์ พรรคพวกที่มาเล่า เขาพบเจอ และได้พก จนร่ำรวยมาแล้ว ..

เสี่ยเจม...มาเล่าให้ฟัง จากเครื่องรางในภาพครับ

 

โรคที่รักษาไม่หาย โดยเฉพาะผิดศีลธรรม นี่ พิจารณาไม่ยาก เช่น ยักยอกเงินทำบุญ (ส่วนนึงให้วัดสร้างภาพ อีกส่วน บำรุงกระเพาะ ) คดในข้อ งอในกระดูก ผลกรรมเลยเป็นโรคกระดูกปวดก็ไม่แปลก

 

พื้นฐานการบูชาวัตถุมงคล มาจาก บุญบารมี ความดี วาสนาเก่าก่อน จะให้ผลชัดเจนทุกคนย่อม ไม่ได้

ผมเคยสอบถาม พวกยักยอกเงินทำบุญ ห้อยพระ หลวงปู่ ก็เปล่าประโยชน์ใช่ไหมครับ ท่าน ตอบชัดเจน ใช่ เรียกพลังกลับมาตั้งแต่มันคิดชั่วแล้ว

นี่ยังไม่ลงลึกขนาด พวก เอาไปวางแป๊ก อ้างว่าฝากท่านเสก แต่ เคยถามท่านหรือไม่ ว่าเสกให้มันหรือเปล่า แล้ว เอามาขายบำรุงกระเพาะ ให้วัดนิดหน่อยที่เหลือบำรุงกระเพาะ เดาว่าหลายวัดคงเป็นเช่นนี้


เป็นผมจะ ดูง่าย ๆ โทรไปถามท่านเลยว่าเสกหรือเปล่า ก็ชัดเจนแล้วละครับ

 

จุดเริ่มต้น จากเครื่องรางพญาเต่าเลือน ก็มาจากตะกรุดนี้ละครับ...



แรกเริ่ม ก็ จากการ มองผ่านเวบพระเครื่องแห่งนึง จนสนใจ ก็เลยบูชามา

จากนั้น คนที่ จะเห็นผลชัดเจนมากที่สุด คือ คนที่มีปัญหา ตรงกะอานุภาพ ได้มาเล่า...

...ตะกรุด ....

 

ตะกรุด นี้ จากการหลวงปู่ได้พิจารณาอานุภาพ สูงส่งทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ ซึ่งผมก็สงสัยมาก เพราะพระที่สร้างเสก อายุยังไม่มาก และมีมวลสารที่ พิสดาร ล้ำลึก แต่ ก็ไม่กล้าสอบถาม ศิษย์ที่ ให้บูชามา เพราะหมดวัดแล้ว ราคาก็บวกเพิ่ม เดี๋ยวจะขึ้นราคา เอามามากก็ไม่ได้ บอกไม่มี แต่ถ้าอยากได้จะหาให้ (ราคาก็เพิ่มแน่)

จน เสี่ยไว ได้เดินทางไปบูชา มีดหมอที่วัดแห่งหนึ่ง ผมก็เลยรบกวน ให้ ขอความเมตตา หลวงพ่อ พิจารณาให้ด้วย เพราะทราบว่าท่าน ตรวจสอบได้แน่นอน

หลวงพ่อ....บอกว่าอานุภาพร้อนแรง ด้านบู๊เลย

ผลที่ชัดเจน การกลั่นแกล้งในที่ทำงานค่อย ๆ สงบลง คนที่มากลั่นแกล้ง แพ้ภัยตัวเอง มีอาการเจ็บปวดประหลาด จนเขารีบไปหา ของดีมาคุ้มครองเลย

คนที่คิดร้าย นอกที่ทำงานเจ็บหนักเข้า โรงพยาบาล ก็แปลกดี ไม่รู้สาเหตุใด

ปัจจุบันทำงานอย่างสงบสุข....


ปริศนามวลสารที่ฝัง คืออะไร เดี๋ยวจะมาเฉลยให้ครับ สืบเสาะ จน เข้าใจว่า คืออะไร

เพราะ แรก ๆ ผมเดาว่า ถ้าพระที่เสกได้ขนาดต้องเก่งจนน่ากลัว

พญาเต่าเลือน ก็มาจากท่านนี้ละครับ...

 

คั่น เรื่องราว... เดลคุงเพื่อนเก่ามาคุยด้วยเมื่อคืน...

เลยคุยกันถึงเรื่องพระกรุในตำนาน....

...พูดถึงพระกรุเก่า ยิ่งเป็นพันปี มีอาถรรพ์แปลก ๆ จริง ๆ


...ครั้งหนึ่ง พวกยักยอกเงินวัดเล่นมนต์ดำ โทรหาเสี่ยไว.... โทรเสร็จ ถามเสี่ยไว ก็รับสาย คนโทรมาถามว่าใครครับ โทรมาหาหรือเปล่า เสี่ยไว งง เอ๊ะ ก็เคยคุยกันอยู่แต่เลิกคุยกันแล้วทำไมมาถามงี้ เลย พลาดท่า เสี่ยไวบอกชื่อไป คนที่โทรมารีบวาง... แปลก ๆ ๆ เขาบอก

... เลยสอบถาม ลูกศิษย์หลวงปู่ประหยัด... เขาบอก กลางคืนระวังถ้ามีหมาหอน ละใช่เลย

...จริงครับ ทุกคืนหมาหอน จากที่ไม่เคยมี หอนงี้ ติด ๆ กัน เรื่องใหญ่ละ....

 

ปกติ เสี่ยไว เอง ก็มีของดีมาก แต่ หลังจากรับโทรศัพท์และบอกชื่อไป วันนั้น หมาก็หอนทุกคืน งู ก็มาเลื้อยเข้าบ้าน ทั้งที่มี ต้นมะนาว และ กำมะถัน โรยไปรอบบ้าน ดีที่ไม่เข้าตัวบ้าน

...และเกิดเรื่องแปลก ๆ ในทางไม่ดีมาก ผมก็ได้ปลอบใจไม่มีอะไรหรอก สวดมนต์ไหว้พระไป

...โทรสอบถาม หมอธรรม เขาบอกให้ระวัง อย่าประมาท...


...จวบจนได้รับการแนะนำให้หาพระกรุเก่า แต่ มีอาถรรพ์ ชุดนึง.. ผมก็แนะนำถ้าหา รีบไปหาหลวงปู่อริยเจ้า พิจารณาเลย ก่อนสิ้นปี 2558 ท่านยังแนะนำได้อยู่

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย การพก อุลกมณี ควร พกแบบให้สัมผัสตัวจะชัดเจนที่สุด คือ ถักเชือกติดตัว ราคาไม่แพงมากครับ หาตามร้านขายหินทั่วไปได้ ยกเว้นของปลอม...

ผลที่ชัดเจนแตกต่างจากพระเครื่อง คือ ทำงานราบรื่นขึ้น เช่นงานจุกจิก จากทำผิดบ่อย ก็น้อยลง ลองเปรียบเทียบการ พก ไม่พก มาแล้ว

 

มีแนะนำไหมครับว่า
ดู ยังไง
หา จากไหน..

ขอบคุณครับ

 

ที่พวกเคยไป วัดโคกหม้อ ลพบุรี นะครับ ที่ คนอื่นหา ก็เวบขายหิน ที่ คนนิยม